xs
xsm
sm
md
lg

“สภาเดือด” แกนนำ นปช.หวิดโดนชก ปากดีแถลงข่าวต้านปฏิวัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แกนนำพันธมิตรฯ เชียงใหม่ ปรี่เข้าจะชกแกนนำน ปช.-ส.ส.พปช.ระหว่างแถลงข่าวต้านปฏิวัติ ร้อน รปภ.ล็อกตัววุ่น “เด็กแม้ว” โวยระบบรักษาความปลอดภัยหย่อนยาน ด้าน 40 ส.ว.รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ยอมรับเป็นผู้รับรองให้เข้ามา

วันนี้ (28 พ.ย.) ที่รัฐสภา นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ได้เข้ายื่นแถลงการณ์ต่อนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภา จากนั้นทั้งหมดได้นั่งแถลงข่าวร่วมกัน โดย นพ.สันต์ อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ประชาชนต่อต้านรัฐประหารอย่างสันติวิธี โดยอ้างว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีสิ่งบอกเหตุหลายประการที่จะเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ ดังนั้น ในฐานะประชาชนมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่จะมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

นพ.สันต์ กล่าวว่า จึงขอฝากไปยังประชาชนทั้งประเทศว่าหากเกิดการรัฐประหารขอให้ประชาชนต่อต้านโดยสันติวิธีทุกรูปแบบเพื่อยับยั้งไม่ให้ทหารเข้ามายึดอำนาจได้สำเร็จ เพราะว่าทหารรู้ว่าประชาชนต่อต้านเขาจะถอยทันที โดยขอให้ประชาชนนำสิ่งของทุกชนิดมาขวางถนนที่เป็นเส้นทางผ่านของรถถัง รถบรรทุกกำลังพลของทหาร หรือรวมตัวกันไปล้อมสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง เพื่อไม่ให้ทหารเข้าไปยึดสถานีทุกแห่งได้สำเร็จ รวมตัวกันในจังหวัดของตัวเองโดยไม่ใช้อาวุธต้านรัฐประหาร

นพ.เหวง กล่าวว่า ประชาชนต้องช่วยกันต่อต้านยึดอำนาจให้สำเร็จไม่ให้กลุ่มบุคคลนี้เข้ามาปกครองประเทศอีก รวมทั้ง ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนให้ต่อต้านการรัฐประหาร ทางสมาพันธ์เชื่อว่าหากมีการต่อต้านเกิดขึ้นจะทำให้การยึดอำนาจไม่สามารถทำได้สำเร็จ และกลุ่มผู้ที่คิดยึดอำนาจจะยอมถอยไม่กล้าทำ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไปยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาลคืนสถานที่ทั้งหมดให้กับประชาชน ไม่ใช่คืนให้กับรัฐบาลหรือนายกฯ แต่คืนให้กับประชาชน และภายหลังจากคืนสถานที่ทั้ง 3 จุดยืน พันธมิตรฯ สามารถชุมนุมได้ตามกฎหมายปราศจากอาวุธ ขอเรียกร้องให้เคารพนิติรัฐและนิติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นพ.เหวงและคณะกำลังแถลงอยู่นั้น ปรากฏว่า นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แนวร่วมพันธมิตรฯ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมานั่งรออยู่ในห้องแถลงข่าว เพื่อยื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ซึ่งนั่งฟังการแถลงข่าวอยู่ได้เดินปรี่เข้าไปชี้หน้าด่าและจะชกหน้า นพ.เหวง และนพ.สันต์ พร้อมกับตะโกนย้ำหลายครั้งว่า “ทีพวกมึงรุมฆ่าพ่อกู มึงยังทำได้ ให้พวกมึงระวังไว้” ขณะที่ รปภ.สภาพยายามเข้ามาล็อกตัวนายเทอดศักดิ์แต่ไม่สำเร็จ ทำให้นายเทอดศักดิ์ปรี่จะต่อยอีกครั้ง แต่ปรากฏว่านายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ได้ชี้หน้าด่าว่า “ไอ้เหี้ย เอามันออกไป รปภ.ปล่อยให้มันเข้ามาได้อย่างไร” ขณะที่นายเทอดศักดิ์พยายามสะบัดให้หลุดจากการล็อกของ รปภ.เพื่อที่จะชกหน้านายสุรพงษ์ที่ตะโกนท้าทายอย่างมีอารมณ์ ขณะที่ รปภ.สภาต้องระดมกำลังเข้ามาล็อกนายเทอดศักดิ์ตัวออกไปจากห้องอย่างทุลักทุเลเพื่อมาสงบสติอารมณ์ในห้องนักข่าวรัฐสภา โดยมีกลุ่ม 40 ส.ว.อยู่ด้วย ซึ่งนายสมชาย ซึ่งเป็นผู้รับรองนายเทอดศักดิ์เข้ามาถึงกับมีสีหน้าที่เคร่งเครียดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายสุรพงษ์ และนายนิสิต ภายหลังแถลงข่าวเสร็จได้ตามออกมาต่อว่า รปภ.สภาว่าทำงานไม่เข้มแข็ง โดยทางจิตวิทยาไม่ควรปล่อยให้เข้าไปในห้องอยู่แล้ว ถ้าเกิดชก ส.ส.มาได้จะเสียหายกันหมด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ หากมีการพกอาวุธเข้ามาจะเกิดอะไร ขณะที่ รปภ.ชี้แจงว่านายเทอดศักดิ์เข้ามาโดยการรับรองของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ซึ่งเป็นการรับรองถูกต้องทุกอย่าง จากนั้นทางกลุ่ม ส.ส.ดังกล่าวได้ขึ้นไปพบกับนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

