“นวยนิ่ม” ยอมรับคงเรียก “ทักษิณ” สอบปากคำคดีแดงถ่อยป่วนเมืองไม่ได้ เพราะอยู่ต่างประเทศ ส่วนคนถูกออกหมายจับที่เหลือเจอที่ไหนจับได้ทันที เร่งรวบรวมหลักฐานหารายอื่นทำผิดเพิ่ม ย้ำถ้าเสื้อแดงยังวุ่นวายที่ศาลวันฝากขังแกนนำ ถือว่าละเมิดอำนาจศาลจะถูกดำเนินคดีเช่นกัน
วันนี้ (15 เม.ย.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ออกหมายจับจำนวน 13 คน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงเรียกไม่ได้ เพราะอยู่ต่างประเทศ ซึ่งที่มามอบตัวแล้วมี 3 คน ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ช่วงระหว่างสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส่วนที่เหลือคงไม่ต้องออกหมายเรียกแล้วเพราะมีหมายจับ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พบเห็นที่ไหนก็รวบตัวได้ทันที นอกเหนือจากนี้จะมีรายอื่นหรือไม่ต้องตรวจสอบหลักฐานจากเทปบันทึก ใครพูดอะไรต้องรับผิดชอบ
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า หลังจากออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีข้อกำหนดว่าห้ามชุมนุมมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากผู้ชุมนุมยังชุมนุมกันอยู่ คนที่ขึ้นปราศรัยถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายต้องมีความผิด มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท ซึ่งขั้นตอนก็ต้องออกหมายเรียกก่อน ถ้าไม่มาก็ออกหมายจับ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนแกนนำทั้ง 3 คนที่เข้ามอบตัวได้ขอยื่นประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต ซึ่งดำเนินไปตามข้อกฎหมาย โดยในวันที่ 16 เม.ย.ก็ตัองไปฝากขังศาลอาญา ซึ่งแกนนำสามารถยื่นขอประกันตัวในใช้ศาลได้
“หากกลุ่มเสื้อแดงไปวุ่นวายที่ศาล ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลก็จะถูกดำเนินคดีทันที ส่วนคดีพันธมิตรฯ ยึดสนามบินดอนเมือง พนักงานสอบสวนของ บช.น.ดำเนินการเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการร่วมคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมี บช.ภ.1 เป็นผู้ดำเนินการ โดยมี ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน” รอง ผบช.น.กล่าว