‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ ถูกพันธมิตรฯทีโอทีร่วม 400 คน รุมล้อม โห่ไล่ ‘ฆาตกรมือเปื้อนเลือดออกไป’ ระหว่างไปมอบนโยบายกระทรวงไอซีที ขากลับ ต้องอาศัยช่างภาพ สื่อมวลชน ตีวงล้อมฝ่าฝูงชนออกไป ด้านตำรวจคุ้มกันแสดงกิริยาเถื่อน ผลักอกตั้งท่าชักปืนขู่พนักงานทีโอที นายกฯผวามือตบเปลี่ยนแผนกระทันหันพบผู้บริหารกระทรวงคมนาคมที่กรมการขนส่งทางบกเขตจตุจักรแทน โอดเป็นนายกฯไม่มีบารมีและถูกโห่ไล่ ด้านพันธมิตรฯทีโอที ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรียกร้องพนักงานชุมนุม 9.30 น.วันที่ 27 ต.ค.ชั้นล่างอาคาร 9 ร่วมเขย่ามือตบไล่ ‘มั่น พัธโนทัย’ โทษฐานอยู่ในคณะรัฐมนตรีฆาตกร
เมื่อวานนี้( 22ต.ค.) เวลาประมาณ 10.00น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เข้าตรวจเยี่ยมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยมีนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที และผู้บริหารสังกัดกระทรวงไอซีทีรอต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีพนักงานทีโอที ใส่เสื้อเหลืองพร้อมมือตบ จำนวน 200-300 คนมารวมตัวบริเวณห้องโถงอาคาร 9 ทีโอที แจ้งวัฒนะ ซึ่งกระทรวงไอซีทีใช้เป็นที่ทำการ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร ตั้งแต่ก่อน 10.00 น. จนกระทั่งนายสมชายเดินทางเข้ามาถึงกระทรวงไอซีที พนักงานทีโอทีต่างพร้อมใจเขย่ามือตบโห่ไล่ว่า ‘ฆาตกรมือเปื้อนเลือดออกไป’ ส่งผลให้นายสมชายเปลี่ยนทางเข้าจากด้านหน้าตึก ไปเข้ากระทรวงไอซีทีด้วยลิฟท์บริเวณที่จอดรถชั้นใต้ดินแทน โดยพนักงานทีโอทีได้พยายามรวมตัววิ่งตามไล่นายกรัฐมนตรีอย่างเหนียวแน่น
เมื่อนายสมชายสามารถขึ้นกระทรวงไอซีทีได้มีการล็อกลิฟท์ขึ้นชั้นไอซีที 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวง ทุกตัวเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานตามขึ้นไปได้ จากนั้นนายสมชายก็ได้เข้ารับฟังรายงานจากผู้บริหารสังกัดกระทรวงไอซีที
‘ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ ทุกคนไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องบางอย่างไม่สามารถป้องกันได้ ฉะนั้นก็ต้องอยู่ร่วมกันไปให้ได้’นายสมชายกล่าวกับผู้บริหารในห้องประชุม
ภายหลังกล่าวเสร็จก็ได้สั่งการให้เชิญนักข่าวออกจากห้องประชุม แล้วปิดห้องประชุมกันต่ออีกราว 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยภายหลังการประชุมเสร็จนายสมชายได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเข้าตรวจเยี่ยมครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมมอบนโยบาย โดยจะเข้าตรวจเยี่ยมมอบนโยบายอย่างทั่วถึงทุกกระทรวง
สำหรับสาเหตุที่เข้าตรวจเยี่ยมไอซีทีเป็นกระทรวงแรก เนื่องจากต้องการเร่งปิดเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง เนื่องจากเป็นเรื่องอ่อนไหว ส่งผลต่อจิตใจของประชาชนในประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต่างรอการดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องงบประมาณในการดำเนินการเรื่องนี้หากมีความจำเป็นก็จะพิจารณาเพิ่มเติมให้
ระทึกสื่อ-การ์ด ล้อมนายกฯฝ่าม็อบ
เวลาประมาณ 12.00 น.ซึ่งนายสมชายต้องเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี เห็นท่าไม่ค่อยดี เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงกระจายปิดล้อมทางออกอาคารทีโอทีทุกด้าน จึงตัดสินใจที่จะนำนายกรัฐมนตรีออกพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการขอความร่วมมือสื่อมวลชนทั้งช่างภาพและผู้สื่อข่าวประมาณ 30 คน ในการตั้งวงล้อมกำบังตัวนายกรัฐมนตรี ร่วมกับทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย
ทันทีที่นายกรัฐมนตรีก้าวออกจากลิฟท์มายังชั้น 1 ของอาคารทีโอที ทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบ ได้จับมือประสานเข้าประชิดล้อมตัวนายกรัฐมนตรี ขณะที่ผู้สื่อข่าวช่างภาพล้อมตัวทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยและนายกรัฐมนตรีไว้อีกชั้นหนึ่ง และดันเดินหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงรถโตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนของนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที ที่ทีมรักษาความปลอดภัยนำมาจอดรอไว้ที่หน้าอาคารทีโอที โดยทิ้งรถโฟร์ค สีเขียวไว้ใต้อาคารทีโอที เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมไม่ให้เอาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนนับร้อย ได้กรูกันเข้าเพื่อที่จะประชิดตัวนายกรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด พร้อมกับตบมือตบ และตะโกนด่าว่า ‘ฆาตกร ออกไป’ดังกึกก้อง ระหว่างนี้ได้เกิดการชุลมุลวุ่นวายโดยกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนได้พยายามเบียดตัวแทรกสื่อมวลชนและทีมรักษาความปลอดภัย เพื่อจะเอามือตบตีนายกฯ จนเกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจรักษาความปลอดภัย และผู้สื่อข่าวล้มลุกคุกคลาน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนที่เข้าไม่ถึงได้เขวี้ยงขวดน้ำ มือตบ และรองเท้า เฉี่ยวศีรษะนายกฯ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมด้านนอกพยายามดันเข้ามาเพิ่มเติม มีพนักงานรายหนึ่งตะโกนด่าตำรวจด้วยความเจ็บแค้นเนื่องจากถูกผลักอก พร้อมกับตำรวจทำท่าจะชักปืนยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงบริเวณประตูทางออก ซึ่งเป็นกระจกบานเลื่อนอัตโนมัติที่ล๊อคเปิดเอาไว้ไม่กว้างมากนัก ทำให้เกิดการเบียดเสียด และชนกับกระจกจนหลายร้องตะโกน เพราะเกรงว่ากระจกจะแตก และทันทีที่นายกฯออกผ่านประตูมาได้ ทีมรักษาความปลอดภัย รีบนำตัวนายกฯ ขึ้นรถที่จอดรอไว้ทันที ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ลดละ ขว้างมือตบ ขวดน้ำ ไล่หลังนายกฯพร้อมกับตะโกน ‘เป็นนายกฯไม่สมศักิ์ศรีเลย’หลังจากรถนายกฯเคลื่อนตัวออกไปแล้ว พนักงานได้หันไปมุ่งเป้าเล่นงานรมว.ไอซีที ที่เปลี่ยนรถรับเป็นยาริส สีขาวของหลาน เพื่อหลอกล่อ พนักงาน แต่ไม่สำเร็จเพราะพนักงานจำนวนหนึ่งได้กรูตะโกนด่า ขวางปาขวดน้ำมือตบใส่รถจนเคลื่อนออกจากหน้าตึก 9
หลังจากนั้นขบวนนายกฯ ได้เดินทางกลับเข้าบ้านพักเบเวอร์ลี่ฮิลส์ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีสื่อติดตามขบวนมาด้วยทันที่ถึงบ้านพัก ทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ ได้เข้ามาขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือช่วยเป็นกำบังเอานายกฯ ออกมาจากวงล้อมผู้ชุมนุม ถึงกับยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว และช่าวภาพ
ด้านนายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การกระทำของพนักงานครั้งนี้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ไม่สามารถควบคุม หรือสั่งการได้
ผวามือตบนายกฯเปลี่ยนแผน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 14.00 น.นายสมชายเดินทางมาพบผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมที่กรมการขนส่งทางบกเขตจตุจักร ซึ่งจากเดิมกำหนดพบกันที่กระทรวงคมนาคม แต่ในช่วงเช้าเจอกลุ่มพันธมิตรฯมือตบทีโอทีที่กระทรวงไอซีทีทำให้ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เปลี่ยนสถานที่อย่างกะทันหัน เนื่องจากเกรงว่าจะโดนไล่ เพราะอยู่ใกล้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ขบวนของนายกฯเข้ามาบริเวณกรมขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูรั้วทางเข้าทันที ขณะที่ภายในและนอกบริเวณรั้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรจะมาชูมือตบขับไล่อย่างเช่นช่วงเช้า
เมื่อนายสมชายเข้าห้องประชุมได้กล่าวกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคมถึงเหตุการณ์กลุ่มพนักงานทีโอทีชูมือตบไล่ว่า ที่มาที่กรมการขนส่งทางบก ไม่ได้ซีเรียสอะไร เนื่องจากมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและรองนายกฯดูแลกำกับเรียบร้อยแล้ว ตนเป็นเพียงผู้สนับสนุนดูแลงานให้ราบรื่น ไม่อยากให้ดูว่าห่างไกลกัน เมื่อเช้าที่ตนไปที่กระทรวงไอซีทีก็ไม่ได้รู้สึกซีเรียสกับผู้ชุมนุมเหล่านั้น
“ผมมองว่าเรื่องทีเกิดขึ้นเป็นสีสัน หากผมมัวแต่ไปกังวลอาจจะทำให้เสียโอกาสทำประโยชน์ให้กับประชาชน ที่โดนไล่โดนโห่ก็ไม่ได้คิดว่าทำให้เสียหน้า เพราะคนที่เป็นนายกฯไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า เดี๋ยวก็เปลี่ยน ถึงผมลาออกก็ไม่ได้ทำให้ได้อะไร ผมไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้มีบารมีและไม่มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว วันนี้ผมมาเพราะตำแหน่งนายกฯและเป็นนายกฯที่ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากเป็นนายกฯที่โดนโห่ไล่”นายสมชายกล่าว
