00 เห็นภาพอดีตผู้นำใต้หวัน “เฉินสุยเปียน” ถูกใส่กุญแจมือควบคุมตัวเข้าห้องขังแล้วอดนำมาเปรียบเทียบกับชะตากรรมของ “เฮียเหลี่ยม” อดีตผู้นำของไทยที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ได้ใกล้เคียงกัน แม้ในรายละเอียดของคดีจะไม่เหมือนกันนัก แต่โดยสรุปก็คือทั้งคู่ถูกตั้งข้อหา “ทุจริต” ขณะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเหมือนกัน แถมยังบังเอิญเหมือนกันตรงที่ทั้งคู่ต่างก็โวยวายไม่ยอมรับเหมือนกันอีกว่า “ผมถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง”
00 “เฉิน” โทษว่า ผู้นำคนปัจจุบันสมคบกับจีนแผ่นดินใหญ่ให้จับยัดคุก ขณะที่ “ทักษิณ”โฟนอินอ้างว่า “เขา” อยู่เบื้องหลังและกำลังรุกไล่จนแทบไม่มีที่ยืน อย่างไรก็ดี ชะตากรรมทั้งคู่อาจต่างกันบ้างเล็กน้อยนั่นคือ คนแรกถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม ขณะที่ คนหลังแม้ถูกศาลสั่งจำคุกแต่ยังหลบหนี ตุหรัดตุเหร่ ยังไม่มีแผ่นดินอยู่ถาวร
00 ทั้ง เฉิน และแม้ว ก็คงจะไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะตกที่นั่งแบบนี้ เพราะต่างก็เคยยิ่งใหญ่คับประเทศ เฉิน เป็นผู้นำใต้หวันนานถึง 8 ปี เคยเอาชนะพรรคก๊กมินตั๋งที่ก่อตั้งโดย “เจียงไคเช็ก” อย่างถล่มทลาย ส่วน แม้ว ก็ได้รับความนิยมจากการเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ก็ดันมีเรื่องอื้อฉาวในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเหมือนกัน ดังนั้นนาทีนี้ต้องลุ้นกันระทึกว่า อดีตผู้นำขี้โกงจะจบลงในบั้นปลายอย่างไร อีกไม่นานก็คงรู้กันแล้ว !!
00 สำหรับ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” ถือว่าจบไม่สวย ตอนแรกหลายคนคิดกันว่า มีลุ้นเป็นนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล แต่ต้องมาตกม้าตาย จำใจ “ไขก๊อก” พ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.สมัยที่สองทั้งที่เพิ่งนั่งมาได้เพียงแค่เดือนเศษๆ หลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดี รถ-เรือดับเพลิง พร้อมๆกับทีมของ “หมัก-โภคิน-วัฒนา-ประชา” กราวรูด แม้โฟกัสจะเห็นว่าต่างกัน เนื่องจากไม่ใช่ถูกชี้มูลทุจริต แต่ผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ถึงอย่างไรก็ถือว่ามีแต่ผลลบ เพราะเป็นรอยด่างทางการเมืองติดตัว
00 ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งการตัดสินของป.ป.ช. คราวนี้มันยังทำให้ลบข้อครหาจากสังคมให้มั่นใจว่า “ไม่มีนอกมีใน” ไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้นคดีใหญ่ๆ ที่เหลือซึ่งคนของพรรคพลังประชาชนกำลังขึ้นเขียงรอเชือดอยู่ ทั้ง “ชายหน้าเหมือน” ในเรื่องทำผิด มาตรา 190 หรือกรณีถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ที่จ่อคอหอยเข้ามา ถ้าเกิดป๊อกขึ้นมาแล้วอย่ามาโวยให้รำคาญก็แล้วกัน
00 รายนี้ก็กำลังดิ้นรนหนีคุกไม่แพ้กัน สำหรับ “นวยนิ่มมะโน” เนื่องจากเริ่มมองเห็นลูกกรงมาแต่ไกลแล้ว ออกอาการโวยวาย ไม่ยอมรับให้เปลี่ยนตัว “วิชา มหาคุณ” ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณี 7 ตุลาทมิฬ ฐานมีส่วนร่วมเข่นฆ่าประชาชน หาว่าเป็นคู่กรณีเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงกับลงทุนส่งลูกน้องไปแจ้งความเอาผิดไว้ที่ สน.ลาดพร้าว เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 1 พ.ย. จากนั้นถัดมาวันที่ 5 พ.ย. ก็เอาสำเนาเอกสารนั้นไปแจ้งให้เปลี่ยนตัวคนสอบสวน แหมวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนจริงๆ แถมยังทำได้ถึงขนาดหน้ามืดซัดทอดลูกพี่ “สมชาย-สุชาติ” ไปเต็มๆ
00 แค่นั้นไม่พอ ยังเสร่อถึงขั้นไม่ดูตาม้าตาเรือ กล่าวหาว่า ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน มีที่มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ยกประเด็นไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ มาโต้แย้งเสียอีกโดยไม่รู้ว่าประเด็นนี้เคลียร์กันไปตั้งนานแล้ว หลังจากสำนักราชเลขาธิการฯได้ทำหนังสือชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่ต้องเข้าถวายสัตย์ฯ
00 แต่ถึงอย่างไรถ้าพิจารณาจากข้อมูลรอบด้านที่มีอยู่ในมือตอนนี้ ค่อนข้างเชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า โอกาสเข้าปิ้งมีสูงยิ่ง บอกได้แค่นี้ก็แล้วกัน !!
