xs
xsm
sm
md
lg

สนธิเตรียมไปจีนแจง “แม้ว” โฟนอินหมิ่น “เบื้องสูง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - “สนธิ” เตรียมลัดฟ้านำข้อมูล “ทักษิณ” โฟนอินหมิ่นเบื้องสูงแจงรัฐบาลจีน หลัง “นช.แม้ว” หนีหัวซุกหัวซุนเตรียมใช้เกาะฮ่องกงวางแผนถล่ม พร้อมเชื่อรัฐตำรวจจ้องป้ายสีทำลายความชอบธรรมพันธมิตรฯ แฉอดีตการ์ดอาสาที่ถูกไล่ออกโดนซื้อตัวให้ขนระเบิดสร้างสถานการณ์ ชี้พิรุธขี่ จยย.ไม่ติดป้ายทะเบียน ด้าน “จำลอง” จวกรัฐบาล-สมชายเมินปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญและสร้างรัฐสภาใหม่เพื่อตนเอง หวั่นปี 51 ชาวบ้านแรงงานกว่า 2 ล้านคนได้รับผลกระทบจากวิกฤตสหรัฐฯ พร้อมปลุกคนไทยร่วมแสดงออกอย่างต่อเนื่องเพื่อไล่นักการเมืองโกงชาติออกไปให้พ้นประเทศไทย

เวลา 20.30 น.วานนี้ (9 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นกล่าวบนเวทีในทำเนียบรัฐบาล โดยระบุถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมบุคคลที่อ้างเป็นการ์ดอาสาของพันธมิตรฯ 2 คน คือ นายธนิต ขันอุไร และนายวัฒนา กิจพิทักษ์สิน ในข้อหาพกพาอาวุธระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ว่า ขณะนี่มีขบวนการที่จ้องทำลายความน่าเชื่อถือของพันธมิตรฯมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเรามีการ์ดอาสาเป็นจำนวนมากซึ่งเมื่อ 10 วันก่อนพบว่ามีอยู่คนหนึ่งที่มีแนวคิดก้าวร้าวรุนแรง แต่เราให้ออกไปแล้ว แต่กลับมีการตรวจจับโดยตำรวจที่กล่าวหาว่า การ์ดอาสาคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมพกพาระเบิดลูกเกลี้ยง 8 ลูก

นายสนธิ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างเรื่องโดยตำรวจที่พยายามสร้างเรื่องทำลายความน่าเชื่อถือของการชุมนุมฯ พร้อมระบุว่าเป็นการ์ดของกองทัพธรรม จึงขอให้พวกเราอดทนเพราะเรื่องใกล้จะจบแล้ว ใครจะมาสร้างเรื่องให้ตัวเองเจ็บ เพราะตำรวจเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกเรา หากเรื่องจบแล้วพวกเราชนะ พวกนั้นต้องออกกันเป็นแถว เพราะมันรู้กันว่าจะมีคนมาโยนระเบิด เลยต้องการล่อให้พวกเราออกไปแล้วพยายามจับ แล้วหาว่าพกพาอาวุธ ส่วนคนที่จะมาโยนระเบิด เราไล่ออกไปกว่า 10 วันแล้ว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นคนยืนยันได้

นายสนธิ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้พวกเราเริ่มเชื่อว่ามีตำรวจเข้ามาซื้อตัวการ์ดอาสาบางส่วนและอาจจะมีบางส่วนเข้ามาฝังตัว เพราะเวทีเราเป็นเวทีเปิด ไม่มีความลับ ดังนั้น การจ้องเข้ามาทำร้ายตลอดเวลา โดยการโยนระเบิดและการพยายามทำลายชื่อเสียงพันธมิตรฯ โดยเฉพาะเรื่องการจับรถจักรยานยนต์ วันนี้ มันจะไปเอามาจากไหน ถ้าพวกมันไม่ส่งให้พก เพราะเป็นอาวุธสงคราม ใช้รถจักรยานยนต์ไม่มีทะเบียน ใครจะเอามาระเบิดตัวเองแล้วทำให้บาดเจ็บ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯได้ยึดหลักสงบ สันติ อหิงสา มาโดยตลอด

