"นายกฯ" ย้ำไทยพร้อมจัดประชุมสุดยอดอาเซียน แจงทุกผู้นำเห็นด้วยจัดประชุมที่เชียงใหม่ วอนคนไทยหยุดความขัดแย้ง หวังใช้การประชุมอาเซียน เรียกความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 15-18 พ.ย. ว่า วันนี้จะมีรายการประชุม 2 รายการ ที่กระทรวงการต่างประเทศ เรื่องแรกคือการประชุมเตรียมการจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน บวก 3 ซึ่งได้แก่ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น อีกเรื่องหนึ่งคือการประชุมเมกะโปรเจกต์ จึงถือโอกาสยืมสถานที่กระทรวงใช้ประชุมต่อ เพื่อไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้แจ้งที่ประชุมเตรียมการจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน บวก 3 ให้ทราบว่า เป็นเวลาอีก 1 ปีครึ่งที่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน ซึ่งได้รับเลือกต่อจากประเทศสิงคโปร์ เพราะฉะนั้นภาระหน้าที่คือ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่อาเซียนมีมาตลอด และมีอาเซียน 3 ซึ่งจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ก็เป็นประเทศที่เป็นคู่เจรจาคู่ค้ากับกลุ่มอาเซียน
"จากการที่ผมไปประชุมอาเซม (ประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป) ที่ปักกิ่ง ก็ได้รับการสอบถามจากผู้นำหลายประเทศถึงความพร้อมในการจัดประชุมอาเซียนครั้งนี้ ก็จะเห็นว่าเรามีปัญหาความขัดแย้ง และปัญหาการเมืองบ้าง ซึ่งผมว่าเราพร้อมที่จะประชุม และได้เตรียมการเรียบร้อย" นายสมชาย กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวว่า วันนี้ก็มาประชุมเพื่อเตรียมความในทุกๆมิติ ที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ เราจะใช้สถานที่ประชุมที่ จ.เชียงใหม่ หลายประเทศก็เรียกร้องให้ประชุมที่เชียงใหม่ เพราะว่าเรามีข้อริเริ่มเชียงใหม่ ซึ่งทำเกี่ยวกับด้านการระดมทุน และเศรษฐกิจไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้ท่านบอกว่าถ้าประชุมที่เชียงใหม่ได้ก็ดี ส่วนตัวเห็นว่าก็ดีเหมือนกัน การรักษาความปลอดภัยก็ง่าย ขอเรียนย้ำว่าเรามีความพร้อม และสถานที่ก็พร้อม ตอนนี้กระทรวงต่างประเทศ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้ไปสำรวจสถานที่ รวมทั้งสถานที่พักของผู้นำ ซึ่งก็มีหลายโรงแรม โดยสถานที่เปิดประชุม เราใช้โรงแรมดาราเทวี สถานที่ประชุมใช้โรงแรมแชงกรีล่า สถานที่จัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารเย็นใหญ่อย่างเป็นทางการของผู้นำ จะใช้หอคำหลวง ที่สวนราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานพืชสวนโลก นอกจากนั้น ก็มีที่สำหรับคู่สมรสต่างๆ ซึ่งก็เตรียมพร้อมแล้ว
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนการเดินทาง บางท่านอาจจะใช้เครื่องบินมาเอง ก็เดินทางลงที่เชียงใหม่เลย หรือท่านที่มาเครื่องบินโดยสาร ก็ลงที่กรุงเทพฯ เราก็มีการจัดการเดินทางไปให้ที่เชียงใหม่ ขณะที่การเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับสำนักราชเลขาธิการแล้ว ซึ่งอาจจะต้องรอการโปรดเกล้าฯ อีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าได้เรียนผ่านสำนักราชเลขาธิการว่า น่าจะเป็นวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งในขณะนั้นผู้นำก็จะเดินทางจากเชียงใหม่มาที่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าเฝ้าฯ บางท่านมีภารกิจก็อยู่ต่อ แต่บางท่านก็จะเดินทางกลับ การจัดเตรียมการก็จะเป็นไปตามความประสงค์ของผู้นำ มีบางประเทศจะขอเยือนเป็นทางการ เช่น นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน และนายลี เมียง-บัค ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งเราก็ได้เตรียมการความพร้อมแล้ว
นายสมชาย กล่าวว่า ครั้งหน้าคณะกรรมการจัดเตรียมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จะมีการจัดประชุมอีกครั้งหนึ่ง ที่ตนจะเป็นประธาน โดยจะไปประชุมที่เชียงใหม่ เพราะว่าต้องไปซักซ้อมสถานที่จริง ให้ทุกท่านที่มีความรับผิดชอบต้องไปดูแลสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย
