ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (22 ต.ค.) กลุ่มส.ส.ภาคเหนือพรรคพลังประชาชน 8จังหวัด จำนวน 48 คน อาทิ นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ และนายวาสิต พยัคฆบุตร ส.ส.ลำปาง แถลงข่าวเรียกร้องให้ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศราคารับจำนำข้าวโพดโดยด่วนที่สุด
นายสถาพร กล่าวว่า ส.ส.ภาคเหนือได้ยื่นหนังสือให้รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ประกาศนโยบายรับจำนำข้าวโพด มาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้วเนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาข้าวโพดที่ตกต่ำ แต่ปรากฎว่าจนถึงขณะนี้ฝ่ายนโยบายไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา จึงขอยื่นคำขาดให้นายโอฬาร ประกาศรับจำนำข้าวโพดภายในวันนี้ หากยังไม่ดำเนินการ ก็ขอเรียกร้องให้นายโอฬาร ลาออกจากตำแหน่งไปได้แล้ว เพราะอยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเลย
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า นายโอฬาร ไม่กล้านำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.พิจารณาเมื่อวันอังคารที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เกษตรกรลุกฮือขึ้นอีกครั้ง หากยังไม่รับผิดชอบอีกพวกตนทั้งหมดจะเข้าชื่อขับไล่นายโอฬาร และหากภายในวันนี้ยังไม่มีการประกาศนโยบายใดๆ ออกมา และจะขอวอล์กเอาต์ จากที่ประชุม โดยจะไม่ร่วมโหวตใดๆ
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ กล่าวเสริมว่า ที่นายโอฬาร อ้างว่าให้รออีก10 วันนั้นไม่รู้ว่าเพราะต้องการช่วยนายทุน หรือเกษตรกรกันแน่ เพราะเวลา10 วันข้าวโพดทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือนายทุนแล้ว เนื่องจากเกษตรกรไม่มียุ้งเก็บข้าวโพดที่กำลังจะเน่า ที่ผ่านมานายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รมช.พาณิชย์ ประสานและพร้อมที่จะช่วยเหลือ ติดอยู่ที่นายโอฬารคนเดียวที่มีหน้าที่เสนอเข้าครม. หากรับผิดชอบต่อบ้านเมืองไม่ได้แก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็ควรลาออกไป ไม่ใช่มีความรู้สึกช้า หน้าหนาอย่างนี้
ด้านนายวาสิต พยัคฆบุตร ส.ส.ลำปาง พรรคพลังประชาชน กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ท้าทายภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอย่างมาก เพราะขนาดผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดออกมาแสดงความเห็นให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่นายกฯ ก็ยังเฉยๆไม่ทำอะไร ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยังสามารถมีกำลังในการปฏิวัติ ทั้งที่ความจริงควรจะย้ายคนแสดงความเห็นดังกล่าวออกจากตำแหน่งที่มีกำลังในการปฏิวัติแต่ก็ไม่ทำ จนทำให้สภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯ ถดถอย ทำให้ข้าราชการและรัฐมนตรีไม่เชื่อถือ สั่งการอะไรก็ไม่รับการสนองตอบอย่างนี้
ต่อมา เวลา13.30น. ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม และได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพลังประชาชน ตัวแทน ส.ส.ภาคเหนือ ลุกหารือถึงการแก้ปัญหาความเดือดร้อนราคาข้าวโพดตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรชุมนุมประท้วงมา 2 เดือนโดย ส.ส.ภาคเหนือ ได้ร่วมแถลงและยื่นมีข้อเสนอไปถึง นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วนในวันนี้ แต่ทราบว่า นายโอฬาร ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร( คชก.)ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวในเวลา14.00 น.วันนี้ ซึ่งพวกตนจะรอฟังผลประชุม ว่าออกมาอย่างไร เพื่อดำเนินการเคลื่อนไหวต่อไป
