ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – กลุ่ม “เซรามิกลำปาง” หนาว วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ทำออเดอร์ใหม่หาย แถมถูกทยอยยกเลิกออเดอร์ที่มีอยู่ในมือมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่น้อยกว่า 10-30%แล้ว คาด 3 เดือนแรกปี 52 เห็นยอดความเสียหายชัดเจน แผนหาตลาดใหม่ “พูดง่ายทำยาก” ขณะที่แนวทางพัฒนาระยะยาวจากรัฐวันนี้มีแต่เปเปอร์ไร้เม็ดเงินหนุน หลายโครงการมีแต่ “งบกำลังใจ”ให้
วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่เกิดขึ้นจากสหรัฐอเมริกา ลามสู่ยุโรป และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังหวาดวิตกกันว่า จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของไทยด้วยอย่างเลี่ยงไม่พ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพิงตลาดต่างประเทศเป็นหลัก รวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา หรือเซรามิก ที่ลำปาง ที่มีโรงงานในพื้นที่มากกว่า 300 โรง สร้างยอดขายรวมทั้งปีไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท/ปีมาโดยตลอดนั้น ล่าสุดเริ่มถูกยกเลิกออเดอร์ทั้งที่เซ็นสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว และออเดอร์ใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ
นางสาวสุปราณี ศิริอาภานนท์ นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง เปิดเผยว่า ที่เดินเครื่องผลิตกันขณะนี้ล้วนแต่เป็นออเดอร์กลางปีทั้งสิ้น ขณะเดียวกันหลายโรงงานก็แจ้งมาที่สมาคมฯแล้วว่า ออเดอร์ปีหน้า (2552) ถูกยกเลิกกันแล้วเฉลี่ย 10-30% และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายรายที่เซ็นสัญญาล่วงหน้า 3 ปี ก็ยังถูกชะลอคำสั่งผลิตที่เหลืออยู่ออกไปก่อน ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงออเดอร์ใหม่ว่าจะมีเข้ามาหรือไม่ในปีหน้า
“3 เดือนแรกคงเห็นหน้า เห็นหลัง หรือตัวเลขความเสียหายในภาพรวมชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเรื่องออเดอร์ใหม่จากยุโรป อเมริกา ที่กำลังเกิดวิกฤต”
นางสาวสุปราณี กล่าวว่า กลุ่มที่เห็นผลกระทบชัดเจนแล้วขณะนี้ก็คือ Tableware ที่มีตลาดต่างประเทศเป็นตลาดหลัก ทยอยถูกยกเลิกออเดอร์ต่อเนื่อง ขณะที่เซรามิกในกลุ่มวัสดุก่อสร้างของลำปาง ที่ส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้องสระว่ายน้ำ – ปูพื้นนั้น ขณะนี้ก็เริ่มเห็นผลกระทบบ้างแต่ยังไม่มากนัก เพราะเป็นสินค้าเฉพาะ แต่เชื่อว่าปีหน้ายอดขายจะลดลงแน่นอน เนื่องจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำลง ก็จะส่งผลต่อเนื่องมาถึงการผลิตเซรามิกในกลุ่มนี้แน่นอน รวมไปถึงเซรามิกในกลุ่มตกแต่งด้วย
นางสาวสุปราณี กล่าวถึงแนวทางการหาตลาดใหม่มาทดแทน ว่า พูดง่าย แต่ทำยาก แนวทางนี้เป็นการลงทุน ที่ต้องใช้เวลานาน ไม่ใช่ว่าเจรจาวันนี้ พรุ่งนี้มีออเดอร์เข้ามา ดังนั้นเฉพาะหน้าตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสีแดง – สีเหลือง ต้องหาข้อยุติโดยเร็ว รัฐบาลต้องทำงานอย่างจริงจังในเรื่องเศรษฐกิจ – ปากท้องชาวบ้านมากขึ้น แทนที่จะมุ่งแต่ปัญหาการเมือง ไม่เช่นนั้นภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของผู้ซื้อในต่างประเทศ ที่เสียอยู่แล้ว ก็จะตกต่ำมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องหันมาใส่ใจ SMEs อย่างจริงจังมากขึ้น ไม่ใช่มีแต่ยุทธศาสตร์ หรือเปเปอร์ว่า จะพัฒนาอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ความจริงกลับไม่มีงบประมาณเข้ามาสนับสนุนใด ๆ มีแต่ยุทธศาสตร์ และข่าวตามหน้าสื่อมวลชน ที่ไม่เห็นผลในทางปฏิบัติใด ๆ ที่เป็นรูปธรรมออกมาให้เห็น
“แม้แต่ยุทธศาสตร์เมืองเซรามิกลำปาง – ศูนย์กลางเซรามิกเอเชียของลำปาง ที่พูดกันมาหลายปี ถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ของจังหวัดมาตลอด ถามว่าวันนี้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือไม่ เห็นมีแต่ยุทธศาสตร์ แต่ไม่มีเงินมาให้ทำงาน สุดท้ายก็ต้องให้ผู้ประกอบการดิ้นรนกันเอง หลายโครงการมีแต่งบกำลังใจให้”
ทั้งนี้อุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง จัดได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 50 ปี ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง ทำรายได้สูงถึง 2,000 - 3,500 ล้านบาท/ปี และจำนวนนี้เป็นรายได้จากการส่งออกประมาณ 2,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดการสร้างงานในท้องถิ่นมากกว่า 10,000 คน
ก่อนหน้านี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางเป้าหมายของการพัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิกลำปางไว้ว่า จะเพิ่มยอดขายจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 3,500 ล้านบาทเป็น 7,000 ล้านบาทในปีนี้ และยอดส่งออกเป็น 5,000 ล้านบาท และได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางเซรามิกของอาเซียนในปี พ.ศ. 2555
ทั้งนี้ เคยมีการการจัดเวิร์กชอป แนวทางการพัฒนาคลัสเตอร์ จัด เวิร์ชอป กำหนดหลักสูตรการศึกษา,จัดโครงการโรงเรียนในโรงงาน- โรงงานในโรงเรียน,สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มจัดซื้อวัตถุดิบ หรือเชื้อเพลิงเพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ,ผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มออกแสดงสินค้าร่วมกัน ส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มวางแผนการออกแบบ ฯลฯ