xs
xsm
sm
md
lg

“กอร์ปศักดิ์” ลงพื้นที่สองแควแจงนโยบายประกันราคาพืชผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิษณุโลก – “กอร์ปศักดิ์” รองนายกรัฐมนตรี เดินสายพิษณุโลกแจงนโยบายรัฐบาลประกันราคาพืชผล ขณะที่ภาคเอกชนสบโอกาสเสนอของบสนับสนุนพัฒนาจังหวัดสารพัดโครงการ ก่อนถูกสวนกลับให้ไปค้นหาช่องทางพัฒนาอย่างถูกทางคำนึงธุรกิจหลักของพื้นที่

วันนี้ ( 22 ส.ค.52) นายกอร์ปศักดิ์ ประภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลกเพื่อชี้แจงโครงการประกันราคาพืชผลเกษตร 3 ชนิด ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลังตามนโยบายประกันราคาแก้ปัญหาราคาต่ำแทนการรับจำนำมูลค่าโครงการ 5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ระบุว่าเกษตรกรได้สิทธิเหมือนกันทุกคน ไม่มีโควตา จำนำ อาทิ ข้าวโพดประกันราคา 7.10 บาทต่อกิโลกรัม มันสำปะหลังที่ 1.70 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวมี 5 ชนิด อาทิ ข้าวปทุมธานี 1 ราคาตันละ 10,000 บาท ข้าวขาว 10,000 บาทต่อตัน โดยมีนายนคร มาฉิม และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลกต้อนรับและร่วมเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมท็อปแลนด์พล่าซ่า ที่หอการค้าจังหวัดพิษณุโลกจัดขึ้น โดยมีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนกว่า 10 คน เดินทางมาอยู่ที่หน้าโรงแรมเพื่อขับไล่และด่าทอโจมตีนายกอร์ปศักดิ์ เหมือนกับครั้งที่ นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลังเดินทางมาพูดคุยกับนักธุรกิจพิษณุโลกก่อนหน้านี้ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ภาคเอกชนนำเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณของจังหวัดพิษณุโลก 10 โครงการ คือ 1.จัดหาครุภัณฑ์ทางแพทย์ รพ.พุทธชินราช 180 ล้านบาท 2. ถนน 4 เลน 700 ล้านบาท(ม.นเรศวร-สี่แยกอินโดจีน) 3. เขื่อนตลิ่งน้ำน่าน 70 ล้านบาท 4.พัฒนาสี่แยกอินโดจีน (Logistic) 550 ล้านบาท 5.อาคารแห่งอินโดจีน 20 ล้านบาท 6.ผลักดันสนามบินเป็นนานาชาติ 7.เขื่อนริมตลิ่งส่งเสริมเรือนแพ 8.อาคารตติยะภูมิ ม.นเรศวร 1,900 ล้านบาท 9.อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาพ 120 ล้านบาท 10.อาคารโรงเรียนบางกระทุ่มพิทยาคม 16 ล้านบาท

นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก กล่าวถึงการผลักดันสนามบินพิษณุโลกเป็นสนามบินนานชาติว่า รายได้ของสนามบินของพิษณุโลกเรียกได้ว่าต่ำสุดของประเทศก็ว่าได้ เพียงแต่เหมาะสมในเชิงภูมิศาสตร์พร้อมกับยื่นข้อเสนอต่อกรรมาธิการคมนาคมไปแล้ว ส่วนงบ 1,900 ล้านบาทของอาคารตติยะภูมิ แพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เท่าที่พูดคุยกับ ศ.สุจินต์ จินายน อธิการบดี ม.นเรศวร พยายามดึงไปให้คณะอื่นจนเหลืองบร้อยละ 90 แต่คณบดีแพทย์ศาสตร์ต้องการไปก่อสร้างอาคารและครุภัณฑ์แพทย์ศาสตร์ทั้งหมด ทำให้เกิดขัดแย้งในระหว่างองค์กร ซึ่งตัวแทนของแพทย์ศาสตร์ ม.นเรศวรชี้แจงในที่ประชุมว่า หากไม่ได้รับ 1,900 ล้านบาททั้งหมด ตามแผนก่อสร้างอาคารตติยะภูมิ แพทย์ศาสตร์จะทำให้เป้าหมาย ดำเนินไปไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ และประชาชนจะเสียผลประโยชน์

ขณะที่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่เดินทางไปหลายจังหวัดมักมีปัญหาตกต่ำของสินค้าเกษตร แต่จังหวัดพิษณุโลกอยากได้ไปทุกอย่าง อาหารกลางวันมื้อนี้ ราคา 3 พันล้านบาท แต่เท่าที่ดูโครงการแล้ว ต้องถามกลับว่าธุรกิจหลักของพิษณุโลกคืออะไร ซึ่งประเทศสิงคโปร์ คือ การค้า ส่วนประเทศไทยก็คือส่งออก เพราะถ้าส่ง ไม่ออกก็เจ๊ง ส่วนอุตสาหกรรมที่พอไปได้ คือ ท่องเที่ยวและครัวโลก แต่ก็ไม่สามารถทำได้จริง

ส่วนงบพัฒนาสี่แยกอินโดจีน5 ร้อยล้านบาท ภาพและคำว่า Logistic ดูดีและไพเราะ ถามว่า ทำอะไรบ้าง จะเกิดได้จริงหรือไม่ เห็นเพียงแต่ป้ายบอกว่า ไปคุนหมิง ถามว่า ไปได้จริงหรือไม่ เพราะเส้นทางลากจากจีนลงใต้ยังมีปัญหาอยู่ ฉะนั้นสี่แยกอินโดจีนก็ยังไม่เกิด แต่ชื่อเกินความเป็นจริง ถามว่า ถ้าได้เงินมาแล้ว จะทำอะไร แล้วทำไมต้องพัฒนาสนามบินพิษณุโลกอีก ฉะนั้นพิษณุโลกต้องถามตัวเองก่อนว่า จะไปทางไหน สนามบินนานาชาติอย่าเพิ่ง หากจะจุดพลุความยิ่งใหญ่ในศูนย์กลางภาคเหนือตอนล่าง ก็จุดพลุให้ถูกทาง

“อยากให้พิษณุโลก ผลักดันเรื่อง ท่องเที่ยว โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างการท่องเที่ยว ผมเคยไป อ.ปาย แม่ฮ่องสอน คนที่นั่น กลับขอถนน 4 เลนคู่กับแม่น้ำปาย เรื่องนี้ก็ ไม่เหมาะสม ตามถิ่นชนบท แต่คนพิษณุโลกเป็นคนทันสมัย การพัฒนาเขื่อนริมตลิ่งส่งเสริมเรือนแพ ถ้าเรือนแพอยู่คู่กับตลิ่งคอนกรีต คงไม่สนับสนุน เพราะผมไม่ชอบคอนกรีต สิ่งที่ขอมา 16 ล้านบาทเพราะเสาอาคารโรงเรียนบางกระทุ่มพิทยาคมร้าวและทรุดโทรม น่าจะช่วยเหลือได้ “กอร์ปศักดิ์ กล่าวและว่า ปัญหางบประมาณ 1,900 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารตติยะภูมิ แพทย์ศาสตร์ ม.นเรศวร ตามโครงการไทยเข้มแข็งนั้น ยังสามารถดึงออกได้ หากองค์กรภายในยังทะเลาะกันอยู่ และถ้ายังมองต่างมุมเช่นนี้ ก็จะทำให้ไทยเดินไม่เข้มแข็ง แต่โครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวกลับไม่เคยทำ
กำลังโหลดความคิดเห็น