00 “เฉิน” โทษว่า ผู้นำคนปัจจุบันสมคบกับจีนแผ่นดินใหญ่ให้จับยัดคุก ขณะที่ “ทักษิณ”โฟนอินอ้างว่า “เขา” อยู่เบื้องหลังและกำลังรุกไล่จนแทบไม่มีที่ยืน อย่างไรก็ดี ชะตากรรมทั้งคู่อาจต่างกันบ้างเล็กน้อยนั่นคือ คนแรกถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม ขณะที่ คนหลังแม้ถูกศาลสั่งจำคุกแต่ยังหลบหนี ตุหรัดตุเหร่ ยังไม่มีแผ่นดินอยู่ถาวร
00 ทั้ง เฉิน และแม้ว ก็คงจะไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะตกที่นั่งแบบนี้ เพราะต่างก็เคยยิ่งใหญ่คับประเทศ เฉิน เป็นผู้นำใต้หวันนานถึง 8 ปี เคยเอาชนะพรรคก๊กมินตั๋งที่ก่อตั้งโดย “เจียงไคเช็ก” อย่างถล่มทลาย ส่วน แม้ว ก็ได้รับความนิยมจากการเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ก็ดันมีเรื่องอื้อฉาวในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเหมือนกัน ดังนั้นนาทีนี้ต้องลุ้นกันระทึกว่า อดีตผู้นำขี้โกงจะจบลงในบั้นปลายอย่างไร อีกไม่นานก็คงรู้กันแล้ว !!
00 สำหรับ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” ถือว่าจบไม่สวย ตอนแรกหลายคนคิดกันว่า มีลุ้นเป็นนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล แต่ต้องมาตกม้าตาย จำใจ “ไขก๊อก” พ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.สมัยที่สองทั้งที่เพิ่งนั่งมาได้เพียงแค่เดือนเศษๆ หลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดี รถ-เรือดับเพลิง พร้อมๆกับทีมของ “หมัก-โภคิน-วัฒนา-ประชา” กราวรูด แม้โฟกัสจะเห็นว่าต่างกัน เนื่องจากไม่ใช่ถูกชี้มูลทุจริต แต่ผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ถึงอย่างไรก็ถือว่ามีแต่ผลลบ เพราะเป็นรอยด่างทางการเมืองติดตัว
00 ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งการตัดสินของป.ป.ช. คราวนี้มันยังทำให้ลบข้อครหาจากสังคมให้มั่นใจว่า “ไม่มีนอกมีใน” ไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้นคดีใหญ่ๆ ที่เหลือซึ่งคนของพรรคพลังประชาชนกำลังขึ้นเขียงรอเชือดอยู่ ทั้ง “ชายหน้าเหมือน” ในเรื่องทำผิด มาตรา 190 หรือกรณีถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ที่จ่อคอหอยเข้ามา ถ้าเกิดป๊อกขึ้นมาแล้วอย่ามาโวยให้รำคาญก็แล้วกัน
00 รายนี้ก็กำลังดิ้นรนหนีคุกไม่แพ้กัน สำหรับ “นวยนิ่มมะโน” เนื่องจากเริ่มมองเห็นลูกกรงมาแต่ไกลแล้ว ออกอาการโวยวาย ไม่ยอมรับให้เปลี่ยนตัว “วิชา มหาคุณ” ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณี 7 ตุลาทมิฬ ฐานมีส่วนร่วมเข่นฆ่าประชาชน หาว่าเป็นคู่กรณีเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงกับลงทุนส่งลูกน้องไปแจ้งความเอาผิดไว้ที่ สน.ลาดพร้าว เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 1 พ.ย. จากนั้นถัดมาวันที่ 5 พ.ย. ก็เอาสำเนาเอกสารนั้นไปแจ้งให้เปลี่ยนตัวคนสอบสวน แหมวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนจริงๆ แถมยังทำได้ถึงขนาดหน้ามืดซัดทอดลูกพี่ “สมชาย-สุชาติ” ไปเต็มๆ
00 แค่นั้นไม่พอ ยังเสร่อถึงขั้นไม่ดูตาม้าตาเรือ กล่าวหาว่า ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน มีที่มาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ยกประเด็นไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ มาโต้แย้งเสียอีกโดยไม่รู้ว่าประเด็นนี้เคลียร์กันไปตั้งนานแล้ว หลังจากสำนักราชเลขาธิการฯได้ทำหนังสือชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่ต้องเข้าถวายสัตย์ฯ
00 แต่ถึงอย่างไรถ้าพิจารณาจากข้อมูลรอบด้านที่มีอยู่ในมือตอนนี้ ค่อนข้างเชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า โอกาสเข้าปิ้งมีสูงยิ่ง บอกได้แค่นี้ก็แล้วกัน !!