xs
xsm
sm
md
lg

สนามเลือกตั้งสำคัญเลือกผู้นำUS ‘โอบามา-แมคเคน’ใครนำใครตาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคาร(4)นี้ คาดหมายกันว่าจะตัดสินกันด้วยคะแนนเสียงของมลรัฐสำคัญๆ จำนวนหนึ่งที่เดโมแครตและรีพับลิกันต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ในขณะที่ผลสำรวจความเห็นหลายสำนักชี้ว่าบารัค โอบามามีคะแนนนำหน้าจอห๋น แมคเคนอยู่เป็นส่วนใหญ่ โดยมีคะแนนชนะเด็ดขาดในการสำรวจความเห็นระดับประเทศของทุกสำนัก หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายกวาดคะแนนนำในทุกมลรัฐที่จอห์น แคร์รี เคยมีชัยในการเลือกตั้งปี 2004 รวมทั้งในอีกหลายมลรัฐที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ชนะคะแนนในปีเดียวกันด้วย
ผู้ชนะที่มีสิทธิเข้าสู่ทำเนียบขาวได้นั้น จะต้องมีคะแนนในส่วนของคณะผู้เลือกตั้งจำนวน 270 คะแนน ทั้งนี้เนื่องจากการเลือกประธานาธิบดีไม่ได้ใช้คะแนนเสียงสูงสุดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศเป็นเกณฑ์ แต่จะอาศัยเสียงส่วนใหญ่ของคณะผู้เลือกตั้งซึ่งจะเป็นผู้ที่ไปเลือกประธานาธิบดีอีกต่อหนึ่ง
คณะผู้เลือกตั้งของสหรัฐฯ มีด้วยกันทั้งสิ้น 538 คน จาก 50 มลรัฐและในดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย แต่ละมลรัฐ(และดิสตริกออฟโคลัมเบีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงวอชิงตัน) จะมีเสียงคณะผู้เลือกตั้งกี่เสียง จะถือตามจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐนั้นๆ เป็นเกณฑ์
ผู้ที่ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งจากผู้ออกเสียงสูงที่สุดในมลรัฐนั้นๆ จะได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของรัฐนั้นๆ ไปทั้งหมด ยกเว้นมลรัฐเมน และ เนบราสกา ที่ใช้วิธีแบ่งคะแนนคณะผู้เลือกตั้งให้กับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไปตามสัดส่วนของคะแนนผู้ออกเสียงที่ได้มา
มลรัฐต่อไปนี้เป็นสนามเลือกตั้งสำคัญในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นรัฐที่มีคณะผู้เลือกตั้งจำนวนมาก หรือเป็นรัฐที่เคยแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการเลือกตั้งปี 2004 หรือมีการขับเคี่ยวกันมากในการชิงชัยคราวนี้

**โคโลราโด – มีคณะผู้เลือกตั้ง 9 คน
บุชเคยเบียดแคร์รีในการเลือกตั้งครั้งก่อนด้วยคะแนน 52 ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนั้นเดโมแครตกลับชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ รวมทั้งผู้ว่าการมลรัฐด้วย ผลสำรวจล่าสุดของสองสำนักชี้ว่า โอบามานำแมคเคนอยู่ 7 และ 10 จุดตามลำดับ
**ฟลอริดา -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 27 คน
บุชชนะแคร์รีในการเลือกตั้งครั้งก่อนด้วยคะแนน 52 ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์ รัฐนี้เคยมีปัญหาเรื่องการนับคะแนน และกลายเป็นรัฐที่ชี้ชะตาการเลือกตั้งปี 2000 ไปเลยทีเดียว ฟลอริดาเป็นรัฐที่มีคะแนนแกว่งไปมาเนื่องจากมีกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นสูงอายุอยู่จำนวนมาก และกลุ่มนี้นิยมในตัวแมคเคน นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวยิวที่ตามปกติแล้วจะเลือกเดโมแครต ทว่าในครั้งนี้พวกเขายังไม่มั่นใจในตัวโอบามามากนัก ผลสำรวจความเห็นล่าสุดของสองสำนักระบุตรงกันว่าโอบามานำแมคเคนอยู่ 4 จุด โดยก่อนหน้านี้คู่แข่งทั้งสองมีคะแนนสูสีกันมากกว่านี้
**อินดีแอนา -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 11 คน
บุชชนะแคร์รีไปราว 20 จุด มลรัฐนี้เคยเทคะแนนให้เดโมแครตครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งปี 1964 แต่เนื่องจากเป็นรัฐที่อยู่ติดกับอิลลินอยส์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโอบามา อีกทั้งโอบามาได้ทุ่มกำลังหาเสียงอย่างหนักในมลรัฐนี้หลังจากทำคะแนนไล่หลังวุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตันในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้น ทำให้การแข่งขันกับแมคเคนยังไม่อาจชี้ชัดเด็ดขาด และผลสำรวจสำนักหนึ่งระบุว่าแมคเคนนำหน้าอยู่ 3 จุด แต่ของอีกสำนักหนึ่งระบุว่าโอบามานำอยู่ 1 จุด ส่วนอีกสำนักหนึ่งบอกว่าทั้งสองมีคะแนนสูสีกัน
**มิสซูรี -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 11 คน
บุชชนะแคร์รีด้วยคะแนน 53 ต่อ 46 เปอร์เซ็นต์ในปี 2004 และเป็นสนามเลือกตั้งที่ขับเคี่ยวกันดุเดือดระหว่างคนในเขตเมืองที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างกันไป กับกลุ่มหัวอนุรักษนิยมในเขตชนบท แมคเคนมีคะแนนนำหน้าโอบามาในรัฐนี้ราว 3 คะแนนจากการสำรวจของสองสำนัก
