xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯเชียงใหม่กระอักกำลังซื้อหด ผังเมืองกระทบ/บ้านจัดสรรค้าง 8 พันยูนิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก จากทั้งปัญหาเศรษฐกิจและร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ (ปรับปรุงครั้งที่ 3)
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – อสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ –กำลังซื้อหด-ผังเมืองกระทบการพัฒนา บ้านจัดสรรคงค้างกว่า 8,000 ยูนิต ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อลดฮวบ กระทบยอดจำหน่ายบ้าน 2.5-3.5 ล้านบาท ซึ่งขายดีที่สุด คาดกระทบยาวปี 52 ด้าน “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” โตสวนกระแสครึ่งปีจำหน่ายได้กว่า 500 ยูนิต ยอดพุ่ง 1,500 ล้านบาท คาดสิ้นปียอดจำหน่ายทะลุเป้า 3,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2550 ร่วม 600 ล้านบาท

นายวัชระ ตันตรานนท์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน เปิดเผยว่า สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในเขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน อยู่ในสภาวะชะลอตัวเนื่องจากประสบปัญหาเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และปัญหาการเมือง ส่งผลให้ประชาชนไม่มีกำลังซื้อหรือชะลอการซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน

ปัจจุบันมีโครงการบ้านจัดสรรที่คงค้างกว่า 8,000 ยูนิต ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ จากเดิม 10 รายได้รับการอนุมัติ 6 ราย ปัจจุบัน 10 ราย ได้รับการอนุมัติเพียง 2 รายเท่านั้น ส่งผลให้ไม่มีโครงการเกิดขึ้นใหม่ ขณะที่โครงการที่มีอยู่เดิมก็ต้องเร่งส่งเสริมการขายให้ได้

“ทั้งนี้จากเดิมบ้านที่มีราคา 2.5 – 3.5 ล้านบาท ถือว่าขายดีที่สุด แต่ปัจจุบันเริ่มขายได้น้อยลง ขณะที่ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจแล้ว ผังเมืองเชียงใหม่ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่เติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากมีการกำหนดพื้นที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะในความเป็นจริง โดยเฉพาะพื้นที่ชานเมืองซึ่งส่วนใหญ่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่การเกษตรไม่สามารถทำบ้านจัดสรร หรืออาคารพาณิชย์ ได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาพื้นที่ในเขตเมืองซึ่งมีราคาแพง ไร่ละ 3-5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพัฒนาเสร็จแล้วขายลำบากเป็นอย่างมาก

“ผังเมืองไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งจะกระทบกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากมีบ้านสักหลัง แต่ก็ต้องหาซื้อลำบาก เพราะมีราคาแพง เนื่องจากต้นทุนสูง ส่วนผู้ประกอบการก็จะเริ่มเหลือน้อยลงเพราะพื้นที่รอบเมืองถูกกำหนดให้เป็นสีเขียว ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีที่ดินอยู่แล้วก็จะได้เปรียบทั้งในแง่การลงทุนหรือซื้อที่ดินเพิ่ม ซึ่งล่าสุดกลุ่มเซ็นทรัล ได้เตรียมก่อสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 250,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 70 ไร่ บนเส้นทางสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ดอีกด้วย ” นายวัชระกล่าว

ด้านนายนนท์ หิรัญเชษฐ์ เลขาธิการสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน กล่าวว่า สถิติการจัดเก็บรายได้จากสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ โดยปี 2549 เก็บได้ทั้งสิ้น 1,644,737,984 บาท ปี 2550 เก็บได้ 1,599,000,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2551 จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2551 จัดเก็บได้ 1,100,000,000 บาท

โดยเป็นการบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีว่าชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตามการชะลอตัวดังกล่าวยังมีการซื้อขาย ได้อย่างต่อเนื่องแต่ไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยปี 2549 เก็บภาษีการซื้อขายที่ดิน ได้ 782 ล้านบาท ปี 2550 เก็บได้ 766 ล้านบาท ส่วนปี 2551 ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2551 เก็บได้ 546 ล้านบาท

ทั้งนี้ สถานการณ์การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2552 โดยเชื่อว่าจะไม่ชะลอตัวหรือเลวร้ายกว่านี้อีกอย่างแน่นอน ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการปรับตัวของผู้ประกอบการ และพฤติกรรมการซื้อบ้าน หรืออาคารพาณิชย์ของผู้บริโภค คาดว่าบ้านที่มีราคาระหว่าง 3.5-5 ล้านบาท จะยังจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปก็มีกระแสตอบรับอย่างดีเช่นกัน

“แลนด์แอนด์เฮ้าส์” โตสวนเศรษฐกิจ
ครึ่งปีพุ่ง 1,500 ล.คาดสิ้นปีทะลุ 3 พันล.

นายไพศาล ภู่เจริญ อุปนายกสมาคมผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน และ รองประธานกรรมการ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ยอดการจำหน่ายบ้านจัดสรรในครั้งปีแรก ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 543 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,551 ล้านบาท สูงกว่าปี 2550 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน โดยจำหน่ายได้ 1,518 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่าในครึ่งปีหลัง จะจำหน่ายได้อีกประมาณ 500 กว่ายูนิต รวมมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท รวมปี 2551 คาดว่าจะจำหน่ายได้ประมาณ 1,000 ยูนิต รวมมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2550 ที่จำหน่ายได้ 2,404 ล้านบาท ขณะที่ปี 2549 รวมยอดจำหน่าย 2,255 ล้านบาท ปี 2548 รวมยอดจำหน่าย 2,535 ล้านบาท

สัดส่วนการจำหน่ายบ้านจัดสรรจะอยู่ที่ 2.5-3.5 ล้านบาท 24% ช่วง 1.5-2.5 ล้านบาท 23% ช่วง 3.5-5 ล้านบาท 19% ช่วง 7 ล้านบาทขึ้นไป 13% ช่วง 5-7 ล้านบาท 12% ช่วง 1-1.5 ล้านบาท 7% และ น้อยกว่า 1 ล้านบาท 2%

โซนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่มีสัดส่วนจำหน่ายมากที่สุด 38% โซนใต้ 30% และโซนตะวันออก 32% ส่วนโซนฝั่งตะวันตกติดดอยสุเทพซึ่งไม่สามารถทำบ้านจัดสรรได้ ซึ่งคาดว่าโซนเหนือจะขยายตัวต่อเนื่องเพราะมีพื้นที่รอการพัฒนาอีกมาก และส่วนใหญ่เป็นทำเลที่ดี น้ำไม่ท่วมและไม่แออัด

นายไพศาล กล่าวต่ออีกว่า สำหรับยอดจำหน่ายบ้านของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ที่เติบโตสวนกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ดี รวมทั้งมีการสำรวจตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบถึงความต้องการของลูกค้าทั้งในเรื่องแบบบ้าน ราคาบ้าน รวมทั้งการสำรวจคู่แข่งในพื้นที่ด้วย

“ยอดขายที่เพิ่มขึ้นถือว่าน่าพอใจอย่างมากกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วบ้านจัดสรรเชียงใหม่ยังขยายตัวเล็กน้อยสำหรับผู้ประกอบการเดิม ซึ่งนอกจากผู้บริโภคที่กำลังซื้อหดแล้ว ผู้ประกอบการก็ยังถูกควบคุมโดยผังเมืองเชียงใหม่ที่ประกาศออกมา โดยไม่สอดคล้องต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ทำให้การพัฒนาที่ดินยากขึ้นเนื่องจากมีต้นทุนสูง” นายไพศาล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น