ศูนย์ข่าวศรีราชา – ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ภาคตะวันออก ประกาศปรับแผนตลาดรักษาฐานคนไข้ไทย-เทศรับมือเศรษฐกิจทรุดช่วงปลายปี 51- กลางปี 52 หลังพบการท่องเที่ยวและลงทุนทรุดตัวแล้วกว่า 30% จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยจะยังลดราคารักษาพยาบาล ขณะที่ในส่วนฐานคนไข้ต่างชาติก็จะดำเนินโครงการเมดิคัลทัวร์ เพื่อเปิดตลาดกลุ่มผู้รักษาสุขภาพในต่างประเทศ โดยเน้นการร่วมมือกับเอเยนซีทัวร์สุขภาพควบคู่การออกบูทประชาสัมพันธ์ความพร้อมด้านการพยาบาล
นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพภาคตะวันออก ที่ประกอบด้วยโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรีและโรงพยาบาลกรุงเทพตราด เผยถึงผลประกอบการของกลุ่มในช่วง 10 เดือนว่า
หลังใช้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและบริหาร งานภายในเครือข่ายโรงพยาบาลที่มีอยู่ 17 แห่งทั่วประเทศ เพื่อปรับลดต้นทุนดำเนินงานและการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้ได้ของดีราคาถูก สำหรับนำส่วนต่างที่เหลือมาปรับลดค่าบริการให้กับประชาชนทั้งค่าบริการทางการ แพทย์ที่ลดลง 15% ห้องพักลดลง 40% และงดการลงทุนในส่วนที่ไม่จำเป็นรวมถึงการสามารถยืมตัวบุคลากรข้ามโรงพยาบาลได้ ทำให้โรงพยาบาลกรุงเทพเครือข่ายภาคตะวันออกประหยัดค่าใช้จ่ายที่ควร 8-10% หรือคิดเป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท
ขณะที่การปรับลดค่าบริการทางการแพทย์ที่ใช้มาตั้งแต่ต้นปี 2551 ทำให้ผลดำ เนินงานของกลุ่มในครึ่งปีแรก 2551 เติบโตในหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนไข้นอกที่เพิ่มขึ้น 18% จำนวนผู้เข้าพักเพิ่มขึ้น 15% แต่รายได้จากการให้บริการต่อหัวลดลง 15% อย่างไรก็ดีแม้รายได้ต่อการให้บริการคนไข้ต่อหัวจะลดลง แต่เมื่อดูรายได้จากภาพรวมการดำเนินงานของกลุ่มแล้วพบว่าเพิ่มขึ้น 18% จากปริมาณคนไข้ที่เพิ่มมากขึ้น
“แม้กำไรจากการดำเนินธุรกิจจะลดลง แต่ก็ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเมื่อพบว่าจำนวนคนไข้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เป็นไปนโยบายทางการตลาดที่เราต้องการลบภาพลักษณ์ด้านราคา ที่ในวันนี้คนไข้พื้นที่และใกล้เคียงเข้าใจเรามากขึ้นและนับจากปลายปีนี้ไปจนถึงกลางปีหน้าเราจะมุ่งเน้นการเพิ่มฐานตลาดในส่วนนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มต่างชาติที่เราจะจัดโครงการ Medical Tour เพื่อเดินทางไปเปิดตลาดมากขึ้น และยังจัดแพกเกจทัวร์สุข ภาพให้ชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มตะวันออกกลางบางประเทศ และตะวันตกบางประเทศที่มองว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก”
นายแพทย์กฤตวิทย์ ยังเผยอีกว่าผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กำลังกระ ทบต่อภาคธุรกิจในขณะนี้ทำให้การท่องเที่ยวและการลงทุนของเมืองพัทยารวมถึงภาคตะวันออกทรุดลงกว่า 30% ดังนั้น หากทางกลุ่มไม่เร่งดำเนินการใดๆ ก็คาดว่ายอดราย ได้จากการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาลในเครือนับจากนี้จนถึงกลางปีหน้าจะหายไปไม่น้อยกว่า 10%
นอกจากการดำเนินงานตามแผนที่ระบุไว้ในเบื้องต้นแล้ว ปี2552โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยายังถูกกำหนดให้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่จะเป็นศูนย์กลางในการรักษาพยาบาลของภาคตะวันออก ด้วยการเพิ่มศักยภาพการเป็นศูนย์ชำนาญการรักษาโรคเฉพาะทาง ทั้งศูนย์ทางเดินหายใจ ศูนย์รักษาโรคทางสมอง ศัลยกรรม กาย ภาพบำบัดฯลฯ ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและทีมแพทย์ที่ชำนาญการ ขณะเดียวกันก็ยังจัดตั้งระบบการรับและส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลข้างเคียงอีกด้วย
“ในส่วนการให้บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศแม้จะมีปริมาณผู้ใช้ไม่มาก เพราะผู้ใช้จะต้องมีความจำเป็นจริงๆ แต่เรากำหนดให้จุดนี้เป็นพื้นที่ฉุกเฉินที่จะรองรับการเกิดอุบัติเหตุหมู่”
นายแพทย์กฤตวิทย์ ยังกล่าวถึงข่าวการขยายการลงทุนของกลุ่มโรงพยาบาลจากส่วนกลางเข้ามาในเมืองพัทยาและภาคตะวันออกว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวชะลอตัวไปตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากความไม่เอื้ออำนวยของภาวะเศรษฐกิจและยังเชื่อว่าจะเป็นเช่น นั้นไปจนถึงกลางปีหน้า เช่นเดียวกับการลงทุนของกลุ่มที่จะชะลอไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าโดยจะพิจารณาถึงการใช้จ่ายตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะเริ่มหลังไตรมาสแรกเป็นต้นไป