กระทั่งเวลา 15.10 น.นายกฯห้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พันธมิตรฯทีโอที ประมาณ 300 คน ใช้มือตบไล่ ขณะไปประชุมตรวจเยี่ยมกระทรวงไอซีทีด้วยท่าทีขึงขังกว่าเคย ว่า ไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิด แต่รู้สึกจะแรงไปหน่อย มีการขว้างขวดน้ำอะไรต่ออะไร เมื่อถามว่าได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่คนที่ตามหลังได้นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ให้อภัยกัน เมื่อถามว่า เกิดปัญหาอย่างนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานต่อไปหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่เป็น ตนหยุดไม่ได้ เรื่องการทำงานหยุดไม่ได้ วันนี้เสร็จจากทีโอทีก็มากระทรวงคมนาคมเลย จากนั้นจะไปรับเสด็จที่วัดบวรฯ
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้ประเทศเกิดความสมานฉันท์มีบรรยากาศที่ดี นายสมชาย กล่าวว่า ช่วยกันคิดหน่อย คนละไม้คนละมือ ว่าจะทำอย่างไร เพราะงานต้องทำทุกวัน ถ้าตนไม่ทำงาน โครงการต่างๆ ก็ชะงัก การพัฒนาประเทศก็จะหยุด อันนี้ตนหยุดไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร ความคิดแตกต่างกันได้ แต่อย่าก่อความรุนแรง อย่าทำร้ายกัน อย่าทำให้เกิดการวิวาทบาดหมาง “สำหรับผมผมไม่ถือนะ ใครทำอะไรผมให้อภัยหมด”นายสมชายกล่าวด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเล็กน้อย เมื่อถามว่าพันธมิตรฯไปไล่ทุกที่ จะทำให้ท้อแท้ต่อการทำงานหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ท้อแท้
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม นายสมชาย กล่าวว่า เขากำลังทำงานอยู่ ตนไม่เกี่ยว ไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่เข้าไปแตะต้อง เมื่อถามว่ าจะเร่งให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ได้เรียนไปแล้วว่าพยายามจะให้เร็ว ซึ่งวันนั้นคาดหมายว่า 15 วัน แต่คณะกรรมการอาจจะมีต่อ มากหรือเร็วกว่าเล็กน้อย เราจะพยายามให้ท่านทำงานโดยสะดวก สบายใจ และไม่เข้าไปแตะต้องแทรกแซง เมื่อถามว่า ถ้าไม่มีข้อสรุปออกมาโดยเร็วอาจจะทำการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองยากขึ้นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ก็พยายามเรียนท่าน ทำให้เร็วขึ้น
มั่นรับกลัวเสียงโห่ไล่
นายมั่น รมว.ไอซีทีกล่าวภายหลังกลับกระทรวงไอซีทีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าทำให้รู้สึกเสียหน้ามาก และมีความรู้สึกกลัว เสียงโห่ไล่จึงขึ้นรถยารีส สีขาวของหลานชายออกไปจากกระทรวงก่อนแล้วค่อยวกกลับมาเมื่อเหตุกรณ์สงบ แต่ก็ไม่ถึงกับตระหนก แต่นับว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่คิดว่าจะสะเทือนกับตำแหน่งรมว.ไอซีที หรือ ทำให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ทีโอทีเดือนร้อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงออกจากความไม่พอใจเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งนายกฯบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สามารถรับได้
‘เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงความออกส่วนบุคคลของกลุ่มคนที่ไม่พอใจรัฐบาล ซึ่งเราไม่สามารถห้ามได้และรัฐบาลต้องอดทนบริหารประเทศต่อไป การชุมนุมครั้งนี้เป็นพันธมิตร ไม่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานทีโอที และ กสท เพราะสหภาพทั้ง 2 แห่งเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือปลดบอร์ดยกชุดเท่านั้น’
นัด 29 ต.ค.ประชุมปิดเว็บหมิ่น
นายมั่นกล่าวถึงการติดตามเฝ้าระวังและดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อความ ภาพ คลิป และเสียงที่ไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องว่าได้ขออำนาจศาลให้มีการพิจารณาเพื่อระงับการเผยแพร่ซึ่งข้อมูลตาม URL (Uniform Resource Locator) ต่างๆ แล้วประมาณ 1,537 URL รวมทั้งมีการประสานกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP เพื่อดำเนินการปิดกั้น URL ที่เผยแพร่ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการเชิญผู้บริหารของ ISP ประมาณ 120 รายเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมด้วย