“สนธิ” เตรียมไปจีนแจงความผิด “แม้ว”

นายสนธิ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนอาจจะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อพบผู้ใหญ่ในรัฐบาลจีนเพื่อไปอธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เตรียมจะไปพำนักอาศัยอยู่ในประเทศจีน ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเป็นเกาะฮ่องกง เนื่องจากมีบรรยากาศเหมือนตะวันตก โดยจะแปลถ้อยคำโฟนอินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเมื่อวันที่ 1 พ.ย.51 เป็นภาษีจีนให้กับทางรัฐบาลจีนได้รับทราบว่าถ้อยคำดังกล่าวมีเจตนากระทบต่อสถาบันสูงสุด และทำลายความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมของไทย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลจีนอาจจะเข้าใจยังไม่ถูกต้องและเมื่อได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้วน่าจะมีการแสดงออกที่จะไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอาศัยอยู่ในประเทศจีนต่อไป ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้ตนอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก็ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯเข้าใจด้วยว่าตนไม่ได้หายไปไหน

ด้านเรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในวันนี้ตนได้พักรักษาตัวอยู่กับบ้านเพราะไม่สบาย แต่โดยปกติทางกองทัพธรรมจะห้ามพกอาวุธเด็ดขาด และมีการตรวจค้นการ์ดแต่ละคนอยู่ตลอดเวลา และยืนหยัดในจุดยืนโดยใช้หลักอหิงสา ต่อสู้โดยปราศจากอาวุธ เพราะฉะนั้น ระเบิดและอาวุธที่พบจึงไม่ใช่ของกองทัพธรรมแน่นอน

**พธม.ทำพิธีปัดรังควานสิ่งอัปมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าวานนี้ด้วยว่า เวลา 10.45 น. นายสนธิได้ขึ้นเวทีปราศรัยและทำพิธีแก้เคล็ด ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โดยนำพระสงฆ์มาพรมน้ำพระพุทธมนต์มาประพรมบนเวทีใหญ่ และพื้นที่ชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ชุมนุมที่เข้าร่วมพิธีใส่ชุดขาวและถือศีล 5 ประมาณ 100 คน เดินตามโดยทำการปัดกวางสิ่งสกปรกและเก็บขยะที่ตกอยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลไปทิ้ง

นายสนธิ กล่าวถึงพิธีดังกล่าวว่า เป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และเสริมสร้างสิริมงคล ไม่ได้เกี่ยวกับการทำคุณไสยและการพิธีครั้งนี้เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ใช้พื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาลทำกิจกรรมกันอย่างยาวนาน จึงจำเป็นต้องปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปบ้าง

รับเซอร์ไพรส์อังกฤษถอนวีซ่า “แม้ว”
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ
กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอังกฤษเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและภรรยาว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่เคยคาดคิดมาก่อน ครั้งแรกที่มีการพูดกันตนคิดว่าเป็นข่าวลือ แต่เมื่อสถานเอกอัครราชฑูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยประกาศยืนยันจึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง อาจเป็นผลจากการจัดงานความจริงวันนี้สัญจรครั้งที่ 2 ที่สนามรัชมังคลากีฬาสถาน ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะสหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศแม่บทของการปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงได้ประกาศความชัดเจนออกมา ส่วนกรณีที่อดีตนายกฯยังมีความพยายามลี้ภัยในประเทศอื่นนั้นเรื่องนี้แล้วแต่อดีตนายกฯ พันธมิตรฯ คงไปออกความเห็นไม่ได้ เป็นเรื่องของใครที่พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาชีวิตของตนเอง

ส่วนที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าการเพิกถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวรัฐบาลไทยนั้น พล.ต.จำลอง กล่าว่า นายสมชาย เป็นนายกฯและเป็นญาติสนิท ไม่มีใครไปบังคับนายกฯได้ และเป็นเรื่องที่นายกต้องตัดสินใจเองในฐานะที่เป็นนายกO

