ท่านผู้อ่านที่เคารพ ขณะที่ผมลงมือเขียนบทความนี้เป็นเช้าวันอังคาร เวลาเกือบ 9 นาฬิกา ประมาณสิบชั่วโมงหลังจากนี้จะเป็นเช้าวันอังคารในอเมริกา คาดว่าชาวอเมริกันกว่า 135 ล้านคนในบรรดา 153 ล้านคนที่มาลงทะเบียนเลือกตั้งไว้จะพากันมาออกเสียง นับเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดทำลายสถิติของปี 1960
ปีนี้กับปี 1960 เหมือนกัน เพราะปี 1960 ประชาชนเห่อผู้สมัครหนุ่มรูปหล่อที่เป็นคาทอลิก คือ John F. Kennedy Kennedy หรือ JFK ปรากฏว่า JFK ได้เป็นประธานาธิบดีคาทอลิกคนแรกของอเมริกา
ปีนี้ ประชาชนก็เห่อผู้สมัครรูปหล่อ คือ Barack Hussein Obama ยังไม่มีใครเรียกเขาว่า BHO เห็นจะเป็นเพราะ Obama เรียกง่ายและเก๋ดี เขาเป็นชายหนุ่มลูกครึ่งผิวสี เพราะพ่อเป็นนิโกรแท้ๆ จากคีเนียหรือเคนยา ในแอฟริกา แม่เป็นอเมริกันขาวแท้ๆเหมือนกัน
Obama กับ Kennedy เหมือนกันอีก เพราะต่างก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ต่างก็เป็นวุฒิสมาชิกในสภา Congress เคนเนดีเป็นเทอมที่ 2 โอบามาเพิ่งเป็นเทอมเดียว ทั้งคู่อายุยังไม่ถึง 50 เคนเนดี 43 ปี โอบามา 47 ปี โอบามาอายุ 1 ขวบเมื่อเคนเนดีได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
ปีนี้ อเมริกามีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าเป็นครั้งแรก มีผู้ไปลงคะแนนแล้วกว่า 16 ล้านคน ผลอย่างไม่เป็นทางการ โอบามาชนะขาด
ผมไม่เคยได้ยินว่า มีการดูดวงให้ผู้สมัครประธานาธิบดีอเมริกัน แต่โหรไทยที่มีได้ชื่อวารินทร์ ทำนายว่าวันอังคาร โอบามา ซึ่งเกิดวันที่ 4 สิงหาคม 1961 ที่เกาะฮาวาย ดวงจะพุ่งกระฉูด
อเมริกาต่างกับเมืองไทย ใครจะกำหนดวันเลือกตั้งให้เข้ากับดวงของตนไม่ได้ เพราะวันเลือกตั้งกำหนดไว้แน่นอนแล้ว ว่าจะต้องเป็นวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิ กายนทุกๆ 2 ปี 2 ปีอเมริกันเลือกผู้แทนหนึ่งหน อีก 2 ปีมาชนคือทุกๆ 4 ปีก็เลือกประนาธิบดี ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งมีเทอมหรืออายุไม่เท่ากัน เช่น วุฒิสมาชิกหรือผู้ว่าการมลรัฐก็วนเวียนกันอยู่ในทุกรอบ 2 ปีนี้
ว่ากันว่าปีนี้ พรรคเดโมแครตของโอบามาจะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นอย่างมากมายใน 2 สภาของคองเกรส ทั้งนี้เพราะผู้สมัครจะสามารถเกาะชายเสื้อโคตหรือ Coattail ของโอบามาได้ กล่าวคือได้คะแนนจากผู้ที่มาลงให้โอบามานั่นเอง Coattail นี้ตามปกติมีทั้ง 2 ทาง คือผู้ว่าการรัฐ หรือผู้แทนที่เสียงดีมากๆ ก็อาจจะดึงคะแนนผู้สมัครประธานาธิบดีขึ้นได้บ้าง
เดี๋ยวนี้ แม้คนอเมริกันเองก็ตอบไม่ได้เสียแล้วว่าทำไมจะต้องเลือกตั้งวันอังคาร ที่ตอบไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูกบอกว่า ก็เพราะมันเลือกวันนี้มาตั้ง 130 กว่าปีแล้วนี่ เหตุผลที่ถูกก็คือเพราะวันนี้ฤดูเก็บเกี่ยวได้สิ้นสุดลงพอดี เสาร์อาทิตย์ก็เป็นวันหยุดหรือไม่ก็ไปโบสถ์
การเมืองกับศาสนาควรจะห่างกันหน่อย จึงเว้นวันจันทร์ไว้ สำหรับการเดินทางกลับบ้านอีกกรณีหนึ่งด้วย
ท่านผู้อ่านอาจไม่ทราบว่า ถึงแม้อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2551 นี้โอบามาจะชนะ
เขาก็ยังจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีในปีนี้ แต่จะต้องคอยถึงปีหน้า หลังวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
ในขณะที่รอคอย President Elect จะต้องตระเตรียมการเข้าสู่อำนาจที่เรียกว่า Transition ต้องวางแผนรับมอบงาน เตรียมทำงาน เตรียมแต่งตั้งรัฐมนตรี และผู้ช่วยสำคัญอื่นๆ ด้วย รวมทั้งรับ Briefing จากประธานาธิบดีและคนสำคัญของประธานาธิบดีที่กำลังจะออกไป ประธานาธิบดีบุชจะส่งกล่องควบคุมการใช้ระเบิดนิวเคลียร์มหาประลัยต่อให้ในวันที่ 20 มกราคม 2552
โอบามาจะเป็นคนผิวดำคนแรกที่มีอำนาจกุมชะตาโลก
วันที่ 20 มกราคม ปี 2552 เป็นวันที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง เป็นผู้นำประเทศ และเป็นผู้นำโลก
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าโอบามา ปฏิญาณตนต่อหน้าประธานศาลสูง มือหนึ่งแตะคัมภีร์ไบเบิล แบอีกมือหนึ่งยกขึ้น 180 องศา พร้อมกับกล่าวคำว่า
ข้าพเจ้า จอร์จ วอล์กเกอร์ บุช ขอสาบานว่า.....
