ผู้จัดการรายวัน-ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นทางหนึ่งในการช่วยผู้ที่กำลังมองหาอาชีพได้ตัดสินใจในการมีธุรกิจของตัวเองได้ เพราะถ้าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์และเป็นประโยชน์แล้วละก็ คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะชักชวนให้ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินแม้ว่าราคาจะสูงก็ตาม เฉกเช่น เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ DMI โปรแกรมตรวจสอบความเป็นอัจฉริยะของเด็ก
นายเกียรติบุตร เลิศวิทยา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด ผู้นำเข้าเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ DMI โปรแกรมตรวจสอบความเป็นอัจฉริยะของเด็ก จาก ประเทศสิงค์โปร์ กล่าวถึงเทคโนโลยีสแกนนิ้วมือ อัจฉริยะ DMI หรือ Dermatoglyphics Multiple Intelligence ว่า เป็นโปรแกรมสแกนลายนิ้วมือ ด้วย เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อทำการเก็บตัวอย่าง ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วและนำมาตรวจสอบ พร้อมกับเทียบเคียงคุณสมบัติทางด้านต่างๆ เช่น EQ-IQ ว่าคนนั้นๆ มีความสามารถด้านใดบ้าง
โดยเทคโนโลยี DMI จะทำการประมวลผลเปรียบเทียบกับ ฐานข้อมูลในระบบกว่า 7 ล้านตัวอย่างจากทั่วโลก ซึ่งจากข้อมูลการสแกนนั้น ส่วนกลางจะทำการวิจัยร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งในบางประเทศจะใช้เครื่องนี้ประยุกต์ควบคู่ในการรับสมัครงาน เพื่อเป็น ส่วนประกอบในการพิจารณาว่าคุณมีความสามารถเหมาะกับงานประเภทนั้นๆ หรือไม่
แม้แต่ในแง่ของอาชญกรบางประเทศก็นำDMIมาประยุกต์ดูว่าคนๆนั้นมีแนวโน้มอุปนิสัยรุนแรงหรือเปล่า โดยบริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด ได้นำเข้าซอฟแวร์ DMI เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแง่การพัฒนาการศึกษา ให้กับเด็กเล็ก ซึ่งก็เรียกได้ว่าได้ผลดีเยี่ยม
“ที่ผ่านมาเราเริ่มทดสอบสแกนลายนิ้วมือผู้ปกครอง ครู และนักเรียนโรงเรียนทับทอง จำนวน 30 คน แล้วส่งไปวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผลปรากฏว่าออกมาว่าผู้ปกครองยอมรับผลวิเคราะห์ค่อนข้างถูกต้อง หรือใกล้เคียงกว่า 80%
นายเกียรติบุตร บอกว่า ตอนเราเด็กๆ กับปัจจุบันนี้ โลกได้เปลี่ยนไปมาก เทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ล้วนมีส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตค่อนข้างมาก ตอนนี้ ทุกคนต้องหัด ให้ลูกใช้ข้อมูลในแต่ละด้านอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โปรแกรมตัวนี้จะทำให้เราทราบว่าลูกเรามีการกระจายในศักยภาพด้านต่างๆ อย่างไรบ้าง รวมถึงว่าลูกเก่งและโดดเด่นด้านไหน ถ้าเราทราบเร็วในช่วง 3- 10 ขวบ เราก็ มุ่งเน้นเขาไปด้านนั้น