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ยังได้กล่าวถึงข้อเสนออีกว่า ขอให้นายโอฬาร รองนายกฯได้ประกาศกำหนดมาตรการแก้ปัญหาในวันนี้ ในการรับจำนำข้าวโพด ในราคาที่เหมาะสมคือ 8.50 บาท ต่อกก. ถ้ายังไม่ดำเนินการตามข้อเสนอ ขอให้พิจารณาตัวเองพ้นจากตำแหน่งนี้ ถ้ายังไม่แสดงความรับผิดชอบ พวกเราส.ส.ภาคเหนือ จะเข้าชื่อให้ นายกฯ ปลดพ้นจากตำแหน่ง ถ้านายกฯ ไม่ปลดออก พวกเราจะพิจารณากันเองว่าจะทำอย่างไร เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ จึงขอให้ประธานสภาฯแจ้งไปให้ประธาน คชก.ได้รับทราบ อย่าให้ถึงกับต้องขับไล่กันออก
นอกจากนี้ ในซีกพรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ลุกหารือว่า ขอให้นายกฯ นายโอฬาร และนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ แสดงแสดงความจริงใจในการแก้ไข ความรับผิดชอบกรณีปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ทั้งข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง
นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลควรมุ่งแก้ปัญหาประชาชน อย่ามุ่งแต่แก้รัฐธรรมนูญ ตอนนี้ราคายางในพื้นที่ภาคใต้ตกต่ำ เดือดร้อนมาเป็นเดือน ขอถามว่ามีมาตรการแก้ไขแล้วหรือไม่ เพราะถ้าประชาชนอยู่ไม่ได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้
**ส.ส.เหนือ วอล์กเอาต์
ต่อมา เวลา14.30น.นพ.ชลน่าน ได้ลุกหารืออีกครั้งว่า ตามที่นายโอฬาร รองนายกฯ แจ้งว่าจะประชุม คชก.บ่าย 2 โมง แต่ตนทราบจาก นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ แจ้งว่า ไม่มีการประชุม คชก. เป็นการแค่หารือ ไม่มีการนัดหมายเพื่อแก้ปัญหานี้ เชื่อเป็นการถ่วงเวลา ตนทนไม่ได้ จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ว่าจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนครั้งนี้อย่างไร
"ถ้าภายในเย็นนี้ ไม่มีการแก้ไข ขอร้องให้ ส.ส.เหนือเข้าชื่อขับไล่นายโอฬาร พ้นจากตำแหน่ง และวันนี้ ส.ส.ภาคเหนือ ขออนุญาตไม่ร่วมประชุมด้วย" จากนั้นได้ลุกออกไป พร้อมๆ กับ ส.ส.ภาคเหนือ เหลือเพียงน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ และน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ที่นั่งอยู่ในห้องประชุม
**จี้ตรวจสอบองค์ประชุม 7 ตุลา
ขณะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หารือว่า การประชุมรัฐสภา วันที่ 7 ต.ค. มีสมาชิกไม่ลงชื่อ แต่กลับลงคะแนน และมีสมาชิก 3 คน ไม่มา แต่ปรากฏว่า มีการลงคะแนน ฉะนั้นขอให้สภาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบการลงมติของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบาย ในสมัยประชุมนิติบัญญัติ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่อาจมีปัญหา เพราะการลงคะแนนครั้งแรก คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ฉะนั้น ต้องยุติการประชุม และรัฐบาลต้องเสนอเรื่องเข้ามาใหม่ แต่เมื่อมีการเดินหน้าแถลงนโยบาย ดังนั้น ตอนนี้รัฐบาลอาจมีปัญหาในการทำงานที่ต้องยึดหลักนิติรัฐ จึงขอเสนอรัฐบาลให้ชะลอการอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง อย่าเพิ่งส่งรายชื่อข้าราชการระดับสูงเข้าไปยังสำนักพระราชวัง เพราะอาจเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทได้
นายสามารถ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ต้องวินิจฉัยทางกฎหมาย โดยทราบว่า จะมี ส.ส.จะใช้สิทธิ์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้ใช้ช่องทางนั้นดำเนินการ และขอให้หารือปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน
**เจรจา"โอฬาร"ได้ผลพอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทน ส.ส.ภาคเหนือ ได้ออกจากห้องประชุม ต่อมาเวลา16.00 น. ส.ส.กลุ่มนี้ ได้เดินทางเข้าพบ นายโอฬาร ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมือง เพื่อหารือในเรื่องปัญหาราคาข้าวโพด เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้น นพ.ชลน่าน เปิดเผยว่าหลังจากหารือกัน นายโอฬาร ได้รับข้อเสนอที่จะรับประกันแทรกแซงราคาข้าวโพด ในราคาเบื้องต้น 8.20-8.50 บาท ต่อกก. โดยจะนำเข้าที่ประชุมครม.ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ เนื่องจาก คชก.