xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมดันแหล่งพบฟอสซิลไดโนเสาร์ภูน้อยเป็นที่ท่องเที่ยวใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์-รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีนำคณะนักสำรวจผู้เชี่ยวชาญซากดึกดำบรรพ์ และผู้เชี่ยวชาญสัตว์โบราณจากต่างประเทศลงพื้นที่สำรวจแหล่งค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ภูน้อย อ.คำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งอายุมากกว่า 150 ล้านปี ระบุเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินพืชขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมเตรียมส่งนักธรณีวิทยาสำรวจอย่างละเอียด และผลักดันให้เป็นแหล่งขุดค้นพบ ท่องเที่ยว และศึกษาแห่งที่ 2 ของจังหวัดกาฬสินธุ์

วานนี้(11 พ.ย.)นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ดร.วราวุธ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซากดึกดำบรรพ์และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ นำคณะนักสำรวจ คณะผู้เชี่ยวชาญซากดึกดำบรรพ์ และผู้เชี่ยวชาญสัตว์โบราณ จากสภาวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประเทศฝรั่งเศส และผู้เชี่ยวชาญซากดึกดำบรรพ์จากประเทศอังกฤษ และนักธรณีวิทยาของประเทศไทย กว่า 30 คน ลงพื้นที่สำรวจและเก็บตัวอย่างฟอสซิลไดโนเสาร์ กระดูก และชิ้นส่วนสัตว์โบราณ บริเวณแหล่งค้นพบซากฟอสซิล ภูน้อย ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปวิเคราะห์ชนิดของสัตว์โบราณอย่างละเอียด

นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า หลังจากมีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ และกระดูกชิ้นส่วนของสัตว์โบราณ เช่น ปลา จระเข้ เต่าจำนวนมากที่บริเวณภูน้อย ในเขตพื้นที่ ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีอายุถึง 150 ล้านปี มากที่สุดที่เคยค้นพบมา ซึ่งต่อไปกรมทรัพยากรธรณีจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าแผนพัฒนาและสำรวจ

เบื้องต้นจะดำเนินการพัฒนาสถานที่ดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ซากดึกดำบรรพ์ และประกาศเป็นพื้นที่ขุดค้นพบซากดึกดำบรรพ์ และจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจอย่างละเอียดในเร็วๆนี้ เพราะเท่าที่ทราบการสำรวจเป็นการสำรวจเพียงเบื้องต้น ขุดสำรวจมีความลึกประมาณ 1 เมตรเท่านั้น ซึ่งหากมีการสำรวจลงลึกลงไปในชั้นหินอาจจะค้นพบฟอสซิล และมีความสมบูรณ์อีกจำนวนมากก็ได้

อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้ หากมีการค้นพบฟอสซิลที่มีความสมบูรณ์ ก็มีแนวโน้มในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งขุดค้นพบ และเป็นแหล่งค้นคว้าศึกษาวิจัยแห่งที่ 2 ของ จ.กาฬสินธุ์ก็ได้ เพราะดูสภาพพื้นที่แล้วก็ถือว่ามีความเหมาะสมอยู่มาก

นายวรศาสน์ กล่าวต่อว่า การค้นพบฟอสซิลครั้งนี้ ได้สร้างความสนใจแก่นักสำรวจ และผู้เชี่ยวชาญซากดึกดำบรรพ์ และผู้เชี่ยวชาญสัตว์โบราณจากต่างประเทศทั้งประเทศอังกฤษ และประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในวันนี้คณะผู้เชี่ยวชาญก็ได้ให้ความสนใจลงพื้นที่สำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณี บริเวณแหล่งขุดค้นพบภูน้อย พร้อมทั้งให้คำแนะนำ ขั้นตอนการสำรวจ เพื่อนำไปทำการสำรวจอย่างละเอียด

นอกจากนี้ยังมีการเก็บชิ้นส่วน กระดูก รวมทั้งดิน ทุกๆจุดที่ค้นพบไปตรวจสอบ เพื่อวิเคราะห์อายุ และชนิดของฟอสซิลที่พบอีกด้วย ส่วนเรื่องการเก็บรักษาฟอสซิลที่ค้นพบ ได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอคำม่วง และ อบต.ดินจี่ โดยมีการกักกันพื้นที่ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามทุกวัน เพื่อป้องกันการแอบลักขโมย

อย่างไรก็ตามหากผู้ใดที่ฝ่าฝืนแอบขึ้นไปขโมย เพื่อนำไปขายให้นายทุน หรือนำไปครอบครองเอง หากถูกจับได้ก็จะถูกดำเนินคดีเตามกฎหมายทันที

ด้านดร.วราวุธ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซากดึกดำบรรพ์และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า การค้นพบฟอสซิลครั้งนี้ เบื้องต้นเราค้นพบในชั้นหินเก่าแก่กว่าที่ ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เนื่องจากมีอายุมากถึง 150 ล้านปี มากกว่าที่มีการขุดค้นพบมา

ฟอสซิลที่พบส่วนใหญ่เป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ ชนิดกินพืช หรือที่เรียกว่าซอโรพอด ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่พิพิธภัณฑ์สิรินธรถึง 20-30 % นอกจากนี้ยังพบกระดูกสัตว์โบราณ เช่น เต่า จระเข้ ปลา โดยเฉพาะปลา ซึ่งพบว่ามีความยาวถึง 1 เมตร และมีขนาดใหญ่กว่าที่ค้นพบที่ภูน้ำจั่นถึง 2 เท่า ทั้งนี้ฟอสซิลที่พบในพื้นที่ภูน้อยแห่งนี้อยู่อย่างกระจัดกระจาย

ดังนั้นต่อไปจะต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียด เพื่อตรวจหาชนิดของสัตว์ และจำนวนของฟอสซิล ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถเริ่มลงมือได้ในช่วงฤดูหนาวนี้

ขณะที่นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับอบต.ดินจี่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยกันดูแลสอดส่อง และร่วมกันรักษาฟอสซิลที่ค้นพบ โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลทุกวัน เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้าไปขโมย

นอกจากนี้ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลแหล่งค้นพบต้นไม้กลายเป็นหิน ที่บริเวณภูปอ ต.นาบอน อ.คำม่วงอีกด้วย เพื่อป้องกันการลักขโมย
กำลังโหลดความคิดเห็น