สำหรับวิธีการทำงานของโปรแกรม DMI จะเก็บข้อมูลทั้ง 10 นิ้วเก็บทั้งนิ้วด้านตรง ด้านซ้าย ด้านขวา เพื่อให้ได้ ข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งยิ่งเก็บข้อมูลละเอียดมันจะมีข้อผิดพลาดน้อย หลังจากสแกนเสร็จ ทางบริษัทจะส่งข้อมูลไปที่ประเทศสิงคโปร์ โดย 1 เดือนให้หลัง ทางสิงคโปรก็จะส่งเป็นรายงานกลับมาให้เรา ขั้นตอนต่อมา คุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องเข้ามาฟังผลรายงานในลักษณะของการให้คำปรึกษาว่าวิธีการเลี้ยงดูและสื่อสารอย่างไรจะเหมาะกับลูกคุณ รวมถึงตัวอย่างวิชาชีพที่มักจะนำศักยภาพเด่นๆ เหมือนที่ลูกคุณมีมา
ทั้งนี้ ระยะเวลานั้น ก็ใช้เวลาในการให้คำปรึกษา ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยคุณพ่อ-แม่ก็สามารถนำรายงานผลกลับไปได้ โดยหลักๆ แล้วความสามารถที่ออกมาจะแบ่งได้เป็น 8 ด้านหลักๆ เช่น คู่แรก IQ ได้แก่ 1.ด้านตรรกะ 2.ด้านภาษา โดย 2 คู่ต่อมาเป็นด้าน EQ 3.การถ่ายทอดทางสังคม 4.การรู้จักตัวเองคู่ต่อมาเป็นด้าน AQ (หรือการเอาชนะอุปสรรค)5.ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อเล็กและกล้ามเนื้อใหญ่ เช่นด้านกีฬา หรือ ใช้ร่างกาย 6. การรักธรรมชาติ การช่วยเหลือตัวเองให้อยู่ในธรรมชาติ นักสังเกตุ รักสัตว์ อีกคู่หนึ่งคือ CQ (ความสามารถด้านความคิด สร้างสรรค์) 7. ด้านดนตรี เป็นเรื่องความชอบดนตรี ความสามารถในการแยกแยะโทนเสียง และจังหวะต่าง ๆ ตัวสุดท้ายคือ 8. ด้านมิติสัมพันธ์”
ส่วนคำถามที่ว่า การสแกนลายนิ้วมือ 10 นิ้วสามารถบอกได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด ตอบว่า มันเหมือนกับการบอกแนวโน้ม และลักษณะเฉพาะตัวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ถ้าถามว่า คล้ายๆกับการดูลายมือหรือเปล่า จริงๆแล้วตามมาตรฐานลายมือมันเปลี่ยนตลอด วันนี้ดู พรุ่งนี้ดู กับอีกปีหน้าดู ลายมือจะเปลี่ยน ไปไม่เหมือนเดิม แต่สำหรับลายนิ้วมือ คุณทำ DMI ตอน 3 ขวบ เหมือนกับตอนคุณ อายุ 40-50 ปี
กลุ่มเป้าหมาย คือเด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป เพราะลายนิ้วมือจะชัดขึ้นมา ส่วนที่ประมาณ 10 ขวบ ก็เริ่มจะเป็นวัยรุ่น ซึ่งอะไรต่างๆ มันก็จะเป็นไป ตามสิ่งแวดล้อม ตามเพื่อนตามฝูง ซึ่งถ้าอยากรู้ก็ได้ แต่การที่จะปรับ ปรับได้แต่ค่อนข้างที่จะยาก ยิ่งเด็กยิ่งดี ซึ่งจะสามารถเตรียมการเรียนการสอน การวางแผนอนาคตให้เขาได้
โดยลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ผ่านมา ประมาณ 200 กว่าคนแล้ว ส่วนใหญ่จะตรงประมาณ 80% ขึ้นไป ทำให้เรารู้สึกมั่นใจ ส่วนคำแนะนำที่เราแนะนำไปก็จะทำให้เขาเห็นลูกเขาได้ละเอียดมากขึ้น ซึ่งในอนาคตนั้น "เกียรติบุตร" บอกว่า คิดจะต่อยอดธุรกิจ โดยคาดว่า จะนำโปรแกรมไปต่อยอดกับทางสถาบันการศึกษา สถาบันกวดวิชา โรงพยาบาลต่างๆ ว่าอันไหนจะเหมาะสมกับทิศทางด้านการศึกษา สำหรับคนที่สนใจและใส่ใจกับลูกมากๆ
