เอเจนซี - ผลศึกษาล่าสุดระบุวัยรุ่นหญิงที่ดูรายการทีวีที่อุดมด้วยเนื้อหาเรื่องเซ็กซ์มีแนวโน้มตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นสองเท่า ขณะที่วัยรุ่นชายที่ดูรายการแบบเดียวกันมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะทำผู้หญิงท้อง
การศึกษาจากเยาวชนอเมริกันกว่า 2,000 คน อายุระหว่าง 12-17 ปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างรายการทีวีอย่างหนังชุด ‘เฟรนด์ส’ และ ‘เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้’ กับการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่น
“ปัญหาหนึ่งก็คือ รายการเหล่านี้ให้ภาพเพศสัมพันธ์โดยที่แทบจะไม่กล่าวถึงผลเสียของการกระทำนี้เลย เช่น การตั้งครรภ์ หรือโรคที่ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์” รายงานเตือน
ดร.แอนิตา จันทรา ผู้นำการวิจัย กล่าวว่ารายการทีวีที่มีเนื้อหาพัวพันกับเซ็กซ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการทำวิจัยเรื่องนี้และพบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น
ดร.จันทรา นักวิจัยจากแรนด์ คอร์เปอเรชัน กลุ่มวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่เป็นที่ยอมรับกว้างขวาง เสริมว่าแม้แต่การ์ตูนที่มีเนื้อหาเรื่องเพศยังส่งผลในลักษณะเดียวกัน
ปัจจุบัน มีความกังวลกันมากในทั้งสองฝั่งฟากแอตแลนติกเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร อังกฤษนั้นได้ชื่อว่ามีอัตราการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นสูงที่สุดในยุโรป และสูงเกือบสองเท่าของสถิติในสหรัฐฯ
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า วัยรุ่นที่ดูรายการทีวีหรือมิวสิกวิดีโอที่อัดแน่นด้วยเรื่องเซ็กซ์จะมีประสบการณ์ทางเพศก่อนวัยอันควรและมีความเสี่ยงเพิ่มที่จะติดโรค
สำหรับการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ เพเดียทริกส์ นักวิจัยได้สัมภาษณ์เยาวชน 2,003 คนสามครั้งระหว่างปี 2001-2004 โดยถามเกี่ยวกับกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ พฤติกรรมทางเพศ และการตั้งครรภ์
ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย กลุ่มตัวอย่าง 718 คนบอกว่าเคยผ่านประสบการณ์ทางเพศ
การวิเคราะห์โครงการที่แยกออกมาต่างหากระบุถึงความถี่และชนิดของเนื้อหารายการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ซึ่งนักวิจัยเน้นหนักรายการทีวียอดนิยมในหมู่วัยทีน 23 รายการที่มีทั้งฉากและบทสนทนาเรื่องเซ็กซ์ อาทิ ‘เฟรนด์ส’ ‘เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้’ และ ‘แดต เซเว่นตี้ส์ โชว์’ ตลอดจนถึงละคร หนังตลก รายการเรียลลิตี้ และการ์ตูน
นักวิจัยพบว่า 25% ของกลุ่มที่ดูรายการที่มีเนื้อหาเรื่องเพศมากที่สุดตั้งครรภ์ เทียบกับ 12% ของคนที่ดูรายการที่พูดถึงเซ็กซ์น้อยที่สุด
ผลศึกษายังพบว่าวัยรุ่นที่อาศัยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อ-แม่มีแนวโน้มตั้งครรภ์น้อยกว่าวัยรุ่นที่มีปัญหาพฤติกรรมและชอบทำผิดระเบียบวินัย
อย่างไรก็ตาม เอลิซาเบท ชโรเดอร์ กรรมการบริหารอานเซอร์ โครงการเพศศึกษาวัยรุ่นของมหาวิทยาลัยรัตเจอร์ในสหรัฐฯ วิจารณ์ว่าการศึกษานี้ไม่ได้ลงลึกถึงคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของครอบครัวและรายได้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ เห็นว่าผู้ปกครองและโรงเรียนควรมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้
ดร.เดวิด วอลช์ นักจิตวิทยาและประธานสถาบันสื่อและครอบครัวแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่าวัยรุ่นอเมริกัน 19% บอกว่าสามารถพูดคุยเรื่องเพศกับพ่อแม่ได้อย่างเปิดเผย
ความที่โรงเรียนมากมายไม่มีการเรียนการสอนเพศศึกษา ส่งผลให้สื่อต้องรับหน้าที่ในการให้ข้อมูลเรื่องเพศแก่วัยรุ่นโดยปริยาย
“ถ้าคุณมีลูกที่ไม่รู้จะหันหน้าไปคุยเรื่องเพศกับใคร และดูแต่ซิตคอมที่ให้ภาพว่าเซ็กซ์เป็นสิ่งที่คนฉลาดเขาทำกัน ผลลัพธ์จะยิ่งชัดเจนมาก” ดร.เวลช์กล่าวและว่า สิ่งที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้ก็คือ ควรหาเวลาคุยกับลูกเรื่องเซ็กซ์ก่อนที่เด็กจะโตเป็นวัยรุ่น