เมื่อถามว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีประกาศที่จะเดินทางไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์ และยืนยันว่าไม่ได้ไปพบกับอดีตนายกฯ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราก็สดับตรับฟัง แต่ไปก้าวก่ายไม่ได้เป็นเรื่องของนายกฯ ตอนนี้สิ่งที่เราเห็นชัดคือรัฐบาลควรมุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาในประเทศเป็นกรณีเร่งด่วนมากกว่าการไปติดต่อกับต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะปัญหาในประเทศมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีความจำเป็นต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหา

ส่วนกรณีที่เอแบคโพลล์มีผลสำรวจว่าประชาชนให้ความสนใจการชุมนุมของพันธมิตรฯ น้อยลงนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ ฟังผลสำรวจทุกสำนัก แต่พันธมิตรฯ เคยบอกแล้วว่าการชุมนุมเป็นเรื่องยาวนานบางครั้งคนน้อย บางครั้งคนมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะคนน้อยหรือมาก สิ่งที่เราทราบดีคือมีรับฟังข่าวสารของพันธมิตรฯ มากขึ้น อย่างไรก็ดี หากมีแหตุร้ายเกิดขึ้นผู้ชุมนุมพร้อมที่จะกลับมาร่วมชุมนุม พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ส่วนการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ไปคงมีการพูดคุยกัน ซึ่งแกนนำกำลังหารือกันว่ามีความจำเป็นต้องทวงถามเรื่องที่ได้ขอให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเรื่องต่างๆ ด้วยวิธีดาวกระจายหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลยเรื่องที่เสนอไปก็อาจไม่ได้รับการตอบสนอง ซึ่งพันธมิตรฯ ขอยืนยันอีกครั้งว่าการดำเนินการของพันธมิตรฯไม่ได้ทำเพื่อตนเอง หรือหวังอำนาจหรือประโยชน์อะไร เราต้องนึกถึงงานพระราชพิธีด้วย ส่วนที่จะมีการบรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 291 นั้น พันธมิตรฯยืนยันว่าคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ไม่เฉพาะพันธมิตรฯที่คัดค้าน หลายกลุ่มที่ติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิดก็เห็นว่าไม่ควร แม้แต่ทหารก็มีความเห็นว่าไม่ควรหยิบยกเรื่องที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเข้ามาพิจารณา

“เราจะต้องคัดค้านเพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนจะมีการไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภาหรือไม่ แกนนำต้องปรึกษากันอีกครั้ง ส่วนจะเกิดเรื่องรุนแรงหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลเพราะหน้าที่ของรัฐบาลคือการดูแลความมั่นคงของชาติ เมื่อรัฐบาลริเริ่มเรื่องนี้ ถือว่าทำตัวเอง ก็ต้องคิดแก้ไขเอง” พล.ต.จำลอง กล่าว

**อัดรัฐเมินปากท้อง ปชช.ช่วงใกล้วิกฤต
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ยังกล่าวปราศรัยบนเวทีในทำเนียบฯในช่วงค่ำด้วยว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ เหมือนการปิดทองหลังพระในการปกป้องสถาบันต่างๆ ซึ่งปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ทรุดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง โดยสิ้นเดือนที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับราคาลงทำให้เกษตตรกรเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

“ปัญหาบ้านเมืองยิ่งทรุดต่ำลงไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือความมั่นคง โดยสิ้นเดือนที่ผ่านมาสินค้าเกษตรราคาตกมาก ยางพารากิโลละ 80 เหลือ 50 บาทข้าวจากเกียวนละ 3 หมื่นเหลือแค่ 1 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างมันลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว” พล.ต.จำลอง กล่าว และว่า

ปัญหาที่เกิดขึ้นนับเป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่นายสมชาย ซึ่งเป็นนายกฯกลับไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย โดยปัญหาสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ นั้นมีหลายฝ่ายเชื่อว่าจะมีผลกระทบมาถึงไทยอย่างแน่นอน ซึ่งในปีหน้าประเทศไทยจะมีคนว่างงานถึงกว่า 2 ล้านคนจากผลกระทบดังกล่าว แต่รัฐบาลชุดนี้กลับยังไม่มีการเตรียมการอะไร มีแต่ความพยายามเพื่อตนเองและพวกพ้อง ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การขอพระราชทานอภัยโทษและการออกกฎหมายนิรโทษกรรม มากกว่าที่จะแก้ปัญหาของประชาชน

พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า การชุมนุมของเรานั้นถูกต้องมาตั้งแต่ต้นทำให้อดีตนายกฯต้องไปแล้วถึง 2 คนด้วยกัน และวันนี้ก็๋น่าจะกำลังไปอีกคนเหมือนกัน ซึ่งการที่ประเทศมีปัญหาต้องระวังเรื่องการใช้จ่ายของประเทศ แต่รัฐบาลยังดื้อที่จะใช้เงินเป็นหมื่นล้านบาท เพื่อสร้างสภาฯแห่งใหม่นั้น พวกเราจะต้องขัดขว้างให้ได้ เพราะคนพวกนี้ต้องการใช้แต่งบประมาณเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น

“สังเกตได้ว่า รัฐบาลต้องการใช้งบประมาณเพื่อโกงกินจากโครงการต่างๆ ซึ่งเราต้องอดทนชุมนุมเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น โดยรัฐบาลนี้ไม่ฟังเสียงประชาชนเดินหน้าแม้จะเป็นเรื่องผิด แต่เราเป็นเจ้าของอธิปไตยและจะต้องคัดค้านให้ได้ และพี่น้องประชาชนจะต้องพยายามแสดงออกให้มากขึ้น ซึ่งถึงวันนี้ตรงกันข้ามที่มีคนอ้างว่าเรามาน้อย แต่ความจริงมีคนเข้ามามากขั้นและเข้าใจมากขึ้น เพราะขนาดฝรั่งยังรู้จัก แลเะหากมีพี่น้องสนับสนุนมากมายแบบนี้เชื่อว่าเราจะได้รับชัยชนะแน่นอน” พล.ต.จำลองกล่าว

**มอบ ผบ.ตร.ประสาน พธม.เปิดถนน
ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี
กล่าวภายหลังรายการรัฐบาลของประชาชนถึงกรณีที่ได้ประสานให้พันธมิตรฯ เปิดเส้นทางเสด็จในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.ว่า ได้ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เป็นผู้ประสานทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยสมพระเกียรติ์

เมื่อถามว่า เงื่อนไขของพันธมิตรฯ บอกว่าจะมีสิ่งกีดขวางบนถนนบ้าง นายสมชาย กล่าวว่า งานนี้เป็นงานอะไรก็คงรู้ ตนบอกแล้วว่าเป็นงานที่ประชาชนทุกคนร่วมกันถวายพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี และถวายความอาลัยครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้มีอะไรมาสะดุด

“ส่วนเรื่องที่มีความคิดแตกแยกนั้นขอให้เป็นเรื่องของประชาชนปกติด้วยกัน แต่ถ้าเป็นงานที่เกี่ยวกับพระราชพิธีสำคัญๆ ผมว่าเอาความเอาแตกแยกวางไว้ก่อน ร่วมกันทำงานตรงนี้ให้ลุล่วง แล้วค่อยมาขัดแย้งกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

**พธม.ดาวกระจายที่กาญจน์วันนี้
ที่ จ.กาญจนบุรี นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯกาญจนบุรี
เปิดเผยว่า วันนี้ (10 พ.ย.) พันธมิตรฯกาญจนบุรีจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ลานหน้าศูนย์การค้าเรดซิตี้โฮม ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป โดยจะมีแกนนำพันธมิตรฯ ส่วนกลางมาร่วมงานด้วยหลายคน เช่น นายพิภพ ธงไชย, นายประพันธ์ คูณมี, นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มอีสานต่อต้านคอร์รัปชั่นและระบบทักษิณ รวมทั้งนายเทพมนตรี ลิมปพยอม, นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติและกวีซีไรต์ก็จะพูดเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปการศึกษาของการเมืองใหม่ คาดว่าจะมีประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯกาญจนบุรีกว่า 5 พันคนมาร่วมงาน