บริษัทมายด์แม็กซ์ 946 อาคารพาณิชย์ดุสิตธานี ในเขต โรงแรมดุสิตธานี ส่วนการสัมมนาจะใช้พื้นที่ของตึกอมรินทร์พลาซ่า เปิดบริการ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น.ถ้าวันเสาร์ 09.00-12.00 น. เวลากรณีพ่อแม่สะดวกวันอาทิตย์ สามารถจัดตารางให้ได้
โทร.0-2636-2658 หรือ www.mindmax.co.th
นายเกียรติบุตร เลิศวิทยา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด ผู้นำเข้าเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ DMI โปรแกรมตรวจสอบความเป็นอัจฉริยะของเด็ก จาก ประเทศสิงค์โปร์ กล่าวถึงเทคโนโลยีสแกนนิ้วมือ อัจฉริยะ DMI หรือ Dermatoglyphics Multiple Intelligence ว่า เป็นโปรแกรมสแกนลายนิ้วมือ ด้วย เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อทำการเก็บตัวอย่าง ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วและนำมาตรวจสอบ พร้อมกับเทียบเคียงคุณสมบัติทางด้านต่างๆ เช่น EQ-IQ ว่าคนนั้นๆ มีความสามารถด้านใดบ้าง
โดยเทคโนโลยี DMI จะทำการประมวลผลเปรียบเทียบกับ ฐานข้อมูลในระบบกว่า 7 ล้านตัวอย่างจากทั่วโลก ซึ่งจากข้อมูลการสแกนนั้น ส่วนกลางจะทำการวิจัยร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งในบางประเทศจะใช้เครื่องนี้ประยุกต์ควบคู่ในการรับสมัครงาน เพื่อเป็น ส่วนประกอบในการพิจารณาว่าคุณมีความสามารถเหมาะกับงานประเภทนั้นๆ หรือไม่
แม้แต่ในแง่ของอาชญกรบางประเทศก็นำDMIมาประยุกต์ดูว่าคนๆนั้นมีแนวโน้มอุปนิสัยรุนแรงหรือเปล่า โดยบริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด ได้นำเข้าซอฟแวร์ DMI เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแง่การพัฒนาการศึกษา ให้กับเด็กเล็ก ซึ่งก็เรียกได้ว่าได้ผลดีเยี่ยม
“ที่ผ่านมาเราเริ่มทดสอบสแกนลายนิ้วมือผู้ปกครอง ครู และนักเรียนโรงเรียนทับทอง จำนวน 30 คน แล้วส่งไปวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผลปรากฏว่าออกมาว่าผู้ปกครองยอมรับผลวิเคราะห์ค่อนข้างถูกต้อง หรือใกล้เคียงกว่า 80%
นายเกียรติบุตร บอกว่า ตอนเราเด็กๆ กับปัจจุบันนี้ โลกได้เปลี่ยนไปมาก เทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ล้วนมีส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตค่อนข้างมาก ตอนนี้ ทุกคนต้องหัด ให้ลูกใช้ข้อมูลในแต่ละด้านอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โปรแกรมตัวนี้จะทำให้เราทราบว่าลูกเรามีการกระจายในศักยภาพด้านต่างๆ อย่างไรบ้าง รวมถึงว่าลูกเก่งและโดดเด่นด้านไหน ถ้าเราทราบเร็วในช่วง 3- 10 ขวบ เราก็ มุ่งเน้นเขาไปด้านนั้น
สำหรับวิธีการทำงานของโปรแกรม DMI จะเก็บข้อมูลทั้ง 10 นิ้วเก็บทั้งนิ้วด้านตรง ด้านซ้าย ด้านขวา เพื่อให้ได้ ข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งยิ่งเก็บข้อมูลละเอียดมันจะมีข้อผิดพลาดน้อย หลังจากสแกนเสร็จ ทางบริษัทจะส่งข้อมูลไปที่ประเทศสิงคโปร์ โดย 1 เดือนให้หลัง ทางสิงคโปรก็จะส่งเป็นรายงานกลับมาให้เรา ขั้นตอนต่อมา คุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องเข้ามาฟังผลรายงานในลักษณะของการให้คำปรึกษาว่าวิธีการเลี้ยงดูและสื่อสารอย่างไรจะเหมาะกับลูกคุณ รวมถึงตัวอย่างวิชาชีพที่มักจะนำศักยภาพเด่นๆ เหมือนที่ลูกคุณมีมา