การดำเนินการดังกล่าวต้องประสบปัญหาสำคัญ คือ การที่เว็บไซต์เหล่านี้จดทะเบียนจากต่างประเทศ การดำเนินการต่างๆ จึงมีความยุ่งยากและละเอียดอ่อน และกระทรวงฯ ทำได้เพียงให้มีการระงับการเข้าถึงจากในประเทศไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตามกระทรวงไอซีทีจะได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสท ทีโอที และหน่วยงานอื่นๆ ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของ นายกฯ โดยจะมีการประชุมหารือในวันพุธที่ 29 ต.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อหาแนวทางการดำเนินการกับเว็บไซต์เหล่านั้นซึ่งอาจจะเป็นการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อควบคุมดูแลและสกัดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม หรือการพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ในการตรวจสอบการเผยแพร่ข้อความ ภาพ คลิป และเสียงที่ไม่เหมาะสม
พธม.ทีโอทีนัด27ต.ค.ไล่มั่น
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทีโอที ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง พันธมิตรฯ ทีโอที ชูมือตบไล่นายกรัฐมนตรี สมชาย วันนี้ วันที่ 22 ตุลาคม เวลา 10.10 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจงาน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยทันทีมาถึงกลุ่มพันธมิตรฯทีโอที ประมาณ 300 คนได้ชูมือตบพันธมิตรฯ เขย่าโห่ไล่เสียงดังพร้อมกันเป็นระยะว่า
"พนักงานทีโอทีไม่ต้อนรับ.สมชาย ฆาตกร..นายกฯ ฆ่าประชาชน..นายกฯ ใจร้าย" ทำให้ขบวนนายกรัฐมนตรี ต้องมาลงชั้นใต้ดินแทนแต่ยังมีกลุ่มพันธมิตรฯ ทีโอทีที่วิ่งตามมาใช้มือตบไล่ และส่งเสียงไล่ตามด้วย ขณะที่นายกฯ ได้ขึ้นไปประชุมกับรัฐมนตรีและผู้บริหารของกระทรวงนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ทีโอที จำนวนมาก ยังคงรออยู่ชั้นล่าง เพื่อไล่ส่ง
หลังการขับไล่ และไม่ต้อนรับนายกฯ สมชายแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ทีโอที ได้มีการพูดคุยกันถึงการดำเนินการขับไล่คณะรัฐมนตรี ใน รัฐบาลนายกฯ สมชาย ทุกคนที่ได้มีมติเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม สั่งการให้ตำรวจ เข่นฆ่าประชาชน
ดังนั้นดร.มั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีทีเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนายกฯ สมชายเช่นเดียวกัน และทำงานอยู่ในอาคาร 9 ทีโอทีแจ้งวัฒนะจึงจำเป็นที่พันธมิตรฯ ทีโอที จะต้องแสดงจุดยืน และดำเนินการเหมือนกับที่ได้ขับไล่ นายกฯ สมชาย มาแล้ว
ประกอบกับขณะนี้การเมืองกำลังแทรกแซง การบริหารงานภายใน ทีโอที โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ได้เสนอให้ปลดประธานบอร์ด ทีโอที และกรรมการอีก 4 ท่าน
ดังนั้น พันธ์มิตรฯทีโอที ทุกคนโปรดนำมือตบมาพร้อมกัน เช้าวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม เวลา 09.30 น พบกันที่ชั้นล่างอาคาร 9 เพื่อแสดงจุดยืน ไม่เอารัฐบาลของ นายกฯ สมชาย โดยการขับไล่ ดร. มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
‘แถลงการณ์ ดังกล่าว ได้ส่งแฟกซ์ ไปทั่ว ในแจ้งวัฒนะ รวมทั้งนครหลวง และภูมิภาค อาจจะกล่าวได้ว่า พันธมิตรฯทีโอทีไม่เกี่ยวข้องกับสหภาพแรงงานเป็นการมาร่วมกันโดยมิได้นัดหมายของพนักงานทีโอทีที่ไปร่วมการแสดงพลังที่ สะพานมัฆวานฯและทำเนียบรัฐบาลซึ่งจริง ๆ แล้วนายชูศักดิ์ วารีสระอดีตประธานสหภาพแรงงานและประธานมูลนิธิรู้รักสามัคคีพนักงานทศท. เป็นผู้ประสานงาน ใน กองทัพธรรม’
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการชุมนุมขับไล่นายกฯของพันธมิตรฯทีโอทีเป็นการเคลื่อนไหวโดยพนักงานทีโอทีเอง สหภาพฯไม่ได้ออกหน้าแต่อย่างใด เนื่องจากสหภาพฯทีโอทีชุดนี้โดยเฉพาะประธานและกรรมการบางคนเลือกที่จะยืนอยู่ข้างการเมืองโดยมีการยื่นหนังสือเพื่อให้ปลดบอร์ดทีโอทียกชุด เพื่อสนับสนุนรมว.ไอซีที นอกจากนี้ประธานและกรรมการสหภาพพฯคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมส่อไปในทางในชื่อสหภาพฯบังหน้าเพื่อทำการบางอย่าง โดยเฉพาะการทำหนังสือยื่นปปช.กรณีการไกล่เกลี่ยคดีความระหว่างทีโอทีกับบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย
ตอนเช้าพบผบ.เหล่าทัพ
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายกฯในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบที่ทำการเนียบรัฐบาลชั่วคราว ท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อสรุปสถานการณ์และข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนที่นายกฯ จะนำข้อมูลเป็นหารือกับสมเด็จฮุนเซน ในการประชุมอาเซ็ม ครั้งที่ 7 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งได้หารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ทรงกิตติ ได้ออกประตูทางออกชั้นสอง ของอาคารวีไอพีระหว่างประเทศ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด
จากนั้นนายกฯได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นนายกฯได้ยืนพูดคุยกับนายสุชน ชาลีเครือ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะขึ้นรถมายังกระทรวงไอซีทีที่อาคาร 9 ตึกทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ
เมื่อวานนี้( 22ต.ค.) เวลาประมาณ 10.00น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เข้าตรวจเยี่ยมกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยมีนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที และผู้บริหารสังกัดกระทรวงไอซีทีรอต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีพนักงานทีโอที ใส่เสื้อเหลืองพร้อมมือตบ จำนวน 200-300 คนมารวมตัวบริเวณห้องโถงอาคาร 9 ทีโอที แจ้งวัฒนะ ซึ่งกระทรวงไอซีทีใช้เป็นที่ทำการ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร ตั้งแต่ก่อน 10.00 น. จนกระทั่งนายสมชายเดินทางเข้ามาถึงกระทรวงไอซีที พนักงานทีโอทีต่างพร้อมใจเขย่ามือตบโห่ไล่ว่า ‘ฆาตกรมือเปื้อนเลือดออกไป’ ส่งผลให้นายสมชายเปลี่ยนทางเข้าจากด้านหน้าตึก ไปเข้ากระทรวงไอซีทีด้วยลิฟท์บริเวณที่จอดรถชั้นใต้ดินแทน โดยพนักงานทีโอทีได้พยายามรวมตัววิ่งตามไล่นายกรัฐมนตรีอย่างเหนียวแน่น
เมื่อนายสมชายสามารถขึ้นกระทรวงไอซีทีได้มีการล็อกลิฟท์ขึ้นชั้นไอซีที 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวง ทุกตัวเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานตามขึ้นไปได้ จากนั้นนายสมชายก็ได้เข้ารับฟังรายงานจากผู้บริหารสังกัดกระทรวงไอซีที
‘ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ ทุกคนไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องบางอย่างไม่สามารถป้องกันได้ ฉะนั้นก็ต้องอยู่ร่วมกันไปให้ได้’นายสมชายกล่าวกับผู้บริหารในห้องประชุม
ภายหลังกล่าวเสร็จก็ได้สั่งการให้เชิญนักข่าวออกจากห้องประชุม แล้วปิดห้องประชุมกันต่ออีกราว 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยภายหลังการประชุมเสร็จนายสมชายได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเข้าตรวจเยี่ยมครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมมอบนโยบาย โดยจะเข้าตรวจเยี่ยมมอบนโยบายอย่างทั่วถึงทุกกระทรวง
สำหรับสาเหตุที่เข้าตรวจเยี่ยมไอซีทีเป็นกระทรวงแรก เนื่องจากต้องการเร่งปิดเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง เนื่องจากเป็นเรื่องอ่อนไหว ส่งผลต่อจิตใจของประชาชนในประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต่างรอการดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องงบประมาณในการดำเนินการเรื่องนี้หากมีความจำเป็นก็จะพิจารณาเพิ่มเติมให้
ระทึกสื่อ-การ์ด ล้อมนายกฯฝ่าม็อบ
เวลาประมาณ 12.00 น.ซึ่งนายสมชายต้องเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี เห็นท่าไม่ค่อยดี เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงกระจายปิดล้อมทางออกอาคารทีโอทีทุกด้าน จึงตัดสินใจที่จะนำนายกรัฐมนตรีออกพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการขอความร่วมมือสื่อมวลชนทั้งช่างภาพและผู้สื่อข่าวประมาณ 30 คน ในการตั้งวงล้อมกำบังตัวนายกรัฐมนตรี ร่วมกับทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย
ทันทีที่นายกรัฐมนตรีก้าวออกจากลิฟท์มายังชั้น 1 ของอาคารทีโอที ทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบ ได้จับมือประสานเข้าประชิดล้อมตัวนายกรัฐมนตรี ขณะที่ผู้สื่อข่าวช่างภาพล้อมตัวทีมตำรวจรักษาความปลอดภัยและนายกรัฐมนตรีไว้อีกชั้นหนึ่ง และดันเดินหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงรถโตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนของนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที ที่ทีมรักษาความปลอดภัยนำมาจอดรอไว้ที่หน้าอาคารทีโอที โดยทิ้งรถโฟร์ค สีเขียวไว้ใต้อาคารทีโอที เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมไม่ให้เอาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนนับร้อย ได้กรูกันเข้าเพื่อที่จะประชิดตัวนายกรัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด พร้อมกับตบมือตบ และตะโกนด่าว่า ‘ฆาตกร ออกไป’ดังกึกก้อง