ไม่มีเงินเข้าที่จะไปช่วยเหลือ หรือในการแทรกแซงได้ ดังนั้นจำเป็นจะต้องเสนอเข้า ครม. เรื่องเพื่อขออนุมัติใช้นำเงินจากงบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนต่อไป โดยส่วนตัวก็พอใจ และจะไม่ยื่นปลดนายโอฬาร
นายสถาพร กล่าวว่า ส.ส.ภาคเหนือได้ยื่นหนังสือให้รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ประกาศนโยบายรับจำนำข้าวโพด มาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้วเนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาข้าวโพดที่ตกต่ำ แต่ปรากฎว่าจนถึงขณะนี้ฝ่ายนโยบายไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา จึงขอยื่นคำขาดให้นายโอฬาร ประกาศรับจำนำข้าวโพดภายในวันนี้ หากยังไม่ดำเนินการ ก็ขอเรียกร้องให้นายโอฬาร ลาออกจากตำแหน่งไปได้แล้ว เพราะอยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเลย
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า นายโอฬาร ไม่กล้านำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.พิจารณาเมื่อวันอังคารที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เกษตรกรลุกฮือขึ้นอีกครั้ง หากยังไม่รับผิดชอบอีกพวกตนทั้งหมดจะเข้าชื่อขับไล่นายโอฬาร และหากภายในวันนี้ยังไม่มีการประกาศนโยบายใดๆ ออกมา และจะขอวอล์กเอาต์ จากที่ประชุม โดยจะไม่ร่วมโหวตใดๆ
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ กล่าวเสริมว่า ที่นายโอฬาร อ้างว่าให้รออีก10 วันนั้นไม่รู้ว่าเพราะต้องการช่วยนายทุน หรือเกษตรกรกันแน่ เพราะเวลา10 วันข้าวโพดทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือนายทุนแล้ว เนื่องจากเกษตรกรไม่มียุ้งเก็บข้าวโพดที่กำลังจะเน่า ที่ผ่านมานายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รมช.พาณิชย์ ประสานและพร้อมที่จะช่วยเหลือ ติดอยู่ที่นายโอฬารคนเดียวที่มีหน้าที่เสนอเข้าครม. หากรับผิดชอบต่อบ้านเมืองไม่ได้แก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็ควรลาออกไป ไม่ใช่มีความรู้สึกช้า หน้าหนาอย่างนี้
ด้านนายวาสิต พยัคฆบุตร ส.ส.ลำปาง พรรคพลังประชาชน กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ท้าทายภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอย่างมาก เพราะขนาดผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดออกมาแสดงความเห็นให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่นายกฯ ก็ยังเฉยๆไม่ทำอะไร ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยังสามารถมีกำลังในการปฏิวัติ ทั้งที่ความจริงควรจะย้ายคนแสดงความเห็นดังกล่าวออกจากตำแหน่งที่มีกำลังในการปฏิวัติแต่ก็ไม่ทำ จนทำให้สภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯ ถดถอย ทำให้ข้าราชการและรัฐมนตรีไม่เชื่อถือ สั่งการอะไรก็ไม่รับการสนองตอบอย่างนี้
ต่อมา เวลา13.30น. ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม และได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพลังประชาชน ตัวแทน ส.ส.ภาคเหนือ ลุกหารือถึงการแก้ปัญหาความเดือดร้อนราคาข้าวโพดตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรชุมนุมประท้วงมา 2 เดือนโดย ส.ส.ภาคเหนือ ได้ร่วมแถลงและยื่นมีข้อเสนอไปถึง นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วนในวันนี้ แต่ทราบว่า นายโอฬาร ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร( คชก.)ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวในเวลา14.00 น.วันนี้ ซึ่งพวกตนจะรอฟังผลประชุม ว่าออกมาอย่างไร เพื่อดำเนินการเคลื่อนไหวต่อไป
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ยังได้กล่าวถึงข้อเสนออีกว่า ขอให้นายโอฬาร รองนายกฯได้ประกาศกำหนดมาตรการแก้ปัญหาในวันนี้ ในการรับจำนำข้าวโพด ในราคาที่เหมาะสมคือ 8.50 บาท ต่อกก. ถ้ายังไม่ดำเนินการตามข้อเสนอ ขอให้พิจารณาตัวเองพ้นจากตำแหน่งนี้ ถ้ายังไม่แสดงความรับผิดชอบ พวกเราส.ส.ภาคเหนือ จะเข้าชื่อให้ นายกฯ ปลดพ้นจากตำแหน่ง ถ้านายกฯ ไม่ปลดออก พวกเราจะพิจารณากันเองว่าจะทำอย่างไร เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ จึงขอให้ประธานสภาฯแจ้งไปให้ประธาน คชก.ได้รับทราบ อย่าให้ถึงกับต้องขับไล่กันออก