ทั้งนี้ ระยะเวลานั้น ก็ใช้เวลาในการให้คำปรึกษา ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยคุณพ่อ-แม่ก็สามารถนำรายงานผลกลับไปได้ โดยหลักๆ แล้วความสามารถที่ออกมาจะแบ่งได้เป็น 8 ด้านหลักๆ เช่น คู่แรก IQ ได้แก่ 1.ด้านตรรกะ 2.ด้านภาษา โดย 2 คู่ต่อมาเป็นด้าน EQ 3.การถ่ายทอดทางสังคม 4.การรู้จักตัวเองคู่ต่อมาเป็นด้าน AQ (หรือการเอาชนะอุปสรรค)5.ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อเล็กและกล้ามเนื้อใหญ่ เช่นด้านกีฬา หรือ ใช้ร่างกาย 6. การรักธรรมชาติ การช่วยเหลือตัวเองให้อยู่ในธรรมชาติ นักสังเกตุ รักสัตว์ อีกคู่หนึ่งคือ CQ (ความสามารถด้านความคิด สร้างสรรค์) 7. ด้านดนตรี เป็นเรื่องความชอบดนตรี ความสามารถในการแยกแยะโทนเสียง และจังหวะต่าง ๆ ตัวสุดท้ายคือ 8. ด้านมิติสัมพันธ์”
ส่วนคำถามที่ว่า การสแกนลายนิ้วมือ 10 นิ้วสามารถบอกได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มายด์แม็กซ์ จำกัด ตอบว่า มันเหมือนกับการบอกแนวโน้ม และลักษณะเฉพาะตัวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ถ้าถามว่า คล้ายๆกับการดูลายมือหรือเปล่า จริงๆแล้วตามมาตรฐานลายมือมันเปลี่ยนตลอด วันนี้ดู พรุ่งนี้ดู กับอีกปีหน้าดู ลายมือจะเปลี่ยน ไปไม่เหมือนเดิม แต่สำหรับลายนิ้วมือ คุณทำ DMI ตอน 3 ขวบ เหมือนกับตอนคุณ อายุ 40-50 ปี
กลุ่มเป้าหมาย คือเด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป เพราะลายนิ้วมือจะชัดขึ้นมา ส่วนที่ประมาณ 10 ขวบ ก็เริ่มจะเป็นวัยรุ่น ซึ่งอะไรต่างๆ มันก็จะเป็นไป ตามสิ่งแวดล้อม ตามเพื่อนตามฝูง ซึ่งถ้าอยากรู้ก็ได้ แต่การที่จะปรับ ปรับได้แต่ค่อนข้างที่จะยาก ยิ่งเด็กยิ่งดี ซึ่งจะสามารถเตรียมการเรียนการสอน การวางแผนอนาคตให้เขาได้
โดยลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ผ่านมา ประมาณ 200 กว่าคนแล้ว ส่วนใหญ่จะตรงประมาณ 80% ขึ้นไป ทำให้เรารู้สึกมั่นใจ ส่วนคำแนะนำที่เราแนะนำไปก็จะทำให้เขาเห็นลูกเขาได้ละเอียดมากขึ้น ซึ่งในอนาคตนั้น "เกียรติบุตร" บอกว่า คิดจะต่อยอดธุรกิจ โดยคาดว่า จะนำโปรแกรมไปต่อยอดกับทางสถาบันการศึกษา สถาบันกวดวิชา โรงพยาบาลต่างๆ ว่าอันไหนจะเหมาะสมกับทิศทางด้านการศึกษา สำหรับคนที่สนใจและใส่ใจกับลูกมากๆ
บริษัทมายด์แม็กซ์ 946 อาคารพาณิชย์ดุสิตธานี ในเขต โรงแรมดุสิตธานี ส่วนการสัมมนาจะใช้พื้นที่ของตึกอมรินทร์พลาซ่า เปิดบริการ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น.ถ้าวันเสาร์ 09.00-12.00 น. เวลากรณีพ่อแม่สะดวกวันอาทิตย์ สามารถจัดตารางให้ได้
โทร.0-2636-2658 หรือ www.mindmax.co.th