xs
xsm
sm
md
lg

ชี้เสื้อผ้าหน้าผมปัจจัยตัดสินแคนดิเดตหญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซี - ชี้ผู้หญิงที่หวังชิงตำแหน่งสูงสุดต้องมีทั้งความสามารถและเสน่ห์ดึงดูด ขณะที่แคนดิเดตเพศชาย แค่มีความสามารถอย่างเดียวก็เกินพอ

ผลการค้นพบนี้อาจช่วยอธิบายว่าเหตุใดแซราห์ แพลิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของรีพับลิกัน จึงต้องทุ่มทุนกับเสื้อผ้าหน้าผม ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เกิดคำถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่ผู้ชายอย่างจอห์น เอ็ดเวิร์ด ต้องควักกระเป๋าแพงๆ กับการตัดแต่งทรงผม

“สิ่งที่เราค้นพบน่าตื่นเต้นมาก” โจน เฉียวจากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐฯ กล่าว

สำหรับผู้สมัครเพศชาย สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเพศเดียวกันคือความสามารถ แต่สำหรับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเพศหญิงมักชอบแคนดิเดตที่มีทั้งความสามารถและเข้าถึงได้

แต่หากเป็นแคนดิเดตเพศหญิงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมมติในสหรัฐฯ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งชายและหญิงมีแนวโน้มลงคะแนนให้ผู้สมัครที่มีทั้งความสามารถและเสน่ห์ดึงดูด

“บุคลิกอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำนายได้ว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจะกาบัตรเลือกแคนดิเดตคนนั้นหรือไม่

“สำหรับแคนดิเดตหญิง ความสามารถและเสน่ห์เป็นตัวชี้ชะตาว่าจะชนะใจประชาชนได้หรือเปล่า” เฉียวย้ำในรายงานที่เผยแพร่ในระบบออนไลน์โดยวารสาร PloS ONE

รายงานเสริมว่า มีทฤษฎีความเป็นไปได้มากมาย แต่ที่ดูจะเข้าเค้าที่สุดคือ วิธีการที่คนเราเลือกเพื่อนหรือคู่ครอง

“ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมักถามตัวเองว่า ‘ใครจะออกไปกินเบียร์กับเราได้’ ขณะชั่งใจว่าจะเลือกกาบัตรให้ใคร

“สัญชาติญาณแบบเดียวกับการเลือกคู่ครองนี้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกผู้นำโดยไม่รู้ตัว”

ที่ผ่านมา มีการศึกษาหลายชิ้นที่มุ่งเน้นผลลัพธ์จากเสน่ห์ดึงดูดในแวดวงการเมือง อาทิเช่น งานวิจัยในปี 2005 ที่พบว่าแคนดิเดตที่ดูมีวุฒิภาวะกวาดคะแนนได้มากกว่าคู่แข่งที่หน้าตาอ่อนเยาว์ โดยนักวิจัยอธิบายว่า บุคลิกที่แสดงถึงวุฒิภาวะทำให้ผู้ลงคะแนนเชื่อว่าผู้สมัครคนนั้นมีความสามารถ

สำหรับการศึกษาล่าสุดนั้น ทีมนักวิจัยได้นำภาพผู้สมัครชิงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ นับจากปี 2006 มาให้คณะกรรมการที่ประกอบด้วยนักศึกษา 73 คนให้คะแนนความสามารถ ความมีอำนาจ เสน่ห์ และความสามารถในการเข้าถึงประชาชน

นักศึกษาทั้งหมดไม่รู้จักแคนดิเดตเหล่านี้ และส่วนใหญ่ยังไม่เคยเข้าคูหาเลือกตั้ง

ผลปรากฏว่า โดยรวมแล้วแคนดิเดตชายมีแนวโน้มได้คะแนนความสามารถมากกว่าแคนดิเดตหญิง และนักศึกษาหญิงให้คะแนนผู้สมัครชายว่ามีอำนาจมาก ขณะที่นักศึกษาชายไม่ได้ให้คะแนนส่วนนี้แตกต่างกันมากนักระหว่างแคนดิเดตแต่ละคน

นักศึกษาทั้งหมดให้คะแนนผู้สมัครหญิงว่ามีเสน่ห์มากกว่าผู้สมัครชาย รวมถึงสามารถเข้าถึงได้มากกว่า

หลังจากได้ชุดการจัดอันดับแล้ว นักวิจัยจับคู่แคนดิเดตทั้งหมดและขอให้นักศึกษาเลือกคู่ที่คิดว่าน่าจะเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี

การสรุปเกี่ยวกับคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการคว้าชัยชนะอิงกับผู้ชนะในการเลือกตั้งสมมติโดยนักศึกษาเหล่านี้

อย่างไรก็ดี เฉียวยอมรับว่าสำหรับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงวัยผู้ใหญ่ปลายๆ ที่ผ่านพ้นช่วงเวลาโรแมนติกไปแล้วนั้น อาจมีอคติเรื่องเพศน้อยลง

นักวิจัยยังบอกว่า ความคุ้นเคยสร้างความรู้สึกสะดวกใจ และการที่มีผู้หญิงได้ไต่เต้าสู่ตำแหน่งบริหารมากขึ้น จึงมีแนวโน้มว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจะสะดวกใจยิ่งขึ้นที่จะเลือกแคนดิเดตหญิง
กำลังโหลดความคิดเห็น