ระหว่างนี้ได้เกิดการชุลมุลวุ่นวายโดยกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนได้พยายามเบียดตัวแทรกสื่อมวลชนและทีมรักษาความปลอดภัย เพื่อจะเอามือตบตีนายกฯ จนเกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจรักษาความปลอดภัย และผู้สื่อข่าวล้มลุกคุกคลาน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนที่เข้าไม่ถึงได้เขวี้ยงขวดน้ำ มือตบ และรองเท้า เฉี่ยวศีรษะนายกฯ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมด้านนอกพยายามดันเข้ามาเพิ่มเติม มีพนักงานรายหนึ่งตะโกนด่าตำรวจด้วยความเจ็บแค้นเนื่องจากถูกผลักอก พร้อมกับตำรวจทำท่าจะชักปืนยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงบริเวณประตูทางออก ซึ่งเป็นกระจกบานเลื่อนอัตโนมัติที่ล๊อคเปิดเอาไว้ไม่กว้างมากนัก ทำให้เกิดการเบียดเสียด และชนกับกระจกจนหลายร้องตะโกน เพราะเกรงว่ากระจกจะแตก และทันทีที่นายกฯออกผ่านประตูมาได้ ทีมรักษาความปลอดภัย รีบนำตัวนายกฯ ขึ้นรถที่จอดรอไว้ทันที ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ลดละ ขว้างมือตบ ขวดน้ำ ไล่หลังนายกฯพร้อมกับตะโกน ‘เป็นนายกฯไม่สมศักิ์ศรีเลย’หลังจากรถนายกฯเคลื่อนตัวออกไปแล้ว พนักงานได้หันไปมุ่งเป้าเล่นงานรมว.ไอซีที ที่เปลี่ยนรถรับเป็นยาริส สีขาวของหลาน เพื่อหลอกล่อ พนักงาน แต่ไม่สำเร็จเพราะพนักงานจำนวนหนึ่งได้กรูตะโกนด่า ขวางปาขวดน้ำมือตบใส่รถจนเคลื่อนออกจากหน้าตึก 9
หลังจากนั้นขบวนนายกฯ ได้เดินทางกลับเข้าบ้านพักเบเวอร์ลี่ฮิลส์ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีสื่อติดตามขบวนมาด้วยทันที่ถึงบ้านพัก ทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ ได้เข้ามาขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือช่วยเป็นกำบังเอานายกฯ ออกมาจากวงล้อมผู้ชุมนุม ถึงกับยกมือไหว้ผู้สื่อข่าว และช่าวภาพ
ด้านนายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การกระทำของพนักงานครั้งนี้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ไม่สามารถควบคุม หรือสั่งการได้
ผวามือตบนายกฯเปลี่ยนแผน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 14.00 น.นายสมชายเดินทางมาพบผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมที่กรมการขนส่งทางบกเขตจตุจักร ซึ่งจากเดิมกำหนดพบกันที่กระทรวงคมนาคม แต่ในช่วงเช้าเจอกลุ่มพันธมิตรฯมือตบทีโอทีที่กระทรวงไอซีทีทำให้ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เปลี่ยนสถานที่อย่างกะทันหัน เนื่องจากเกรงว่าจะโดนไล่ เพราะอยู่ใกล้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ขบวนของนายกฯเข้ามาบริเวณกรมขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูรั้วทางเข้าทันที ขณะที่ภายในและนอกบริเวณรั้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรจะมาชูมือตบขับไล่อย่างเช่นช่วงเช้า
เมื่อนายสมชายเข้าห้องประชุมได้กล่าวกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคมถึงเหตุการณ์กลุ่มพนักงานทีโอทีชูมือตบไล่ว่า ที่มาที่กรมการขนส่งทางบก ไม่ได้ซีเรียสอะไร เนื่องจากมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและรองนายกฯดูแลกำกับเรียบร้อยแล้ว ตนเป็นเพียงผู้สนับสนุนดูแลงานให้ราบรื่น ไม่อยากให้ดูว่าห่างไกลกัน เมื่อเช้าที่ตนไปที่กระทรวงไอซีทีก็ไม่ได้รู้สึกซีเรียสกับผู้ชุมนุมเหล่านั้น
“ผมมองว่าเรื่องทีเกิดขึ้นเป็นสีสัน หากผมมัวแต่ไปกังวลอาจจะทำให้เสียโอกาสทำประโยชน์ให้กับประชาชน ที่โดนไล่โดนโห่ก็ไม่ได้คิดว่าทำให้เสียหน้า เพราะคนที่เป็นนายกฯไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า เดี๋ยวก็เปลี่ยน ถึงผมลาออกก็ไม่ได้ทำให้ได้อะไร ผมไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้มีบารมีและไม่มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว วันนี้ผมมาเพราะตำแหน่งนายกฯและเป็นนายกฯที่ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากเป็นนายกฯที่โดนโห่ไล่”นายสมชายกล่าว
กระทั่งเวลา 15.10 น.นายกฯห้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พันธมิตรฯทีโอที ประมาณ 300 คน ใช้มือตบไล่ ขณะไปประชุมตรวจเยี่ยมกระทรวงไอซีทีด้วยท่าทีขึงขังกว่าเคย ว่า ไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิด แต่รู้สึกจะแรงไปหน่อย มีการขว้างขวดน้ำอะไรต่ออะไร เมื่อถามว่าได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่คนที่ตามหลังได้นิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ให้อภัยกัน เมื่อถามว่า เกิดปัญหาอย่างนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานต่อไปหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่เป็น ตนหยุดไม่ได้ เรื่องการทำงานหยุดไม่ได้ วันนี้เสร็จจากทีโอทีก็มากระทรวงคมนาคมเลย จากนั้นจะไปรับเสด็จที่วัดบวรฯ