ด้าน นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในการชุมนุมปราศรัยของพันธมิตรฯ ที่ จ.กาญจนบุรี คาดว่าจะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ตนไม่หนักใจอะไรแต่ก็ต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นเด็ดขาด

พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กิตติ กาญจนกิตติ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เป็นผู้สั่งการ แต่ตนได้วางมาตรการซึ่งอาจจะใช้กองร้อยควบคุมฝูงชนมารักษาความปลอดภัยโดยรอบ และจะมีจุดตรวจค้นอาวุธก่อนจะเข้ามายังเวทีปราศรัย ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังมือที่ 3 แต่เชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเพราะชาวกาญจนบุรีส่วนใหญ่จะรักกัน

**อัดคนทำใบปลิวไร้วุฒิทางปัญญา
น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯเมืองภูเก็ต
กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีทำใบปลิวโจมตีแกนนำพันธมิตรฯ โดยเฉพาะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย ในลักษณะภาพอนาจาร ซึ่งกำลังแพร่หลายอย่างหนักในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตว่า เห็นภาพในแผ่นใบปลิวแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ผู้ที่ลงมือทำไม่มีการลงทุน ต้นทุนต่ำมากๆ อีกทั้งการสื่อความหมายของภาพก็เข้าใจยากว่าต้องการบอกอะไรแก่ผู้ที่พบเห็น ไร้เหตุผลและจุดยืน แต่ในภาพรวมถือว่าใบปลิวแผ่นดังกล่าวที่ออกมาเข้าข่ายหมิ่นประมาท 5 แกนนำในลักษณะการเผยแพร่ภาพอนาจาร ซึ่งสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาหมิ่นประมาทได้ ซึ่งคนที่คิดทำไร้ซึ่งวุฒิภาวะทางปัญญา คิดได้น้อยเกินไปในการที่จะโจมตีบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เมืองภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ตนขอท้าผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่ม นปช.ภูเก็ต ตัวจริงเปิดเผยใบหน้าออกมาสู้กับความจริง ไม่ใช่หดหัวอยู่ในกระดอง คอยส่งน้ำเลี้ยงให้ลิ่วล้อเคลื่อนไหวโจมตีพันธมิตรฯไปวันๆ แบบไร้สาระ

“หากคุณแน่จริงเปิดเผยตัวออกมาเลย แล้วจะได้วัดกันไปเลยว่าประชาชนชาวภูเก็ตจะคิดอย่างไร รับได้หรือไม่กับตัวคุณ ไม่ใช่หดหัวอยู่แบบนี้คอยลอบกัดข้างหลังพันธมิตรฯปัจจุบันเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ภูเก็ต แต่ไม่มีผลต่อความเชื่อมั่นที่พันธมิตรฯภูเก็ต มีต่อแกนนำพันธมิตรฯ เพราะพวกเรามีอุดมการณ์ และจุดยืนที่แน่วแน่ในการกอบกู้ 3 สถาบันให้คงอยู่กับประเทศไทยต่อไปตราบนานเท่านาน พวกคุณอย่าได้คิดล้มล้าง เพราะพวกเราจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด”

**ลือ 3 เกลอเตรียมลงภูเก็ตสร้าง นปช.
น.ส.อาภารัตน์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่ม นปช.ภูเก็ตอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อเชิญแกนนำ นปช.ไม่ว่าจะเป็นนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ มาเป็นวิทยากรในงานสัมมนาที่จะจัดขึ้นเพื่อประเมินกำลังแนวร่วมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เร็วๆ นี้ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งเวทีชนกับกลุ่มพันธมิตรฯที่บริเวณปลายแหลมสะพานหินด้วยว่า ถ้าบุคคลทั้ง 3 คนหรือใครก็ตามที่รัฐบาลนอมินี หรือแฟมิลีของนายสมชาย เดินทางมาที่ภูเก็ต ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เราพันธมิตรฯจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดีและอบอุ่นที่สุดเหมือนอย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.มหาดไทย และคนอื่นๆ เคยได้รับ

