ผู้ช่วยเลขา ปชป.ตอกกลับแถลงการณ์แม้ว เข้าข่ายหมิ่นศาลอีกคดี จี้ถาม “ประชาชนของผม” และ “บุคคลชั้นสูง” หมายถึงใคร แขวะพวกขุนพลสอพลอแหลไปวันๆ เย้ยจัดงานระดมพลคนรัก “ทักษิณ” แค่เชิดชูนักโทษหนีคดี เป่าหู ปชช.
วันนี้ (26 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ก่อนที่จะมีคำตัดสินขอศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า รู้ว่าจะมีการตัดสินออกมาแบบไหน ว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนสงสัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ได้อย่างไรว่าจะมีคำพิพากษาออกมาที่ทำให้ตัวเองติดคุก หรือรู้เพราะว่าวันที่ทนายความของตัวเองนำเงิน 2 ล้านบาท ไปให้ศาล แต่ศาลไม่รับ และมีคดีขึ้นมา ด้วยเหตุนี้หรือไม่ ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ชะตากรรมของตัวเอง หลังจากนั้นก็ได้ออกแถลงการณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศอีก ทั้งนี้ มีข้อควรพิจารณาอยู่ 2 จุด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้คำไม่เหมาะสม และจำเป็นต้องขอคำชี้แจงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อความชัดเจน เพราะไม่อยากให้ลิ่วล้อ ขุนพลพลอยพยัคฆ์ หรือพวกขุนพลสอพลอ แบบ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ออกมาแก้ต่างแบบน้ำขุ่นๆ
นายเทพไท กล่าวว่า คำแรกในแถลงการณ์ที่เขียนว่า “ความยิ่งใหญ่ และความเป็นอยู่ที่ดีมาสู่ประเทศชาติ และประชาชนของผม” ซึ่งตรงนี้คิดว่า คำว่า “ประชาชนของผม” น่าจะใช้ได้กับเฉพาะพระมหากษัตริย์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรทึกทักว่านี่คือ ประชาชนของผม นี่คือประเทศของผม ส่วนที่ 2 ในแถลงการณ์ที่เขียนว่า “ล้วนแต่เป็นการกระทำที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งเป็นการสมคบกันของบรรดาชนชั้นสูงมีอภิสิทธิ์ทั้งหลาย” อยากถามว่า คำว่า “บุคคลชนชั้นสูง” ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คือใคร ตรงกับคำในรัฐธรรมนูญ ปี 50 มาตรา 8 หรือไม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องชี้แจงความชัดเจนต่อแถลงการณ์ของตัวเอง จากที่เมื่อวันที่25 ต.ค.ได้มีสมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมาอธิบายแบบข้างๆ คูๆ ว่า คำว่าบุคคลชนชั้นสูงคือ บุคคลธรรมดาสามัญชนที่ทำตัวเปรียบเสมือนเจ้า ซึ่งตนคิดว่าไม่ตรงกับความจริง หากดูจากเจตนารมณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะหมายถึงบุคคลในมาตรา 8 ใช่หรือไม่
นายเทพไท กล่าวต่อว่า จากคำแถลงการ์ณของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด เมื่ออ่านแล้วหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งตนคิดว่าหลังจากนี้ไปจะเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเหมาะสม โดยอาจมี 3 ช่องทางที่ทำได้ คือ 1.ให้ศาลเป็นผู้หยิบเรื่องนี้มาพิจารณารายละเอียดของคำแถลงการณ์ว่าหมิ่นศาลหรือไม่ 2.ให้ประชาชนทั่วไปเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และ 3.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะทำเรื่องนี้เสนอต่อฝ่ายกฎหมายพิจารณาคำแถลงการณ์ว่าเข้าข่ายหมิ่นหรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
“ผมคิดว่าความห่วงใยต่อแถลงการณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพวกผมได้พูดและเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่มีสมาชิกพรรคพลังประชาชนให้สัมภาษณ์เชิงกระแหนะกระแหน ว่า คุณอภิสิทธิ์ เป็นตำรวจโลกหรืออย่างไร ผมขอเรียนว่า เป็นความหวังดีของหัวหน้าพรรค ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีโทษเพิ่ม ข้อหาละเมิดอำนาจศาลเพิ่มอีก 6 เดือน ทั้งนี้ เป็นความปรารถนาดีจริงๆ ไม่ใช่ทำตัวเป็นตำรวจโลก” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท ยังกล่าวอีกว่า กระบวนการ นปช.การตั้ง ส.ส.ร.3 การแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณนำบ้านเมืองไปสู่ทางตัน ไม่มีทางออก ต้องเผชิญปัญหากับวิกฤตแน่นอน และคิดว่าเป็นความต้องการของคนเหล่านี้ เพื่อให้เกิดการปฏิวัติ เพื่อให้ส่งผลดีกับตัวเอง คือ จะสามารถช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องคดีความ ในการขอลี้ภัย และเป็นการหาทางออก หรือทางลงให้กับรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ยอมยุบสภา หรือลาออก เชื่อว่า หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้นน่าจะเป็นเกียรติกับรัฐบาลชุดนี้มากกว่า นอกจากนี้ ยังเป็นการหาคะแนนเสียง ตนเชื่อว่า การเคลื่อนไหวทั้งหมดมีนัยทางการเมืองทั้งสิ้น
นายเทพไท กล่าวถึงรายการความจริงวันนี้ ว่า ตนคิดว่า เป็นรายการที่จัดขึ้นโดยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเชื่อว่า วันที่ 1 พ.ย.จะมีประชาชนมาร่วมมาก ด้วยเหตุผลเพราะรายการนี้โหมโรง และประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีทุกคืน โดยเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมกัน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ผู้อำนวยการสร้าง สปอนเซอร์ หรือนายทุนตัวจริง ได้มีโอกาสโฟนอินมาจากลอนดอน และทุ่มทุนไม่อั้น เพื่อให้เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ตามที่ได้โฆษณาไว้ และตนเชื่อว่า รายการดังกล่าวคงจะไม่มีการถ่ายทอดสดในวันที่ 1 พ.ย.เพราะเป็นวันหยุดของรายการ แต่จะใช้ช่องทางอื่นมาถ่ายทอดแทนทางเอ็นบีที เหมือนวันที่ 11 ต.ค.ที่เมืองทองธานี ที่เอาช่วง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาพูดในเรื่องประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ตัวเองถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาเป็นวิทยากรในรายการ
“เชื่อว่า รายการนี้คงไม่ต่างกับวันที่ 11 ต.ค.คงจะเป็นการตัดตอนเอาช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมาจากเมืองนอก มาพูดมา มาโอดครวญขอความเห็นใจจากพี่น้องประชาชน ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาคนที่เป็นนักโทษที่หนีคดีไปต่างประเทศพูดถึงกระบวนการยุติธรรม มาเรียกร้องหาความเป็นธรรม” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตื่นตูมอย่างที่พรรคพลังประชาชนกล่าวหา แต่เราห่วงใยสถานการณ์อย่างนี้จะมีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศชาติเข้าสู่วิกฤตได้ และการที่ นายจตุพร บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์หน้าแห้ง แข้งเรียว ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นคำสุภาษิตของภาคใต้ ที่กล่าวถึงคุณลักษณะของบุคคลที่คบไม่ได้ ไม่จริงใจ เราไม่มีบุคคลลักษณะนี้อยู่ แต่อยากให้กลับไปดูคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีของตัวเองว่าเป็นบุคคลแบบนี้หรือไม่