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้ประเทศเกิดความสมานฉันท์มีบรรยากาศที่ดี นายสมชาย กล่าวว่า ช่วยกันคิดหน่อย คนละไม้คนละมือ ว่าจะทำอย่างไร เพราะงานต้องทำทุกวัน ถ้าตนไม่ทำงาน โครงการต่างๆ ก็ชะงัก การพัฒนาประเทศก็จะหยุด อันนี้ตนหยุดไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร ความคิดแตกต่างกันได้ แต่อย่าก่อความรุนแรง อย่าทำร้ายกัน อย่าทำให้เกิดการวิวาทบาดหมาง “สำหรับผมผมไม่ถือนะ ใครทำอะไรผมให้อภัยหมด”นายสมชายกล่าวด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเล็กน้อย เมื่อถามว่าพันธมิตรฯไปไล่ทุกที่ จะทำให้ท้อแท้ต่อการทำงานหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ท้อแท้
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม นายสมชาย กล่าวว่า เขากำลังทำงานอยู่ ตนไม่เกี่ยว ไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่เข้าไปแตะต้อง เมื่อถามว่ าจะเร่งให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ได้เรียนไปแล้วว่าพยายามจะให้เร็ว ซึ่งวันนั้นคาดหมายว่า 15 วัน แต่คณะกรรมการอาจจะมีต่อ มากหรือเร็วกว่าเล็กน้อย เราจะพยายามให้ท่านทำงานโดยสะดวก สบายใจ และไม่เข้าไปแตะต้องแทรกแซง เมื่อถามว่า ถ้าไม่มีข้อสรุปออกมาโดยเร็วอาจจะทำการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองยากขึ้นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ก็พยายามเรียนท่าน ทำให้เร็วขึ้น
มั่นรับกลัวเสียงโห่ไล่
นายมั่น รมว.ไอซีทีกล่าวภายหลังกลับกระทรวงไอซีทีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าทำให้รู้สึกเสียหน้ามาก และมีความรู้สึกกลัว เสียงโห่ไล่จึงขึ้นรถยารีส สีขาวของหลานชายออกไปจากกระทรวงก่อนแล้วค่อยวกกลับมาเมื่อเหตุกรณ์สงบ แต่ก็ไม่ถึงกับตระหนก แต่นับว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่คิดว่าจะสะเทือนกับตำแหน่งรมว.ไอซีที หรือ ทำให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ทีโอทีเดือนร้อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงออกจากความไม่พอใจเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งนายกฯบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สามารถรับได้
‘เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงความออกส่วนบุคคลของกลุ่มคนที่ไม่พอใจรัฐบาล ซึ่งเราไม่สามารถห้ามได้และรัฐบาลต้องอดทนบริหารประเทศต่อไป การชุมนุมครั้งนี้เป็นพันธมิตร ไม่เกี่ยวกับสหภาพแรงงานทีโอที และ กสท เพราะสหภาพทั้ง 2 แห่งเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือปลดบอร์ดยกชุดเท่านั้น’
นัด 29 ต.ค.ประชุมปิดเว็บหมิ่น
นายมั่นกล่าวถึงการติดตามเฝ้าระวังและดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อความ ภาพ คลิป และเสียงที่ไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องว่าได้ขออำนาจศาลให้มีการพิจารณาเพื่อระงับการเผยแพร่ซึ่งข้อมูลตาม URL (Uniform Resource Locator) ต่างๆ แล้วประมาณ 1,537 URL รวมทั้งมีการประสานกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP เพื่อดำเนินการปิดกั้น URL ที่เผยแพร่ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการเชิญผู้บริหารของ ISP ประมาณ 120 รายเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมด้วย
การดำเนินการดังกล่าวต้องประสบปัญหาสำคัญ คือ การที่เว็บไซต์เหล่านี้จดทะเบียนจากต่างประเทศ การดำเนินการต่างๆ จึงมีความยุ่งยากและละเอียดอ่อน และกระทรวงฯ ทำได้เพียงให้มีการระงับการเข้าถึงจากในประเทศไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตามกระทรวงไอซีทีจะได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสท ทีโอที และหน่วยงานอื่นๆ ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของ นายกฯ โดยจะมีการประชุมหารือในวันพุธที่ 29 ต.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อหาแนวทางการดำเนินการกับเว็บไซต์เหล่านั้นซึ่งอาจจะเป็นการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อควบคุมดูแลและสกัดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม หรือการพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ในการตรวจสอบการเผยแพร่ข้อความ ภาพ คลิป และเสียงที่ไม่เหมาะสม