โดยส่วนตัวเชื่อว่ากิจกรรมของ นปช.ที่คาดหวังไว้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพราะทุกวันนี้พันธมิตรฯภูเก็ตทั้ง 3 อำเภอ ตระเวนช่วยกันหาตัวแกนนำที่เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการและช่วยกันเอกซเรย์ทุกจุด เมื่อได้กระแสข่าวว่าจะมีการเคลื่อนไหวของ นปช.ที่มีผลต่อความมั่นคงในพื้นที่ก็จะรวมตัวกันเพื่อต่อต้านอย่างเต็มที่ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ที่มีรัฐมนตรีเดินทางมาในพื้นที่ ที่สำคัญหาก 3 เกลอเดินทางมาช่วยสร้างเครือข่ายแนวร่วม นปช.ที่ภูเก็ตจริงอย่างที่มีกระแสข่าว เชื่อว่าไม่ใช่เพียงพี่น้องพันธมิตรฯภูเก็ตที่จะรวมตัวกันให้การต้อนรับ แต่จะมีพันธมิตรฯจากจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะ จ.พังงา และ จ.กระบี่ เดินทางมาร่วมด้วยช่วยกันอย่างแน่นอน ซึ่งกรณีนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เคยลิ้มรสชาติมาแล้ว

**เสื้อแดงแก๊งเจ๊เกียวป่วนเวที “เจ๊ปอง”
บ่ายวานนี้ที่โรงแรมวีวัน ถ.ช้างเผือก เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
กลุ่มเพื่อนพันธมิตรฯโคราช นำโดยนายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา ได้จัดเวที “อัญชลี ไพรีรัก เดี่ยวไมโครโฟน 1 เดือนที่ผ่านมารู้ไหม...ใครฆ่าประชาชน เปิดโปงขบวนการล้มเจ้า ล้มปืน ล้มทุน” ขึ้น โดยขายบัตรให้ผู้สนใจเข้าร่วมงานบัตรละ 100 บาท เพื่อหาเงินทุนซื้อจานดาวเทียมรับสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV แจกจ่ายให้กับชุมชนใน จ.นครราชสีมา ส่วนหนึ่งมอบให้กลุ่มพันธมิตรฯ โคราช เพื่อใช้ทำกิจกรรมและช่วยเหลือ ASTV ซึ่งมีประชาชนชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียงสนใจซื้อบัตรเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน จนทำให้จำนวนที่นั่งไม่พอรองรับและล้นทะลักออกมายังนอกห้องประชุม

โดยก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นเวลา 12.30 น.ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงราว 8 คน นำโดยนางปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ หรือ “เจ๊แดง” นักจัดรายการวิทยุชุมชนคลื่น FM 104.50 MHz แกนนำ “กลุ่มคนของแผ่นดิน ลูกหลานย่าโม” ซึ่งมีความสนิทสนมกับ นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ลูกชาย นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” ได้มารวมตัวกันยืนอยู่บริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามทางเข้าโรงแรมสถานที่จัดงานดังกล่าว พร้อมถือ “ตีนตบ” ชูป้ายผ้าข้อความ “ชาวโคราช ไม่เอาพันธมิตรฯ” และใช้โทรโข่งร้องตะโกนด่าประชาชนที่ทยอยเดินทางมาร่วมงานด้วยคำหยาบคายต่างๆ นานา และพากันยืนปักหลักอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือสนใจกลุ่มคนเสื้อแดงที่มายืนตะโกนด่าดังกล่าว และไม่มีเหตุการณ์การปะทะคารมหรือตอบโต้กันเกิดขึ้น มีเพียงกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ประมาณ 10 คนมายืนกระจายคอยเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ริมถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นบริเวณทางเข้าโรงแรมวีวัน สถานที่จัดงานเท่านั้น

นอกจากนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก สภ.เมืองนครราชสีมา และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 3 รวมประมาณ 100 นาย มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด จนกระทั่งการจัดงานเสร็จสิ้นและประชาชนที่มาร่วมงานได้แยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางแวะมาร่วมงานและขึ้นเวทีทักทายกับประชาชนด้วย ก่อนที่จะไปมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนใน จ.นครราชสีมา
กำลังโหลดความคิดเห็น