ขณะเดียวกัน รปภ.ได้นำตัวนายเทอดศักดิ์ไปสอบปากคำที่กองรักษาการพร้อมกับแจ้งไปยัง สน.ดุสิต เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ รปภ.จะนำตัวนายเทอดศักดิ์ไปสอบปากคำนั้น นายเทอดศักดิ์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายสมชาย และนายสมัคร เชาวภานนท์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา โดยนายเทอดศักดิ์ ระบุว่า ตนเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชา ต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ที่ผ่านมาถูกกระทำด้วยความรุนแรง และโดนทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธหลายชนิด 15 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายพ่อของตนคือ นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา ถูกรุมทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. โดยระหว่างเกิดเหตุกลุ่มเสื้อแดงได้เริ่มชุมนุมโดยมีเจ้าหน้าที่ สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ รักษาการณ์อยู่ แต่กลับไม่ได้ห้ามปราม ซึ่งมีสื่อมวลชนบางสำนักรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มเสื้อแดงจนทำให้เหตุการณ์บานปลาย จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบเหตุการณ์ และพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงอันเป็นปัญหาว่าด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชน การไม่บังคับหรือละเว้นการใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นเหตุให้ตนและกลุ่มทหารเสือพระราชาให้ได้รับความเสียหาย

จากนั้น นายเทอดศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า พวกตนไม่ใช่พวกพันธมิตรฯ แต่เป็นกลุ่มที่ต่อต้านขบวนการล้มล้างสถาบันที่ยังไม่ยอมหยุดพฤติกรรมจาบจ้วงที่มีการผลิตวิดีโอและซีดีในจังหวัดเชียงใหม่ คนที่สั่งการคืออดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และตนรู้ว่าใครเป็นคนสั่งฆ่าพ่อของตน การต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ใช่ทำเพื่อกลุ่มไหน แต่สู้เพื่อปกป้องสถาบัน เพราะเราทนไม่ได้ แต่ต่อจากนี้จะไปรวมกับกลุ่มพันธมิตรฯ และจะแฉขบวนการล้มเจ้าที่มีบันได 3 ขั้นว่าเป็นอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น