ข้าพเจ้า วิลเลียม เจฟเฟอร์สัน คลินตัน ขอสาบานว่า...
แต่ปีนี้ท่านประธานาธิบดีคนใหม่จะกล่าวคำว่า
ข้าพเจ้า บารัค ฮุสเซน โอบามา ขอสาบานว่า.....
ชื่อทุกๆ คำของท่านประธานาธิบดี ไม่มีคำไหนเป็นภาษาอังกฤษเลยสักคำเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่อกลาง คือ ฮุสเซน นั้นเหมือนกับ ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีอิรัก
ชื่อฮุสเซน นี้เป็นชื่อตัวและชื่อสกุลของชาวมุสลิมทั่วโลก รวมทั้งภาคใต้ของประเทศไทย
ประธานาธิบดี 43 คนก่อนโอบามานั้น ยกเว้น JFK หรือจอห์น เอฟ เคนเนดี ซึ่งนับถือคริสต์ นิกายคาทอลิกแล้ว ทุกคนล้วนมีลักษณะคล้ายกับชนชั้นสูงของสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า WASP อันเป็นตัวย่อของ White-Anglo Saxon-Protestant หมายความถึงคนผิวขาว เชื้อสายแองโกล แซกซอน และนับถือคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์
ชื่อกลางว่า ฮุสเซน ของโอบามาทำให้กองเชียร์ของแมคเคน ผู้สมัครคู่แข่ง สังกัดพรรคริปับลิกันสาดโคลนว่า นอกจากโอบามาจะเป็นมุสลิมแล้ว ยังมีความสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้ก่อการร้ายโลกอีกด้วย
แต่โอบามาเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดได้ สิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ในโลกจึงเกิดขึ้นที่อเมริกา เพราะโอบามาเป็นคนผิวดำที่มีความสามารถและใจถึง เมื่อเขาพิสูจน์ความใจถึงของเขาให้คนอเมริกันผิวขาวเชื่อได้ คนอเมริกันผิวขาวที่เคยเหยียดผิวและรังแกคนดำทั้งหลาย ก็เลยกลับใจกลายมาเป็นคนใจถึง เลือกโอบามาเป็นประธานาธิบดี
ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยคิดและนึกไม่ถึงว่าคนดำจะเป็นประธานาธิบดีอเมริกา
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมตั้งใจจะเล่าแง่มุมต่างๆ ของการเลือกประธานาธิบดีอเมริกันให้ฟัง แต่เวลาและโอกาสยังไม่อำนวย
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นเวลา 9 เดือนพอดี ผมได้รับจดหมายจากโอบามา ซึ่งผมนำมาเขียนเล่าให้ท่านฟังแล้วในบทความเรื่อง “จดหมายจากประธานาธิบดีผิวดำ” ใน “ผู้จัดการออนไลน์”
ข้อความวรรคก่อนสุดท้ายของจดหมายโอบามา มีดังนี้
“We have an opportunity to give our country a new direction. We can replace the politics of division and destruction with a new politics of engagement and hope.”