นายกฯ กล่าวว่า หลายประเทศเขาก็รู้ว่าเรามีปัญหาภายในอยู่บ้างก็สอบถาม ซึ่งตนก็ได้แสดงความพร้อมไป การที่จัดประชุมที่เชียงใหม่ ก็เป็นผลดีอย่างหนึ่งก็คือว่า ลดความเสี่ยงในการที่จะปัญหาในความขัดแย้ง ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทางฝ่ายดูแลความปลอดภัย จ.เชียงใหม่ ก็เป็นจังหวัดที่เล็ก การดูแลก็คงง่ายกว่า และเราจะขอให้เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งที่กรุงเทพฯ เดิมเตรียมเป็นวันหยุดอยู่แล้ว ครั้งนี้กรุงเทพฯ ก็คงไม่ต้องหยุดแล้ว จะหยุดเฉพาะอ.เมือง ของจ.เชียงใหม่ เพื่อความสะดวกในการจัดการจราจร และเพื่อลดความแออัดของผู้คนในตอนนั้น เพื่อความสะดวกในการเดินทางของแขกที่มาประชุม
เมื่อถามว่า การรักษาความปลอดภัยจะเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน เพื่อรองรับความขัดแย้งของกลุ่มเสื้อเหลืองเสื้อแดง นายกฯ กล่าวว่า ทางฝ่ายรักษาความปลอดภัย เขาก็รับรองแข็งขัน ส่วนตัวอยากจะเรียนตรงนี้ว่า คราวนี้ คงจะไม่พูดเรื่องความขัดแย้ง คราวนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนที่เป็นคนไทย ที่ต้องแสดงให้เห็นว่าเรามีความพร้อมในสายตาของชาวโลก ซึ่งได้เรียนที่ประชุมว่าการประชุมคราวนี้ อาจจะมีผู้นำมา 16 ประเทศ แต่ว่าความที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก ทุกประเทศทั่วโลกเขาจ้องมองประเทศเราว่า เรามีศักยภาพมีความสามารถ ที่จะเป็นผู้นำของอาเซียน หรือในโอกาสอื่นได้หรือไม่ และสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยหรือไม่ เป็นการที่เขาเฝ้ามอง เพราะฉะนั้นการทำงานครั้งนี้นอกจากเรามีความรับผิดชอบต่อผู้นำ 16 ประเทศที่ต้องจัดประชุม แล้ว เราต้องรับผิดชอบในความเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาในประชาคมโลกทั้งโลกให้เห็นถึงศักยภาพของเรา อันนี้เป็นความสำคัญ
"เพราะอย่างนั้น ผมอยากจะเรียนต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าใครเสื้อไหนก็ไม่สำคัญ ต้องแสดงความรักชาติให้ปรากฏ เพื่อให้การดำเนินการในนามประเทศไทยของเราสำเร็จเรียบร้อย และเป็นที่เชื่อมั่นของทุกประเทศทั่วโลก" นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะประธานอาเซียน มองว่าการหลังเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ จะมีผลต่อประเทศและภูมิภาคอาเซียน อย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีผลอะไร เรามีความสัมพันธ์อย่างไรก็อย่างนั้น
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 15-18 พ.ย. ว่า วันนี้จะมีรายการประชุม 2 รายการ ที่กระทรวงการต่างประเทศ เรื่องแรกคือการประชุมเตรียมการจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน บวก 3 ซึ่งได้แก่ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น อีกเรื่องหนึ่งคือการประชุมเมกะโปรเจกต์ จึงถือโอกาสยืมสถานที่กระทรวงใช้ประชุมต่อ เพื่อไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้แจ้งที่ประชุมเตรียมการจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน บวก 3 ให้ทราบว่า เป็นเวลาอีก 1 ปีครึ่งที่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน ซึ่งได้รับเลือกต่อจากประเทศสิงคโปร์ เพราะฉะนั้นภาระหน้าที่คือ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่อาเซียนมีมาตลอด และมีอาเซียน 3 ซึ่งจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ก็เป็นประเทศที่เป็นคู่เจรจาคู่ค้ากับกลุ่มอาเซียน
"จากการที่ผมไปประชุมอาเซม (ประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป) ที่ปักกิ่ง ก็ได้รับการสอบถามจากผู้นำหลายประเทศถึงความพร้อมในการจัดประชุมอาเซียนครั้งนี้ ก็จะเห็นว่าเรามีปัญหาความขัดแย้ง และปัญหาการเมืองบ้าง ซึ่งผมว่าเราพร้อมที่จะประชุม และได้เตรียมการเรียบร้อย" นายสมชาย กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวว่า วันนี้ก็มาประชุมเพื่อเตรียมความในทุกๆมิติ ที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ เราจะใช้สถานที่ประชุมที่ จ.เชียงใหม่ หลายประเทศก็เรียกร้องให้ประชุมที่เชียงใหม่ เพราะว่าเรามีข้อริเริ่มเชียงใหม่ ซึ่งทำเกี่ยวกับด้านการระดมทุน และเศรษฐกิจไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้ท่านบอกว่าถ้าประชุมที่เชียงใหม่ได้ก็ดี ส่วนตัวเห็นว่าก็ดีเหมือนกัน การรักษาความปลอดภัยก็ง่าย ขอเรียนย้ำว่าเรามีความพร้อม และสถานที่ก็พร้อม ตอนนี้กระทรวงต่างประเทศ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้ไปสำรวจสถานที่ รวมทั้งสถานที่พักของผู้นำ ซึ่งก็มีหลายโรงแรม โดยสถานที่เปิดประชุม เราใช้โรงแรมดาราเทวี สถานที่ประชุมใช้โรงแรมแชงกรีล่า สถานที่จัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารเย็นใหญ่อย่างเป็นทางการของผู้นำ จะใช้หอคำหลวง ที่สวนราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานพืชสวนโลก นอกจากนั้น ก็มีที่สำหรับคู่สมรสต่างๆ ซึ่งก็เตรียมพร้อมแล้ว