นอร์แมน เวลส์ จากแฟมิลี แอนด์ ยูท คอนเซิร์นในอังกฤษ ขานรับว่า ความที่เด็กมักเชื่ออะไรง่ายๆ พ่อแม่จึงควรหาทางควบคุมการเข้าถึงเนื้อหาเรื่องเพศของลูกผ่านทีวี วิดีโอ ซีดีรอม และอินเทอร์เน็ต
การศึกษาจากเยาวชนอเมริกันกว่า 2,000 คน อายุระหว่าง 12-17 ปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างรายการทีวีอย่างหนังชุด ‘เฟรนด์ส’ และ ‘เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้’ กับการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่น
“ปัญหาหนึ่งก็คือ รายการเหล่านี้ให้ภาพเพศสัมพันธ์โดยที่แทบจะไม่กล่าวถึงผลเสียของการกระทำนี้เลย เช่น การตั้งครรภ์ หรือโรคที่ติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์” รายงานเตือน
ดร.แอนิตา จันทรา ผู้นำการวิจัย กล่าวว่ารายการทีวีที่มีเนื้อหาพัวพันกับเซ็กซ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการทำวิจัยเรื่องนี้และพบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับการตั้งครรภ์ของวัยรุ่น
ดร.จันทรา นักวิจัยจากแรนด์ คอร์เปอเรชัน กลุ่มวิจัยที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่เป็นที่ยอมรับกว้างขวาง เสริมว่าแม้แต่การ์ตูนที่มีเนื้อหาเรื่องเพศยังส่งผลในลักษณะเดียวกัน
ปัจจุบัน มีความกังวลกันมากในทั้งสองฝั่งฟากแอตแลนติกเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร อังกฤษนั้นได้ชื่อว่ามีอัตราการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นสูงที่สุดในยุโรป และสูงเกือบสองเท่าของสถิติในสหรัฐฯ
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า วัยรุ่นที่ดูรายการทีวีหรือมิวสิกวิดีโอที่อัดแน่นด้วยเรื่องเซ็กซ์จะมีประสบการณ์ทางเพศก่อนวัยอันควรและมีความเสี่ยงเพิ่มที่จะติดโรค
สำหรับการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ เพเดียทริกส์ นักวิจัยได้สัมภาษณ์เยาวชน 2,003 คนสามครั้งระหว่างปี 2001-2004 โดยถามเกี่ยวกับกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ พฤติกรรมทางเพศ และการตั้งครรภ์
ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย กลุ่มตัวอย่าง 718 คนบอกว่าเคยผ่านประสบการณ์ทางเพศ
การวิเคราะห์โครงการที่แยกออกมาต่างหากระบุถึงความถี่และชนิดของเนื้อหารายการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ซึ่งนักวิจัยเน้นหนักรายการทีวียอดนิยมในหมู่วัยทีน 23 รายการที่มีทั้งฉากและบทสนทนาเรื่องเซ็กซ์ อาทิ ‘เฟรนด์ส’ ‘เซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้’ และ ‘แดต เซเว่นตี้ส์ โชว์’ ตลอดจนถึงละคร หนังตลก รายการเรียลลิตี้ และการ์ตูน
นักวิจัยพบว่า 25% ของกลุ่มที่ดูรายการที่มีเนื้อหาเรื่องเพศมากที่สุดตั้งครรภ์ เทียบกับ 12% ของคนที่ดูรายการที่พูดถึงเซ็กซ์น้อยที่สุด
ผลศึกษายังพบว่าวัยรุ่นที่อาศัยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อ-แม่มีแนวโน้มตั้งครรภ์น้อยกว่าวัยรุ่นที่มีปัญหาพฤติกรรมและชอบทำผิดระเบียบวินัย
อย่างไรก็ตาม เอลิซาเบท ชโรเดอร์ กรรมการบริหารอานเซอร์ โครงการเพศศึกษาวัยรุ่นของมหาวิทยาลัยรัตเจอร์ในสหรัฐฯ วิจารณ์ว่าการศึกษานี้ไม่ได้ลงลึกถึงคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของครอบครัวและรายได้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ เห็นว่าผู้ปกครองและโรงเรียนควรมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้
ดร.เดวิด วอลช์ นักจิตวิทยาและประธานสถาบันสื่อและครอบครัวแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่าวัยรุ่นอเมริกัน 19% บอกว่าสามารถพูดคุยเรื่องเพศกับพ่อแม่ได้อย่างเปิดเผย
ความที่โรงเรียนมากมายไม่มีการเรียนการสอนเพศศึกษา ส่งผลให้สื่อต้องรับหน้าที่ในการให้ข้อมูลเรื่องเพศแก่วัยรุ่นโดยปริยาย
“ถ้าคุณมีลูกที่ไม่รู้จะหันหน้าไปคุยเรื่องเพศกับใคร และดูแต่ซิตคอมที่ให้ภาพว่าเซ็กซ์เป็นสิ่งที่คนฉลาดเขาทำกัน ผลลัพธ์จะยิ่งชัดเจนมาก” ดร.เวลช์กล่าวและว่า สิ่งที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้ก็คือ ควรหาเวลาคุยกับลูกเรื่องเซ็กซ์ก่อนที่เด็กจะโตเป็นวัยรุ่น
นอร์แมน เวลส์ จากแฟมิลี แอนด์ ยูท คอนเซิร์นในอังกฤษ ขานรับว่า ความที่เด็กมักเชื่ออะไรง่ายๆ พ่อแม่จึงควรหาทางควบคุมการเข้าถึงเนื้อหาเรื่องเพศของลูกผ่านทีวี วิดีโอ ซีดีรอม และอินเทอร์เน็ต