“เรามีโอกาสที่จะให้ทิศทางใหม่แก่ประเทศของเรา เราสามารถทดแทนการเมืองที่แบ่งแยกทำลาย ด้วยการเมืองใหม่ของการมีส่วนร่วมและความหวัง”
บารัค โอบามา
ผมอยากตะโกนดังๆ ว่า ไหนล่ะ “การเมืองใหม่ของการมีส่วนร่วมและความหวัง” ของเรา
มีเสียงแผ่วๆ แหบๆ ตอบมาว่า “ไม่ยากหรอก ถ้าผู้นำและชายชาติทหารของจอมทัพไทยใจถึง”
ปีนี้กับปี 1960 เหมือนกัน เพราะปี 1960 ประชาชนเห่อผู้สมัครหนุ่มรูปหล่อที่เป็นคาทอลิก คือ John F. Kennedy Kennedy หรือ JFK ปรากฏว่า JFK ได้เป็นประธานาธิบดีคาทอลิกคนแรกของอเมริกา
ปีนี้ ประชาชนก็เห่อผู้สมัครรูปหล่อ คือ Barack Hussein Obama ยังไม่มีใครเรียกเขาว่า BHO เห็นจะเป็นเพราะ Obama เรียกง่ายและเก๋ดี เขาเป็นชายหนุ่มลูกครึ่งผิวสี เพราะพ่อเป็นนิโกรแท้ๆ จากคีเนียหรือเคนยา ในแอฟริกา แม่เป็นอเมริกันขาวแท้ๆเหมือนกัน
Obama กับ Kennedy เหมือนกันอีก เพราะต่างก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ต่างก็เป็นวุฒิสมาชิกในสภา Congress เคนเนดีเป็นเทอมที่ 2 โอบามาเพิ่งเป็นเทอมเดียว ทั้งคู่อายุยังไม่ถึง 50 เคนเนดี 43 ปี โอบามา 47 ปี โอบามาอายุ 1 ขวบเมื่อเคนเนดีได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
ปีนี้ อเมริกามีการลงคะแนนเสียงล่วงหน้าเป็นครั้งแรก มีผู้ไปลงคะแนนแล้วกว่า 16 ล้านคน ผลอย่างไม่เป็นทางการ โอบามาชนะขาด
ผมไม่เคยได้ยินว่า มีการดูดวงให้ผู้สมัครประธานาธิบดีอเมริกัน แต่โหรไทยที่มีได้ชื่อวารินทร์ ทำนายว่าวันอังคาร โอบามา ซึ่งเกิดวันที่ 4 สิงหาคม 1961 ที่เกาะฮาวาย ดวงจะพุ่งกระฉูด
อเมริกาต่างกับเมืองไทย ใครจะกำหนดวันเลือกตั้งให้เข้ากับดวงของตนไม่ได้ เพราะวันเลือกตั้งกำหนดไว้แน่นอนแล้ว ว่าจะต้องเป็นวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิ กายนทุกๆ 2 ปี 2 ปีอเมริกันเลือกผู้แทนหนึ่งหน อีก 2 ปีมาชนคือทุกๆ 4 ปีก็เลือกประนาธิบดี ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งมีเทอมหรืออายุไม่เท่ากัน เช่น วุฒิสมาชิกหรือผู้ว่าการมลรัฐก็วนเวียนกันอยู่ในทุกรอบ 2 ปีนี้
ว่ากันว่าปีนี้ พรรคเดโมแครตของโอบามาจะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นอย่างมากมายใน 2 สภาของคองเกรส ทั้งนี้เพราะผู้สมัครจะสามารถเกาะชายเสื้อโคตหรือ Coattail ของโอบามาได้ กล่าวคือได้คะแนนจากผู้ที่มาลงให้โอบามานั่นเอง Coattail นี้ตามปกติมีทั้ง 2 ทาง คือผู้ว่าการรัฐ หรือผู้แทนที่เสียงดีมากๆ ก็อาจจะดึงคะแนนผู้สมัครประธานาธิบดีขึ้นได้บ้าง
เดี๋ยวนี้ แม้คนอเมริกันเองก็ตอบไม่ได้เสียแล้วว่าทำไมจะต้องเลือกตั้งวันอังคาร ที่ตอบไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูกบอกว่า ก็เพราะมันเลือกวันนี้มาตั้ง 130 กว่าปีแล้วนี่ เหตุผลที่ถูกก็คือเพราะวันนี้ฤดูเก็บเกี่ยวได้สิ้นสุดลงพอดี เสาร์อาทิตย์ก็เป็นวันหยุดหรือไม่ก็ไปโบสถ์
การเมืองกับศาสนาควรจะห่างกันหน่อย จึงเว้นวันจันทร์ไว้ สำหรับการเดินทางกลับบ้านอีกกรณีหนึ่งด้วย
ท่านผู้อ่านอาจไม่ทราบว่า ถึงแม้อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2551 นี้โอบามาจะชนะ
เขาก็ยังจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีในปีนี้ แต่จะต้องคอยถึงปีหน้า หลังวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
ในขณะที่รอคอย President Elect จะต้องตระเตรียมการเข้าสู่อำนาจที่เรียกว่า Transition ต้องวางแผนรับมอบงาน เตรียมทำงาน เตรียมแต่งตั้งรัฐมนตรี และผู้ช่วยสำคัญอื่นๆ ด้วย รวมทั้งรับ Briefing จากประธานาธิบดีและคนสำคัญของประธานาธิบดีที่กำลังจะออกไป ประธานาธิบดีบุชจะส่งกล่องควบคุมการใช้ระเบิดนิวเคลียร์มหาประลัยต่อให้ในวันที่ 20 มกราคม 2552
โอบามาจะเป็นคนผิวดำคนแรกที่มีอำนาจกุมชะตาโลก
วันที่ 20 มกราคม ปี 2552 เป็นวันที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง เป็นผู้นำประเทศ และเป็นผู้นำโลก
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าโอบามา ปฏิญาณตนต่อหน้าประธานศาลสูง มือหนึ่งแตะคัมภีร์ไบเบิล แบอีกมือหนึ่งยกขึ้น 180 องศา พร้อมกับกล่าวคำว่า
ข้าพเจ้า จอร์จ วอล์กเกอร์ บุช ขอสาบานว่า.....
