ผู้จัดการรายวัน – คลังเตรียมเสนอ ครม.ปรับลดค่าเคหลังราคาน้ำมันโลกลดลงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่ปรับเพิ่มให้ลดภาระขาดทุนของผู้รับเหมาสกัดการทิ้งงานก่อสร้าง เชื่อมั่นไตรมาสแรกปีงบประมาณ 52 เบิกจ่ายได้ตามเป้า 3 แสนล้านบาท
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลางตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับวงเงินชดเชยค่าก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมาหรือค่าเค จากก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับเพิ่มค่าเคโดยอ้างราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้รับเหมาะก่อสร้างมีภาระต้นทุนสูงขึ้นจนต้องทิ้งงานราชการที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ
"เมื่อราคาน้ำมันลดลงมากก็จะเก็บไว้เป็นข้อสังเกตว่าจำเป็นต้องลดค่าเคลงเพื่อมิให้เป็นการสร้างภาระกับเงินงบประมาณ เนื่องจากตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเมื่อราคาน้ำมันปรับขึ้น ผู้รับเหมาก็ขอขึ้นค่าเคเพื่อลดภาระการขาดทุนที่เกิดจากต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้จะสามารถลดเคลงได้หรือไม่ขึ้นนั้นกับการตัดสินใจในระดับนโยบายของรัฐบาล"นายมนัสกล่าว
ทั้งนี้จาก 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเป็นหนึ่งในมาตรการนั้น คาดว่าในช่วงไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2552 จะมีการเบิกจ่ายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 22%ของยอดเงินงบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากมีแผนการเบิกจ่ายของเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินเกษียณก่อนกำหนดร่วมอยู่ด้วย
ทั้งนี้สำหรับทั้งปีงบประมาณ 2552 แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอจากวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐ แต่คาดว่ากระทรวงการคลังซึ่งตั้งเป้าเบิกจ่ายไว้ที่ 94%เท่ากับเป้าการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2551 ที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้ามาแล้ว ก็สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าเช่นกัน โดยเฉพาะงบลงทุนที่มีโครงการเมกะโปรเจ็กต์จำนวนมากที่รอให้ดำเนินการอยู่
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลางตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับวงเงินชดเชยค่าก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมาหรือค่าเค จากก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับเพิ่มค่าเคโดยอ้างราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้รับเหมาะก่อสร้างมีภาระต้นทุนสูงขึ้นจนต้องทิ้งงานราชการที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ
"เมื่อราคาน้ำมันลดลงมากก็จะเก็บไว้เป็นข้อสังเกตว่าจำเป็นต้องลดค่าเคลงเพื่อมิให้เป็นการสร้างภาระกับเงินงบประมาณ เนื่องจากตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเมื่อราคาน้ำมันปรับขึ้น ผู้รับเหมาก็ขอขึ้นค่าเคเพื่อลดภาระการขาดทุนที่เกิดจากต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้จะสามารถลดเคลงได้หรือไม่ขึ้นนั้นกับการตัดสินใจในระดับนโยบายของรัฐบาล"นายมนัสกล่าว
ทั้งนี้จาก 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเป็นหนึ่งในมาตรการนั้น คาดว่าในช่วงไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2552 จะมีการเบิกจ่ายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 22%ของยอดเงินงบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท เนื่องจากมีแผนการเบิกจ่ายของเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินเกษียณก่อนกำหนดร่วมอยู่ด้วย
ทั้งนี้สำหรับทั้งปีงบประมาณ 2552 แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอจากวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐ แต่คาดว่ากระทรวงการคลังซึ่งตั้งเป้าเบิกจ่ายไว้ที่ 94%เท่ากับเป้าการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2551 ที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้ามาแล้ว ก็สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าเช่นกัน โดยเฉพาะงบลงทุนที่มีโครงการเมกะโปรเจ็กต์จำนวนมากที่รอให้ดำเนินการอยู่