ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน โอดร่างผังเมืองเชียงใหม่ข้อกำหนดหยุมหยิม กระทบโครงการบ้านจัดสรรเป็นหมัน สวนทางนโยบายผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค ร้อง “สมัคร”ช่วย หากไม่เป็นผล ล่ารายชื่อเจ้าของที่ดินที่ได้รับผลกระทบร้องคัดค้านปิดประกาศ พร้อมยื่นฟ้องศาลปกครอง เป็นที่พึ่งสุดท้าย
นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์ เลขาธิการสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน กล่าวถึงผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่(ปรับปรุงครั้งที่ 3) ที่ อยู่ระหว่างการติดประกาศ 90 วันว่า จากการตรวจสอบดูรายละเอียดข้อกำหนดในผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พบว่า ไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดตามที่ภาคเอกชนและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ได้เรียกร้องและพยายามผลักดันมาตลอด โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการกำหนด ห้ามทำโครงการจัดสรรในพื้นที่สีเขียว หรือที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม รวมทั้งการควบคุมความสูงของอาคาร ซึ่งเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเมือง และกระทบต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะทำให้พื้นที่ที่สามารถก่อสร้างบ้านจัดสรรเหลือน้อยลง และถูกจำกัดมากขึ้น
จากกรณีดังกล่าว สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูนได้ทำหนังสือถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขอให้ช่วยเหลือและทบทวนปรับปรุงแก้ไขร่างผังเมืองฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยยื่นหนังสือและนำเสนอข้อเรียกร้องมาแล้ว เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีร่วมประชุมแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับภาคเอกชนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้
"การยื่นหนังสือในครั้งนี้คงจะต้องรอดูท่าทีของนายกรัฐมนตรีว่า จะให้ความช่วยเหลือหรือไม่ มากน้อยเพียงใด"
ส่วนการยื่นคำร้องคัดค้านผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่(ปรับปรุงครั้งที่3) ที่ติดประกาศอยู่ สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน พร้อมด้วยพันธมิตรภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และชมรมธนาคาร เตรียมรวบรวมรายชื่อเจ้าของที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากร่างผังเมืองฯ เพื่อยื่นคำร้องเสนอคัดค้านและให้มีการปรับปรุง หลักๆ อยากจะขอให้พื้นที่สีเขียวบริเวณวงแหวนรอบ 3 สามารถทำการจัดสรรได้ ซึ่งหากท้ายที่สุดแล้ว ยังไม่ได้รับการตอบสนองอาจจะมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป
“ในการจัดทำผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ฉบับนี้ ที่ผ่านมาทั้งภาคประชาชนและภาคอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกร้องให้แก้ไขปรับปรุงเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ ในผังเมืองฉบับนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งมีการติดประกาศ ที่ปรากฏว่า ในส่วนข้อเรียกร้องของภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้รับการตอบสนองเลย ซึ่งมองว่าเป็นการสวนทางกับทิศทางและนโยบายของรัฐ ที่ต้องการพัฒนาผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจทั้งการค้าและการลงทุน เพราะการที่ผังเมืองมีการวางข้อกำหนดจำกัดการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์หรือโครงการบ้านจัดสรรเช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เมืองเติบโตขึ้น” นายนนท์ กล่าว
นอกจากนี้ เลขาธิการสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ภาพรวมในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าซบเซาลงมาก แม้จะมีการออกมาตรการทางด้านภาษีมาจูงใจแล้วก็ตาม โดยสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อลดน้อยถอยลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลมีการออก 6 มาตรการ 6 เดือน มีผลบังคับใช้ก็สามารถช่วยกระตุ้นตลาดบ้านในระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทสำหรับผู้ที่มีบ้านหลังแรกได้ดีในระดับหนึ่ง ส่วนแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้มองว่า หากราคาน้ำมันยังมีการลดลงต่อเนื่องและไม่มีปัจจัยทางการเมืองเป็นตัวแทรกแซงแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น