ข้าพเจ้า วิลเลียม เจฟเฟอร์สัน คลินตัน ขอสาบานว่า...
แต่ปีนี้ท่านประธานาธิบดีคนใหม่จะกล่าวคำว่า
ข้าพเจ้า บารัค ฮุสเซน โอบามา ขอสาบานว่า.....
ชื่อทุกๆ คำของท่านประธานาธิบดี ไม่มีคำไหนเป็นภาษาอังกฤษเลยสักคำเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่อกลาง คือ ฮุสเซน นั้นเหมือนกับ ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีอิรัก
ชื่อฮุสเซน นี้เป็นชื่อตัวและชื่อสกุลของชาวมุสลิมทั่วโลก รวมทั้งภาคใต้ของประเทศไทย
ประธานาธิบดี 43 คนก่อนโอบามานั้น ยกเว้น JFK หรือจอห์น เอฟ เคนเนดี ซึ่งนับถือคริสต์ นิกายคาทอลิกแล้ว ทุกคนล้วนมีลักษณะคล้ายกับชนชั้นสูงของสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า WASP อันเป็นตัวย่อของ White-Anglo Saxon-Protestant หมายความถึงคนผิวขาว เชื้อสายแองโกล แซกซอน และนับถือคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์
ชื่อกลางว่า ฮุสเซน ของโอบามาทำให้กองเชียร์ของแมคเคน ผู้สมัครคู่แข่ง สังกัดพรรคริปับลิกันสาดโคลนว่า นอกจากโอบามาจะเป็นมุสลิมแล้ว ยังมีความสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้ก่อการร้ายโลกอีกด้วย
แต่โอบามาเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดได้ สิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ในโลกจึงเกิดขึ้นที่อเมริกา เพราะโอบามาเป็นคนผิวดำที่มีความสามารถและใจถึง เมื่อเขาพิสูจน์ความใจถึงของเขาให้คนอเมริกันผิวขาวเชื่อได้ คนอเมริกันผิวขาวที่เคยเหยียดผิวและรังแกคนดำทั้งหลาย ก็เลยกลับใจกลายมาเป็นคนใจถึง เลือกโอบามาเป็นประธานาธิบดี
ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยคิดและนึกไม่ถึงว่าคนดำจะเป็นประธานาธิบดีอเมริกา
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมตั้งใจจะเล่าแง่มุมต่างๆ ของการเลือกประธานาธิบดีอเมริกันให้ฟัง แต่เวลาและโอกาสยังไม่อำนวย
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นเวลา 9 เดือนพอดี ผมได้รับจดหมายจากโอบามา ซึ่งผมนำมาเขียนเล่าให้ท่านฟังแล้วในบทความเรื่อง “จดหมายจากประธานาธิบดีผิวดำ” ใน “ผู้จัดการออนไลน์”
ข้อความวรรคก่อนสุดท้ายของจดหมายโอบามา มีดังนี้
“We have an opportunity to give our country a new direction. We can replace the politics of division and destruction with a new politics of engagement and hope.”
“เรามีโอกาสที่จะให้ทิศทางใหม่แก่ประเทศของเรา เราสามารถทดแทนการเมืองที่แบ่งแยกทำลาย ด้วยการเมืองใหม่ของการมีส่วนร่วมและความหวัง”
บารัค โอบามา
ผมอยากตะโกนดังๆ ว่า ไหนล่ะ “การเมืองใหม่ของการมีส่วนร่วมและความหวัง” ของเรา
มีเสียงแผ่วๆ แหบๆ ตอบมาว่า “ไม่ยากหรอก ถ้าผู้นำและชายชาติทหารของจอมทัพไทยใจถึง”