xs
xsm
sm
md
lg

คอนซูเมอร์ช็อกโค้งท้ายมึนจี้รัฐผุดเมกกะโปรเจ็คต์กระตุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – กูรู ชูกลยุทธ์รับมือการตลาดปี 52 แนะถือเงินสดให้มากที่สุด ลดความเสี่ยงกู้สินเชื่อ ชี้เศรษฐกิจดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายในประเทศ พร้อมปรับแผนระยะกลาง ใช้งบตามจังหวะและโอกาส ระบุปีหน้าภาครัฐควรผุดโครงการเมกกะโปรเจกต์ กระตุ้นเม็ดเงินสู่ระบบ ส่วนช่วง 2 เดือนโค้งสุดท้ายต้องลุ้น หลังการตลาดเกิดภาวะช็อก
นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้านี้จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง หากความขัดแย้งจบลงด้วยดีหรือกรณีมีการชุมนุมต่อแต่ต้องไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ทิศทางเศรษฐกิจอาจมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยลืมง่ายและตื่นตระหนกเหตุการณ์ในระยะแรกๆเท่านั้น ส่วนวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกกระทบต่อภูมิภาคเอเชียและภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยไม่มากนัก อีกทั้งการส่งออกของไทยไม่ได้พึ่งพิงอเมริกามากนัก โดยสัดส่วนการส่งออกไม่ถึง 30% แต่ขณะนี้ผู้บริโภคอาจเกรงกลัวกับภาวะที่เกิดขึ้น ทำให้อารมณ์และบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยไม่เอื้อ ซึ่งภาวะขณะนี้การเงินไม่ได้ฝืด
ทั้งนี้ภาครัฐควรเร่งดำเนินการโครงการเมกะโปรเจกต์ออกมาในปีหน้านี้ เพื่อนำเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ ส่วนปัจจัยบวกในปีหน้านี้คาดการณ์ว่า สินค้าเกษตรน่าจะมีราคาดี ยกเว้นราคายางพาราซึ่งอาจลดลงตามราคาผันผวนของน้ำมัน ในส่วนภาคเอกชนจะต้องเก็บกระแสเงินสดเอาไว้ เพราะเชื่อว่าภาคเอกชนจะไม่ปล่อยเงินกู้ แต่ธนาคารภาครัฐจะถูกบังคับให้ปล่อยสินค้า อาทิ ธนาคารออมสิน กรุงไทย เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการต้องบริหารเงินด้วยกัน 3 ประการ คือ เก็บเงินให้เร็วขึ้น จ่ายให้ช้าลง และสต็อกสินค้าให้น้อย นอกจากนี้การดำเนินการตลาดต้องโฟกัสให้แม่น
“สถานการณ์นี้เอเชียพึ่งเอเชียด้วยกันน่าจะอยู่รอดได้ และในปีหน้านี้หากไม่มีสถานการณ์ทางเมืองที่รุนแรง ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีขึ้น”
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การตลาดปีหน้าผู้ประกอบการควรระวังด้านกู้สินเชื่อจากทางธนาคารและให้ถือเงินสดมากที่สุด ส่วนแผนการตลาดควรวางระยะกลางมากกว่าระยะยาว เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ด้านการใช้งบควรใส่เม็ดเงินตามจังหวะโอกาสทางการตลาด ไม่ควรหยุดดำเนินกิจกรรมการตลาดหรือว่ากลัวล่วงหน้า แต่ต้องใช้งบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด  สำหรับบริษัทเองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ลดลง แต่บริษัทก็กระจายความเสี่ยง ด้วยการหาสินค้าที่เป็นเรือธงรองออกมาเสริมทางการตลาด โดยผลประกอบการปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
**ไฮซีซั่น 2 เดือนท้ายต้องลุ้นยอดขาย*
นายสมบุญ กล่าวว่า ทิศทางตลาด 2 เดือนสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลจำหน่ายสินค้า ต้องลุ้นกับสถานการณ์ตลาดเพราะไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมีการบริหารจัดการที่ดี มีความคล่องตัวพร้อมกับปรับตัวเองรองรับสถานการณ์ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 
สำหรับบริษัทดีทแฮล์มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 ชะลอตัวอย่างชัดเจน โดยยอดขายทรงตัว เพราะความวุ่นวายทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อยอดขายทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า เครื่องสำอางลดลงเกือบทุกแคธิกอรี่ ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ช็อกตลาดมาก นอกจากนี้ยังมีการปนเปื้อนสารเมลามีน กระทบต่อสินค้าที่เกี่ยวเนื่องจากหลายกลุ่ม อาทิ ช็อกโกแลต ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกมีส่วนทำให้ผู้บริโภครู้สึกกลัว
ภาพรวมสินค้าอุปโภคบริโภคมีอัตราการเติบโต 6% เนื่องจากมีการปรับราคาขึ้น 4-5% ตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งหากไม่มีการปรับราคา ภาพรวมสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตน้อยมาก  สำหรับผลประกอบการของบริษัทคาดว่าเติบโตเป้าหมาย

3
กำลังโหลดความคิดเห็น