ผู้จัดการรายวัน-“สันติ”หวังใช้เงินกู้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากจีนพัฒนาร.ฟ.ท.ทั้งโครงการทางคู่และซ่อมบำรุง แก้ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ เตรียมหารือ”นายกฯ”ขอนโยบายอีกครั้ง พร้อมแบ่ง 4 กลุ่มงานขนส่ง แยกพัฒนา ยังไม่พอใจ 8 เดือนงานไม่คืบหน้าเหตุขาดเจ้าภาพที่ชัดเจน
นานสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดวานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ได้มอบหมายให้นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หารือร่วมกันถึงความเหมาะสมในการลงทุนสำหรับ เงินกู้ จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประเทศจีนจะปล่อยกู้ให้ ซึ่งจะเน้นใช้ในโครงการเมกะโปรเจกต์ และการพัฒนาระบบราง โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ของร.ฟ.ท. และการซ่อมและปรับปรุงทางรถไฟจำนวนหลายพันกิโลเมตรที่มีสภาพเก่า แต่ได้รับงบประมาณในการซ่อมบำรุงในแต่ละปีไม่เพียงพอ
“สภาพทางที่เก่าและได้รับงบประมาณในการซ่อมบำรุงไม่พอ ทำให้ทางรถไฟเกิดการชำรุด รถไฟไม่สามารถวิ่งเร็วได้ ถ้าวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะตกราง ส่วนรถไฟทางคู่ทั่วประเทศมีความจำเป็นต้องพัฒนาต่อไป เพราะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนให้จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น จีนยืนยันที่จะให้เงินกู้ สำหรับโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้น โดยผมจะขอนโยบายจาก นายกรัฐมนตรีว่า จีนต้องการให้กู้เพื่อนำมาใช้ในเมกะโปรเจ็กต์โครงการไหน“นายสันติกล่าว
นอกจากนี้นายสันติยังกล่าวว่า ได้แบ่งงานของกระทรวงคมนาคมออกเป็น 4 กลุ่มพร้อมตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน โดยรองปลัดกระทรวงคมนาคมแต่ละด้านจะเป็นผู้กำกับดูแล ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ด้านงานขนส่งทางบกและขนส่งสาธารณะ กลุ่มที่ 2 ด้านงานขนส่งทางน้ำทั้งหมด กลุ่มที่ 3 ด้านขนส่งทางอากาศ และกลุ่มที่ 4 ด้านระบบขนส่งทางราง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเร่งรัดและขับเคลื่อนให้การทำงานในหน่วยงานต่างๆและ โครงการที่สำคัญ เดินหน้ารวดเร็วมากขึ้น
นานสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดวานนี้ (27 ต.ค.) ว่า ได้มอบหมายให้นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หารือร่วมกันถึงความเหมาะสมในการลงทุนสำหรับ เงินกู้ จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประเทศจีนจะปล่อยกู้ให้ ซึ่งจะเน้นใช้ในโครงการเมกะโปรเจกต์ และการพัฒนาระบบราง โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ของร.ฟ.ท. และการซ่อมและปรับปรุงทางรถไฟจำนวนหลายพันกิโลเมตรที่มีสภาพเก่า แต่ได้รับงบประมาณในการซ่อมบำรุงในแต่ละปีไม่เพียงพอ
“สภาพทางที่เก่าและได้รับงบประมาณในการซ่อมบำรุงไม่พอ ทำให้ทางรถไฟเกิดการชำรุด รถไฟไม่สามารถวิ่งเร็วได้ ถ้าวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะตกราง ส่วนรถไฟทางคู่ทั่วประเทศมีความจำเป็นต้องพัฒนาต่อไป เพราะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนให้จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น จีนยืนยันที่จะให้เงินกู้ สำหรับโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้น โดยผมจะขอนโยบายจาก นายกรัฐมนตรีว่า จีนต้องการให้กู้เพื่อนำมาใช้ในเมกะโปรเจ็กต์โครงการไหน“นายสันติกล่าว
นอกจากนี้นายสันติยังกล่าวว่า ได้แบ่งงานของกระทรวงคมนาคมออกเป็น 4 กลุ่มพร้อมตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน โดยรองปลัดกระทรวงคมนาคมแต่ละด้านจะเป็นผู้กำกับดูแล ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ด้านงานขนส่งทางบกและขนส่งสาธารณะ กลุ่มที่ 2 ด้านงานขนส่งทางน้ำทั้งหมด กลุ่มที่ 3 ด้านขนส่งทางอากาศ และกลุ่มที่ 4 ด้านระบบขนส่งทางราง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเร่งรัดและขับเคลื่อนให้การทำงานในหน่วยงานต่างๆและ โครงการที่สำคัญ เดินหน้ารวดเร็วมากขึ้น