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนการเดินทาง บางท่านอาจจะใช้เครื่องบินมาเอง ก็เดินทางลงที่เชียงใหม่เลย หรือท่านที่มาเครื่องบินโดยสาร ก็ลงที่กรุงเทพฯ เราก็มีการจัดการเดินทางไปให้ที่เชียงใหม่ ขณะที่การเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับสำนักราชเลขาธิการแล้ว ซึ่งอาจจะต้องรอการโปรดเกล้าฯ อีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าได้เรียนผ่านสำนักราชเลขาธิการว่า น่าจะเป็นวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งในขณะนั้นผู้นำก็จะเดินทางจากเชียงใหม่มาที่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าเฝ้าฯ บางท่านมีภารกิจก็อยู่ต่อ แต่บางท่านก็จะเดินทางกลับ การจัดเตรียมการก็จะเป็นไปตามความประสงค์ของผู้นำ มีบางประเทศจะขอเยือนเป็นทางการ เช่น นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน และนายลี เมียง-บัค ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งเราก็ได้เตรียมการความพร้อมแล้ว
นายสมชาย กล่าวว่า ครั้งหน้าคณะกรรมการจัดเตรียมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จะมีการจัดประชุมอีกครั้งหนึ่ง ที่ตนจะเป็นประธาน โดยจะไปประชุมที่เชียงใหม่ เพราะว่าต้องไปซักซ้อมสถานที่จริง ให้ทุกท่านที่มีความรับผิดชอบต้องไปดูแลสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย
นายกฯ กล่าวว่า หลายประเทศเขาก็รู้ว่าเรามีปัญหาภายในอยู่บ้างก็สอบถาม ซึ่งตนก็ได้แสดงความพร้อมไป การที่จัดประชุมที่เชียงใหม่ ก็เป็นผลดีอย่างหนึ่งก็คือว่า ลดความเสี่ยงในการที่จะปัญหาในความขัดแย้ง ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทางฝ่ายดูแลความปลอดภัย จ.เชียงใหม่ ก็เป็นจังหวัดที่เล็ก การดูแลก็คงง่ายกว่า และเราจะขอให้เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งที่กรุงเทพฯ เดิมเตรียมเป็นวันหยุดอยู่แล้ว ครั้งนี้กรุงเทพฯ ก็คงไม่ต้องหยุดแล้ว จะหยุดเฉพาะอ.เมือง ของจ.เชียงใหม่ เพื่อความสะดวกในการจัดการจราจร และเพื่อลดความแออัดของผู้คนในตอนนั้น เพื่อความสะดวกในการเดินทางของแขกที่มาประชุม
เมื่อถามว่า การรักษาความปลอดภัยจะเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน เพื่อรองรับความขัดแย้งของกลุ่มเสื้อเหลืองเสื้อแดง นายกฯ กล่าวว่า ทางฝ่ายรักษาความปลอดภัย เขาก็รับรองแข็งขัน ส่วนตัวอยากจะเรียนตรงนี้ว่า คราวนี้ คงจะไม่พูดเรื่องความขัดแย้ง คราวนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนที่เป็นคนไทย ที่ต้องแสดงให้เห็นว่าเรามีความพร้อมในสายตาของชาวโลก ซึ่งได้เรียนที่ประชุมว่าการประชุมคราวนี้ อาจจะมีผู้นำมา 16 ประเทศ แต่ว่าความที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก ทุกประเทศทั่วโลกเขาจ้องมองประเทศเราว่า เรามีศักยภาพมีความสามารถ ที่จะเป็นผู้นำของอาเซียน หรือในโอกาสอื่นได้หรือไม่ และสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยหรือไม่ เป็นการที่เขาเฝ้ามอง เพราะฉะนั้นการทำงานครั้งนี้นอกจากเรามีความรับผิดชอบต่อผู้นำ 16 ประเทศที่ต้องจัดประชุม แล้ว เราต้องรับผิดชอบในความเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาในประชาคมโลกทั้งโลกให้เห็นถึงศักยภาพของเรา อันนี้เป็นความสำคัญ
"เพราะอย่างนั้น ผมอยากจะเรียนต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าใครเสื้อไหนก็ไม่สำคัญ ต้องแสดงความรักชาติให้ปรากฏ เพื่อให้การดำเนินการในนามประเทศไทยของเราสำเร็จเรียบร้อย และเป็นที่เชื่อมั่นของทุกประเทศทั่วโลก" นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะประธานอาเซียน มองว่าการหลังเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ จะมีผลต่อประเทศและภูมิภาคอาเซียน อย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีผลอะไร เรามีความสัมพันธ์อย่างไรก็อย่างนั้น