วานนี้ (22 ต.ค.)ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการปปส. พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอรรณพ ลิขิตจิตถะ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายอัษฎางค์ ศรีศุภรพันธ์ รองอธิบดีกรมสรรพากร ร่วมแถลงข่าวการตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ 13 จุด และภาคเหนือ 4 จุด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การสนธิกำลังเข้าตรวจค้นเป็นการขยายผลจากการจับกุมนายโช วัน ฮอย ชาวมาเลเซีย ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต โดย ป.ป.ส.สืบทราบว่า นายโช วัน ฮอย ยังมีเครือข่ายเป็นชาวสิงคโปร์ ชื่อนายหว่อง ฮอง ฮิน และนายฟู มู้ หยง ที่ยังดำเเนินการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และฟอกเงิน รวมทั้งการพนันฟุตบอล และมีการลักลอบโอนเงินข้ามประเทศมาตั้งแต่ปี 2547 โดยเชื่อมโยงกับนักค้ายาเสพติดในทวีปยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้ยังทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น เปิดร้านประดับยนต์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่อยู่ระหว่างหลบหนี
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลของการตรวจค้นสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้หลายรายการ มูลค่าประมาณ 83 ล้านบาท และได้อายัดอาคารชุดพร้อมโฉนด บ้าน คอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท บัญชีเงินฝากธนาคารมูลค่า 15 ล้านบาท ทองรูปพรรณและนาฬิกามูลค่า 10 ล้านบาท รถยนต์ 9 คันมูลค่า 10 ล้านบาท และยังมีตู้เซฟ 2 ตู้ รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอีกหลายรายการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่ อย่างการร่วมมือตรวจค้าเครือข่ายยาเสพติดถือเป็นการเริ่มต้นการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นไปจะเริ่มทำนโยบาย 90 วันอันตรายปราบปรามยาเสพติด ซึ่งในวันนี้นับว่าประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นปราบปราม
นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.กล่าวว่า เครือข่ายชาวสิงคโปร์ทั้ง 2 ราย ทาง ป.ป.ส.มีข้อมูลมานานแล้วว่าเกี่ยวพันกับการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ โดยจะใช้ประเทศไทยเป็นที่พักยาและประชุมหารือว่าจะส่งยาเสพติดไปที่ใดบ้าง โดยเครือข่ายดังกล่าวสามารถสั่งยาเสพติดได้จากแหล่งผลิตโดยใช้เครดิตการสั่งซื้อ ถ้าเทียบกับสมัยก่อนในช่วงของเหว่ย เซียะ กัง ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ใกล้เคียงกันแตกต่างกันที่เครือข่ายของเหว่ย เซียะ กัง จะสั่งตรงจากโรงงานผลิตยาเสพติดแต่เครือข่ายของชาวสิงคโปร์จะเป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางยังไม่มีความสามารถสั่งโดยตรงจากแหล่งผลิต
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า เครือข่ายดังกล่าวจะใช้เงินจากการค้ายาเสพติดบางส่วนซื้ออสังหาริมทรัพย์ และลงทุนทำธุรกิจบังหน้า นอกจากนี้ ชื่อเจ้าของทรัพย์ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อของภรรยาซึ่งเป็นผู้หญิงไทย โดยขณะนี้จะประสานไปยังตำรวจโลก หรืออินเตอร์โพล ให้ช่วยติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทย และจากการติดตามข้อมูลยังพบว่าทั้ง 2 คน มีความเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมาทั้ง 2 คนยังเดินทางมาประเทศไทย
สำหรับตลาดยาเสพติดของเครือข่ายดังกล่าวที่ผ่านมาจะเน้นที่ตลาดแถบยุโรป และอเมริกา แต่ในปัจจุบันแถบออสเตรเลียกำลังได้รับสนใจจากเครือข่ายดังกล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การสนธิกำลังเข้าตรวจค้นเป็นการขยายผลจากการจับกุมนายโช วัน ฮอย ชาวมาเลเซีย ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต โดย ป.ป.ส.สืบทราบว่า นายโช วัน ฮอย ยังมีเครือข่ายเป็นชาวสิงคโปร์ ชื่อนายหว่อง ฮอง ฮิน และนายฟู มู้ หยง ที่ยังดำเเนินการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และฟอกเงิน รวมทั้งการพนันฟุตบอล และมีการลักลอบโอนเงินข้ามประเทศมาตั้งแต่ปี 2547 โดยเชื่อมโยงกับนักค้ายาเสพติดในทวีปยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้ยังทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น เปิดร้านประดับยนต์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่อยู่ระหว่างหลบหนี
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลของการตรวจค้นสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้หลายรายการ มูลค่าประมาณ 83 ล้านบาท และได้อายัดอาคารชุดพร้อมโฉนด บ้าน คอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท บัญชีเงินฝากธนาคารมูลค่า 15 ล้านบาท ทองรูปพรรณและนาฬิกามูลค่า 10 ล้านบาท รถยนต์ 9 คันมูลค่า 10 ล้านบาท และยังมีตู้เซฟ 2 ตู้ รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินอีกหลายรายการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่ อย่างการร่วมมือตรวจค้าเครือข่ายยาเสพติดถือเป็นการเริ่มต้นการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นไปจะเริ่มทำนโยบาย 90 วันอันตรายปราบปรามยาเสพติด ซึ่งในวันนี้นับว่าประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นปราบปราม
นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส.กล่าวว่า เครือข่ายชาวสิงคโปร์ทั้ง 2 ราย ทาง ป.ป.ส.มีข้อมูลมานานแล้วว่าเกี่ยวพันกับการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ โดยจะใช้ประเทศไทยเป็นที่พักยาและประชุมหารือว่าจะส่งยาเสพติดไปที่ใดบ้าง โดยเครือข่ายดังกล่าวสามารถสั่งยาเสพติดได้จากแหล่งผลิตโดยใช้เครดิตการสั่งซื้อ ถ้าเทียบกับสมัยก่อนในช่วงของเหว่ย เซียะ กัง ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ใกล้เคียงกันแตกต่างกันที่เครือข่ายของเหว่ย เซียะ กัง จะสั่งตรงจากโรงงานผลิตยาเสพติดแต่เครือข่ายของชาวสิงคโปร์จะเป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางยังไม่มีความสามารถสั่งโดยตรงจากแหล่งผลิต
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า เครือข่ายดังกล่าวจะใช้เงินจากการค้ายาเสพติดบางส่วนซื้ออสังหาริมทรัพย์ และลงทุนทำธุรกิจบังหน้า นอกจากนี้ ชื่อเจ้าของทรัพย์ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อของภรรยาซึ่งเป็นผู้หญิงไทย โดยขณะนี้จะประสานไปยังตำรวจโลก หรืออินเตอร์โพล ให้ช่วยติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทย และจากการติดตามข้อมูลยังพบว่าทั้ง 2 คน มีความเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมาทั้ง 2 คนยังเดินทางมาประเทศไทย
สำหรับตลาดยาเสพติดของเครือข่ายดังกล่าวที่ผ่านมาจะเน้นที่ตลาดแถบยุโรป และอเมริกา แต่ในปัจจุบันแถบออสเตรเลียกำลังได้รับสนใจจากเครือข่ายดังกล่าว
