xs
xsm
sm
md
lg

IMFเปิดกลไกใหม่ต่อสู้วิกฤตสินเชื่อโลก ให้ชาติศก.ดีแต่หมุนเงินไม่ทัน‘กู้ระยะสั้น’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศก่อตั้งกลไกกู้ยืมเงินฉุกเฉินแบบใหม่เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีเศรษฐกิจ “แข็งแกร่ง” แต่ประสบปัญหาสภาพคล่องขาดแคลนระยะสั้น ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลกที่ลุกลามไปเรื่อย ๆ

คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟอนุมัติการให้กู้ยืมเงินระยะสั้นฉุกเฉิน “สำหรับประเทศที่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เข้มแข็งซึ่งประสบกับปัญหาการขาดแคลนสภาพคล่องชั่วคราวที่เนื่องมาจากความปั่นป่วนในตลาดทุนของโลก” ไอเอ็มเอฟกล่าวในแถลงการณ์

กรรมการผู้จัดการของไอเอ็มเอฟ โดมินิก สเตราส์-คาห์น กล่าวว่ากลไกอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นนี้จะช่วยอุดช่องว่างในนโยบายของกองทุน ซึ่งเน้นไปที่การใช้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ประสบปัญหาการปรับตัวทั้งด้านการเงินและนโยบาย

“แต่ในเวลา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งแตกต่างออกไป ซึ่งต้องการการตอบสนองที่ต่างออกไปด้วย” สเตราส์-คาห์นกล่าวในการแถลงข่าว

“ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดทุนโลกนำสู่ปัญหาขาดสภาพคล่องรุนแรงในประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่บางแห่ง แม้แต่ประเทศที่สามารถคงกรอบเศรษฐกิจมหภาคอันมีประสิทธิภาพเอาไว้ได้ รวมทั้งสามารถเข้าถึงตลาดการเงินได้อย่างสม่ำเสมอ”

และสำหรับประเทศที่แม้ว่าจะมีสภาพการณ์เศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน รวมทั้งมีนโยบายที่สามารถควบคุมสภาวะเศรษฐกิจเอาไว้ได้ แต่กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันของการขาดแคลนสภาพคล่อง สเตราส์-คาห์นกล่าวว่า “กลไกใหม่นี้จะช่วยอุดช่องว่างในนโยบายช่วยเหลือทางการเงินของไอเอ็มเอฟ”
เขายังได้แสดงความยินต่อการประกาศขยายเครดิต สวอป ไลน์สของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ไปให้กับธนาคารกลางของเม็กซิโก บราซิล เกาหลีใต้ และสิงคโปร์เพื่อช่วยบรรเทาภาวะสินเชื่อตึงตัว

เขากล่าวว่าสวอป ไลน์สได้รับการออกแบบให้ “บรรเทาปัญหาที่เริ่มลุกลามออกไปในด้านการได้มาซึ่งเม็ดเงินตราต่างประเทศ ในประชาคมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีการบริหารที่ดี”

สเตราส์-คาห์นเน้นว่าไอเอ็มเอฟได้ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในลักษณะเป็นกลุ่ม เพื่อแก้ไขวิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงที่สุดในนับตั้งต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษ 1930 เป็นต้นมา และทำให้เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญหน้ากับภาวะชะลอตัวรุนแรง

“กองทุนได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นมากขึ้นต่อคำร้องขอให้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ และตอนนี้เราก็ได้ช่วยเหลือบางประเทศไปแล้วโดยใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล โดยมีเงื่อนไขที่มีพื้นฐานมาจากมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ และสามารถฟื้นฟูสถานะแข็งแกร่งคืนมาอีกครั้ง”เขากล่าว

ในกลไกการกู้ยืมระยะสั้นจะให้เงินกู้ก้อนโตที่สามารถเบิกจ่ายได้รวดเร็ว โดยใช้ทรัพยากรของไอเอ็มเอฟที่มีอยู่ “สำหรับประเทศที่มีนโยบายเข้มแข็งและมีประวัติที่ดี” ไอเอ็มเอฟกล่าว

ไอเอ็มเอฟมีประเทศต่าง ๆเป็นสมาชิกอยู่ 185 แห่ง และประเทศที่จะสามารถใช้กลไกกู้เงินฉุกเฉินระยะสั้นได้นี้นอกจากจะมีประวัติการนโยบายการเงินการคลังที่เข้มแข็งแล้ว จะต้องสามารถเข้าถึงตลาดทุนได้ และมีภาระหนี้ระยะยาวที่มั่นคง ทั้งนี้ประเทศที่ผ่านการอนุมัติของไอเอ็มเอฟแล้ว จะสามารถถอนเงินได้ 500% จากโควตาของตัวเองในไอเอ็มเอฟ เงินกู้ดังกล่าวจะมีอายุสามเดือน และสามารถจะต่ออายุได้อีกสามครั้งในช่วงเวลาสิบสองเดือน

“ไอเอ็มเอฟจะตอบสนองต่อวิกฤตครั้งนี้ด้วยนโยบายการเงินที่จำเป็นที่มีอยู่ทั้งหมด” สเตราส์-คาห์นกล่าว

“เราเตรียมที่จะใช้ทรัพยากรของเราเอง และจะทำงานร่วมกับองค์กรอื่น ๆเพื่อก่อให้เกิดทรัพยากรเพิ่มขึ้นเพื่อจะประกันว่าประเทศต่าง ๆ จะมีเงินที่ต้องการพอเพียงที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นสาธารณะและคงความมีสเถียรภาพเอาไว้ได้”

เขายอมรับในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกว่าไอเอ็มเอฟอาจจะไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละประเทศที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงนี้ได้

“เราอาจต้องการทรัพยากรเพิ่ม ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าวิกฤตครั้งนี้ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดปัญหาในดุลการชำระเงิน แต่ทำให้เกิดการขาดแคลนสภาพคล่องเฉพาะหน้าที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งกลไกใหม่นี้จะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ได้ แต่ก็จะมีปัญหาในภาพรวมที่ต้องแก้ไขให้อีกเช่นกัน”

นอกจากนี้เขายังได้แสดงการสนับสนุนต่อการที่นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ออกมาเรียกร้องให้จีนและรัฐร่ำรวยน้ำมันในอ่าวเปอร์เชียต่าง ๆออกมาช่วยเหลือไอเอ็มเอฟโดยการเพิ่มเม็ดเงินให้แก่แผนการต่าง ๆของไอเอ็มเอฟ

ไอเอ็มเอฟประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า ปัจจุบันมีเม็ดเงินอยู่ทั้งหมด 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อให้สมาชิกได้กู้ยืม
กำลังโหลดความคิดเห็น