นครบาลออกหมายจับเพิ่มอีก 8 เสื้อแดง ทำตัวเป็นหัวหน้า-ผู้สั่งการ ยุยงสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง “นวยนิ่ม” ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง ไม่มีสองมาตรฐาน หลักฐานชัดอัตราโทษเกินไม่ต้องออกหมายเรียก
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการถอดเทปปราศรัยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากการถอดเทปคำปราศรัยเมื่อช่วงสงกรานต์ วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีการปิดการจราจรบนเวทีที่สะพานชมัยมรุเชฐ แกนนำที่จัดให้มีการชุมนุมได้ขึ้นกล่าวปราศรัย และส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการถอดเทปคำปราศรัยอย่างต่อเนื่อง จากการถอดเทปพบผู้กระทำผิดอีก 8 คนเป็นอย่างน้อย จึงนำพยานหลักฐานเสนอต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่ถูกออกหมายจับเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย 2.นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ 3.นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ 4.นายสมชาย ไพบูลย์ 5.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 6.นายพายัพ ปั้นเกตุ 7.นายเมธี อมรวุฒิกุล และ 8.นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1691-1698/2552 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2552 ตามลำดับ ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ,ร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในท้องที่กรุงเทพมหานคร หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
“การออกหมายจับครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการทำงานแบบ 2 มาตราฐาน การดำเนินการสอบสวนนั้นทำงานกันอย่างต่อเนื่อง และผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองจนตกผลึกจึงจะมีการดำเนินการขออนุมัติหมายจับ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า หากถามว่าทำไมไม่มีการออกหมายเรียกก่อน เนื่องจากข้อหาที่ปรากฏนั้นอัตราโทษเกินและร่วมกับคดีเดิมที่เคยมีการออกหมายจับไปแล้ว ศาลจึงอนุมัติหมายจับแก่พนักงานสอบสวน ซึ่ง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์สืบสวนนำหมายจับไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ออกหมายจับและทราบแล้วให้ติดต่อขอมอบตัวได้ และสามารถนำพยานหลักฐานที่มีมาหักล้างข้อกล่าวหาได้ ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่นั้นอย่านำมาเป็นข้อต่อรอง เรื่องนั้นเป็นเรื่องของอนาคต
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการถอดเทปปราศรัยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากการถอดเทปคำปราศรัยเมื่อช่วงสงกรานต์ วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีการปิดการจราจรบนเวทีที่สะพานชมัยมรุเชฐ แกนนำที่จัดให้มีการชุมนุมได้ขึ้นกล่าวปราศรัย และส่วนของเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการถอดเทปคำปราศรัยอย่างต่อเนื่อง จากการถอดเทปพบผู้กระทำผิดอีก 8 คนเป็นอย่างน้อย จึงนำพยานหลักฐานเสนอต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่ถูกออกหมายจับเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย 2.นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ 3.นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ 4.นายสมชาย ไพบูลย์ 5.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ 6.นายพายัพ ปั้นเกตุ 7.นายเมธี อมรวุฒิกุล และ 8.นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1691-1698/2552 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2552 ตามลำดับ ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ,ร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปในท้องที่กรุงเทพมหานคร หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
“การออกหมายจับครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการทำงานแบบ 2 มาตราฐาน การดำเนินการสอบสวนนั้นทำงานกันอย่างต่อเนื่อง และผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองจนตกผลึกจึงจะมีการดำเนินการขออนุมัติหมายจับ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า หากถามว่าทำไมไม่มีการออกหมายเรียกก่อน เนื่องจากข้อหาที่ปรากฏนั้นอัตราโทษเกินและร่วมกับคดีเดิมที่เคยมีการออกหมายจับไปแล้ว ศาลจึงอนุมัติหมายจับแก่พนักงานสอบสวน ซึ่ง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์สืบสวนนำหมายจับไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ออกหมายจับและทราบแล้วให้ติดต่อขอมอบตัวได้ และสามารถนำพยานหลักฐานที่มีมาหักล้างข้อกล่าวหาได้ ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่นั้นอย่านำมาเป็นข้อต่อรอง เรื่องนั้นเป็นเรื่องของอนาคต