พธม.ทีโอทีนัด27ต.ค.ไล่มั่น
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทีโอที ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง พันธมิตรฯ ทีโอที ชูมือตบไล่นายกรัฐมนตรี สมชาย วันนี้ วันที่ 22 ตุลาคม เวลา 10.10 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจงาน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยทันทีมาถึงกลุ่มพันธมิตรฯทีโอที ประมาณ 300 คนได้ชูมือตบพันธมิตรฯ เขย่าโห่ไล่เสียงดังพร้อมกันเป็นระยะว่า
"พนักงานทีโอทีไม่ต้อนรับ.สมชาย ฆาตกร..นายกฯ ฆ่าประชาชน..นายกฯ ใจร้าย" ทำให้ขบวนนายกรัฐมนตรี ต้องมาลงชั้นใต้ดินแทนแต่ยังมีกลุ่มพันธมิตรฯ ทีโอทีที่วิ่งตามมาใช้มือตบไล่ และส่งเสียงไล่ตามด้วย ขณะที่นายกฯ ได้ขึ้นไปประชุมกับรัฐมนตรีและผู้บริหารของกระทรวงนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ทีโอที จำนวนมาก ยังคงรออยู่ชั้นล่าง เพื่อไล่ส่ง
หลังการขับไล่ และไม่ต้อนรับนายกฯ สมชายแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ทีโอที ได้มีการพูดคุยกันถึงการดำเนินการขับไล่คณะรัฐมนตรี ใน รัฐบาลนายกฯ สมชาย ทุกคนที่ได้มีมติเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม สั่งการให้ตำรวจ เข่นฆ่าประชาชน
ดังนั้นดร.มั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีทีเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนายกฯ สมชายเช่นเดียวกัน และทำงานอยู่ในอาคาร 9 ทีโอทีแจ้งวัฒนะจึงจำเป็นที่พันธมิตรฯ ทีโอที จะต้องแสดงจุดยืน และดำเนินการเหมือนกับที่ได้ขับไล่ นายกฯ สมชาย มาแล้ว
ประกอบกับขณะนี้การเมืองกำลังแทรกแซง การบริหารงานภายใน ทีโอที โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ได้เสนอให้ปลดประธานบอร์ด ทีโอที และกรรมการอีก 4 ท่าน
ดังนั้น พันธ์มิตรฯทีโอที ทุกคนโปรดนำมือตบมาพร้อมกัน เช้าวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม เวลา 09.30 น พบกันที่ชั้นล่างอาคาร 9 เพื่อแสดงจุดยืน ไม่เอารัฐบาลของ นายกฯ สมชาย โดยการขับไล่ ดร. มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
‘แถลงการณ์ ดังกล่าว ได้ส่งแฟกซ์ ไปทั่ว ในแจ้งวัฒนะ รวมทั้งนครหลวง และภูมิภาค อาจจะกล่าวได้ว่า พันธมิตรฯทีโอทีไม่เกี่ยวข้องกับสหภาพแรงงานเป็นการมาร่วมกันโดยมิได้นัดหมายของพนักงานทีโอทีที่ไปร่วมการแสดงพลังที่ สะพานมัฆวานฯและทำเนียบรัฐบาลซึ่งจริง ๆ แล้วนายชูศักดิ์ วารีสระอดีตประธานสหภาพแรงงานและประธานมูลนิธิรู้รักสามัคคีพนักงานทศท. เป็นผู้ประสานงาน ใน กองทัพธรรม’
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการชุมนุมขับไล่นายกฯของพันธมิตรฯทีโอทีเป็นการเคลื่อนไหวโดยพนักงานทีโอทีเอง สหภาพฯไม่ได้ออกหน้าแต่อย่างใด เนื่องจากสหภาพฯทีโอทีชุดนี้โดยเฉพาะประธานและกรรมการบางคนเลือกที่จะยืนอยู่ข้างการเมืองโดยมีการยื่นหนังสือเพื่อให้ปลดบอร์ดทีโอทียกชุด เพื่อสนับสนุนรมว.ไอซีที นอกจากนี้ประธานและกรรมการสหภาพพฯคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมส่อไปในทางในชื่อสหภาพฯบังหน้าเพื่อทำการบางอย่าง โดยเฉพาะการทำหนังสือยื่นปปช.กรณีการไกล่เกลี่ยคดีความระหว่างทีโอทีกับบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย
ตอนเช้าพบผบ.เหล่าทัพ
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายกฯในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบที่ทำการเนียบรัฐบาลชั่วคราว ท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อสรุปสถานการณ์และข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนที่นายกฯ จะนำข้อมูลเป็นหารือกับสมเด็จฮุนเซน ในการประชุมอาเซ็ม ครั้งที่ 7 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งได้หารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ทรงกิตติ ได้ออกประตูทางออกชั้นสอง ของอาคารวีไอพีระหว่างประเทศ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด
จากนั้นนายกฯได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นนายกฯได้ยืนพูดคุยกับนายสุชน ชาลีเครือ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะขึ้นรถมายังกระทรวงไอซีทีที่อาคาร 9 ตึกทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