นอกจากนี้ ในซีกพรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ลุกหารือว่า ขอให้นายกฯ นายโอฬาร และนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ แสดงแสดงความจริงใจในการแก้ไข ความรับผิดชอบกรณีปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ทั้งข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง
นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลควรมุ่งแก้ปัญหาประชาชน อย่ามุ่งแต่แก้รัฐธรรมนูญ ตอนนี้ราคายางในพื้นที่ภาคใต้ตกต่ำ เดือดร้อนมาเป็นเดือน ขอถามว่ามีมาตรการแก้ไขแล้วหรือไม่ เพราะถ้าประชาชนอยู่ไม่ได้ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้
**ส.ส.เหนือ วอล์กเอาต์
ต่อมา เวลา14.30น.นพ.ชลน่าน ได้ลุกหารืออีกครั้งว่า ตามที่นายโอฬาร รองนายกฯ แจ้งว่าจะประชุม คชก.บ่าย 2 โมง แต่ตนทราบจาก นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ แจ้งว่า ไม่มีการประชุม คชก. เป็นการแค่หารือ ไม่มีการนัดหมายเพื่อแก้ปัญหานี้ เชื่อเป็นการถ่วงเวลา ตนทนไม่ได้ จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ว่าจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนครั้งนี้อย่างไร
"ถ้าภายในเย็นนี้ ไม่มีการแก้ไข ขอร้องให้ ส.ส.เหนือเข้าชื่อขับไล่นายโอฬาร พ้นจากตำแหน่ง และวันนี้ ส.ส.ภาคเหนือ ขออนุญาตไม่ร่วมประชุมด้วย" จากนั้นได้ลุกออกไป พร้อมๆ กับ ส.ส.ภาคเหนือ เหลือเพียงน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ และน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ที่นั่งอยู่ในห้องประชุม
**จี้ตรวจสอบองค์ประชุม 7 ตุลา
ขณะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หารือว่า การประชุมรัฐสภา วันที่ 7 ต.ค. มีสมาชิกไม่ลงชื่อ แต่กลับลงคะแนน และมีสมาชิก 3 คน ไม่มา แต่ปรากฏว่า มีการลงคะแนน ฉะนั้นขอให้สภาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบการลงมติของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบาย ในสมัยประชุมนิติบัญญัติ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่อาจมีปัญหา เพราะการลงคะแนนครั้งแรก คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ฉะนั้น ต้องยุติการประชุม และรัฐบาลต้องเสนอเรื่องเข้ามาใหม่ แต่เมื่อมีการเดินหน้าแถลงนโยบาย ดังนั้น ตอนนี้รัฐบาลอาจมีปัญหาในการทำงานที่ต้องยึดหลักนิติรัฐ จึงขอเสนอรัฐบาลให้ชะลอการอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง อย่าเพิ่งส่งรายชื่อข้าราชการระดับสูงเข้าไปยังสำนักพระราชวัง เพราะอาจเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทได้
นายสามารถ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ต้องวินิจฉัยทางกฎหมาย โดยทราบว่า จะมี ส.ส.จะใช้สิทธิ์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้ใช้ช่องทางนั้นดำเนินการ และขอให้หารือปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน
**เจรจา"โอฬาร"ได้ผลพอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทน ส.ส.ภาคเหนือ ได้ออกจากห้องประชุม ต่อมาเวลา16.00 น. ส.ส.กลุ่มนี้ ได้เดินทางเข้าพบ นายโอฬาร ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมือง เพื่อหารือในเรื่องปัญหาราคาข้าวโพด เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้น นพ.ชลน่าน เปิดเผยว่าหลังจากหารือกัน นายโอฬาร ได้รับข้อเสนอที่จะรับประกันแทรกแซงราคาข้าวโพด ในราคาเบื้องต้น 8.20-8.50 บาท ต่อกก. โดยจะนำเข้าที่ประชุมครม.ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ เนื่องจาก คชก.ไม่มีเงินเข้าที่จะไปช่วยเหลือ หรือในการแทรกแซงได้ ดังนั้นจำเป็นจะต้องเสนอเข้า ครม. เรื่องเพื่อขออนุมัติใช้นำเงินจากงบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนต่อไป โดยส่วนตัวก็พอใจ และจะไม่ยื่นปลดนายโอฬาร