**นิวแฮมป์เชียร์ -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 4 คน
แคร์รีชนะบุชเพียง 1 จุดในปี 2004 แต่แมคเคนเคยมีชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนี้ด้วยคะแนนล้นหลามเมื่อปี 2000 และปีนี้ ทำให้เขามีความหวังว่าจะกำชัยได้ในการเลือกตั้งวันอังคารนี้ ส่วนเดโมแครตนั้นได้ที่นั่ง ส.ส.ในรัฐนี้และยังมีเสียงส่วนใหญ่ในสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเมื่อปี 2006 ผลสำรวจของห้าสำนักระบุว่าโอบามามีคะแนนนำแมคเคนด้วยคะแนนตั้งแต่ 7-15 คะแนน
**นิวเม็กซิโก -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 5 คน
บุชเบียดเอาชนะแคร์รีไปด้วยคะแนนไม่ถึง 6,000 คะแนนในปี 2004 แมคเคนมีความคุ้นเคยกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐนี้เพราะเขาเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐแอริโซนาที่อยู่ใกล้กัน แต่เขาจะต้องแข่งกับโอบามาอย่างหนัก เพราะมีประชากรกลุ่มอเมริกันที่พูดภาษาสเปนอยู่กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ผลสำรวจล่าสุดบอกว่าโอบามานำแมคเคนถึง 17 จุด จากที่เคยนำอยู่ราว 5-10 จุดในการสำรวจครั้งก่อนๆ
**เนวาดา -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 5 คน
บุชชนะแคร์รีไป 20,000 คะแนนเมื่อปี 2004 และในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 10 ครั้งที่ผ่านมา รีพับลิกันชนะในรัฐนี้ไปถึง 8 ครั้ง แต่มลรัฐนี้ก็มีประชากรกลุ่มอเมริกันพูดภาษาสเปนหนึ่งในสี่ ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ผลสำรวจเมื่อวันพฤหัสบดี(30ต.ค.)ระบุว่าโอบามานำอยู่ 5 จุด แต่ผลสำรวจบางสำนักบอกว่าเขานำโด่งถึง 12 จุด
**นอร์ทแคโรไลนา -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 15 คน
บุชชนะแคร์รีไป 12 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2004 ทั้งๆ ที่จอห์น เอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเดโมแครต เป็นวุฒิสมาชิกของรัฐนี้ ประชากรกว่าหนึ่งในห้าเป็นคนผิวสี และการที่รัฐนี้กำลังกลายเป็นเขตชนบทที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าไฮเทคทำให้โอบามามีโอกาสชนะสูงขึ้น แต่ผลสำรวจเมื่อวันศุกร์(31ต.ค.)ทั้งแมคเคนและโอบามามีคะแนนนิยมเท่ากันอยู่ ส่วนอีกสามสำนักให้โอบามานำในช่วงแคบๆ 1-4 จุด
**โอไฮโอ -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 20 คน
เป็นมลรัฐที่ชี้ชะตาการเลือกตั้งปี 2004 โดยบุชชนะแคร์รีไป 120,000 คะแนน และไม่เคยมีครั้งไหนที่รีพับลิกันชนะเลือกตั้งโดยไม่ชนะในรัฐโอไฮโอ ดังนั้นแมคเคนจะต้องทุ่มเทกำลังเพื่อเอาชนะในมลรัฐนี้ให้ได้ ทว่าผลสำรวจเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าโอบามานำอยู่ 7 จุด ส่วนอีกสำนักก็ให้โอบามานำ 4 จุด
**เพนซิลเวเนีย -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 21 คน
แคร์รีชนะบุชด้วยคะแนน 51 ต่อ 48 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2004 ทว่ามลรัฐนี้เป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่รัฐที่แม้แคร์รีเคยมีชัยชนะ แต่ทีมหาเสียงของแมคเคนมองเห็นโอกาสที่จะช่วงชิงคะแนนกลับมาเป็นของตนได้ ผลสำรวจของสองสำนักระบุในวันเสาร์(1พ.ย.)ว่าโอบามาขึ้นนำอยู่ 4 และ 8 จุดตามลำดับ ลดลงจากผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เขามีชัยชนะเป็นเลขสองหลัก
**เวอร์จิเนีย -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 13 คน
บุชชนะแคร์ไปอย่างสบายๆ ถึง 9 จุดในปี 2004 มลรัฐนี้เคยเลือกเดโมแครตครั้งหลังสุดเมื่อปี 1964 แต่ก็มีแนวโน้มเอนเอียงมาข้างเดโมแครตมากขึ้นในการเลือกตั้งระดับรัฐช่วงหลังๆ และมีกระแสนิยมเดโมแครตเกิดขึ้นในย่านชานเมืองตอนเหนือติดกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ผลสำรวจสองสำนักชี้โอบามามีคะแนนนำแมคเคนอยู่ 4 จุด ซึ่งน้อยลงกว่าการสำรวจก่อนหน้านี้
**วิสคอนซิน -- มีคณะผู้เลือกตั้ง 10 คน
ในปี 2004 แคร์รีชนะบุชไป 11,000 คะแนนจากทั้งหมดกว่า 3 ล้านคะแนน รัฐนี้โอบามามีคะแนนนำมาตั้งแต่ช่วงที่ขับเคี่ยวกับคลินตันในการเลือกตั้งขั้นต้น ผลสำรวจความเห็นสองสำนักระบุว่าโอบามานำแมคเคน 16 และ 11 จุดตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น