“เทพไท” จวก “แม้ว” สุดเหิม! อ้าง “ปชช.ของผม” - ป้ายผิด “ชนชั้นสูง”

“เทพไท” อัด “แถลงการณ์แม้ว” สุดเหิม อ้าง “ประชาชนของผม” ก่อนป้ายสี “บุคคลชั้นสูง” เป็นนัยหมายถึงบุคคลใน รธน.มาตรา 8 ก่อนชี้ 3 ช่องทางเพิ่มโทษฐานหมิ่นศาล จับตารายการ “3 เกลอหัวกลม” ได้สปอนเซอร์ใหญ่โหมโรงจูง ปชช.ร่วมฟัง “นักโทษหนีคดี” โอดครวญ-โยนบาปกระบวนการยุติธรรม 1 พ.ย.นี้

วานนี้ (26 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ก่อนที่จะมีคำตัดสินของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุทำนองรู้คำตัดสินที่จะออกมาว่า กรณีดังกล่าว เป็นเรื่องที่ประชาชนสงสัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ได้อย่างไรว่าจะมีคำพิพากษาออกมาที่ทำให้ตัวเองติดคุก หรือรู้เพราะว่าวันที่ทนายความของตัวเองนำเงิน 2 ล้านบาทไปให้ศาล แต่ศาลไม่รับ จนเกิดเป็นคดีขึ้นมา ด้วยเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ชะตากรรมของตัวเอง

“หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศอีก โดยมีข้อควรพิจารณาอยู่ 2 จุด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณใช้คำไม่เหมาะสม และจำเป็นต้องขอคำชี้แจงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อความชัดเจน เพราะไม่อยากให้ลิ่วล้อ ขุนพลพลอยพยัคฆ์ หรือพวกขุนพลสอพลอ แบบนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ออกมาแก้ต่างแบบน้ำขุ่นๆ” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวอีกว่า คำแรกในแถลงการณ์ที่เขียนว่า “ความยิ่งใหญ่ และความเป็นอยู่ที่ดีมาสู่ประเทศชาติ และประชาชนของผม” ซึ่งคำว่า “ประชาชนของผม” น่าจะใช้ได้เฉพาะกับพระมหากษัตริย์ ฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ควรทึกทักว่านี่คือประชาชนของผม หรือนี่คือประเทศของผม ส่วนที่ 2 ในแถลงการณ์ที่เขียนว่า “ล้วนแต่เป็นการกระทำที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งเป็นการสมคบกันของบรรดาชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ทั้งหลาย” อยากถามว่า คำว่า “บุคคลชนชั้นสูง” ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุนั้น คือใคร แล้วตรงกับคำในรัฐธรรมนูญ ปี 50 มาตรา 8 หรือไม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องชี้แจงความชัดเจนต่อแถลงการณ์ของตัวเอง จากที่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ได้มีสมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมาอธิบายแบบข้างๆ คูๆ ว่า คำว่าบุคคลชนชั้นสูง คือ บุคคลธรรมดาสามัญชนที่ทำตัวเปรียบเสมือนจ้าว ซึ่งตนคิดว่าไม่ตรงกับความจริง หากดูจากเจตนารมณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว จะหมายถึงบุคคลในมาตรา 8 ใช่หรือไม่

“จากคำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด เมื่ออ่านแล้วหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งตนคิดว่า หลังจากนี้ไปจะเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเหมาะสม โดยอาจมี 3 ช่องทางที่ทำได้คือ 1.ให้ศาลเป็นผู้หยิบเรื่องนี้มาพิจารณารายละเอียดของคำแถลงการณ์ว่าหมิ่นศาลหรือไม่ 2.ให้ประชาชนทั่วไปเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และ3.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะทำเรื่องนี้เสนอต่อฝ่ายกฎหมายพิจารณาคำแถลงการณ์ว่าเข้าข่ายหมิ่น หรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าความห่วงใยต่อแถลงการณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพวกตน ได้พูด และเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่มีสมาชิกพรรคพลังประชาชนให้สัมภาษณ์เชิงกระแนะกระแหนว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นตำรวจโลกหรืออย่างไร ตนจึงขอเรียนว่า เป็นความหวังดีของหัวหน้าพรรค ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีโทษเพิ่มในข้อหาละเมิดอำนาจศาลอีก 6 เดือน ทั้งนี้เป็นความปรารถนาดีจริงๆ ไม่ใช่ทำตัวเป็นตำรวจโลก

นายเทพไท ยังกล่าวการแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกว่า แถลงการณ์ดังกล่าว จะนำบ้านเมืองไปสู่ทางตัน ไม่มีทางออก และจะต้องเผชิญปัญหาวิกฤติอย่างแน่นอน ที่สำคัญตนคิดว่า เป็นความตองการของคนเหล่านี้ เพื่อให้เกิดการปฏิวัติ ซึ่งส่งผลดีกับตัวเอง คือ จะสามารถช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องคดีความในการขอลี้ภัย และเป็นการหาทางออก หรือทางลงให้กับรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ยอมยุบสภา หรือลาออก จึงเชื่อว่าหากมีการปฏิวัติเกิดขึ้น น่าจะเป็นเกียรติกับรัฐบาลชุดนี้มากกว่า นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวง ยังเป็นการหาคะแนนเสียง ซึ่งตนเชื่อว่า การเคลื่อนไหวทั้งหมดมีนัยยะทางการเมืองทั้งสิ้น

ส่วนรายการความจริงวันนี้นั้น นายเทพไท กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นรายการที่จัดขึ้นโดยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเชื่อว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้จะมีประชาชนไปเข้าร่วมจำนวนมาก ด้วยเหตุผลเพราะรายการนี้โหมโรง และประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีทุกคืน โดยเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมกัน เนื่องจากการจัดงานครั้งนี้ผู้อำนวยการสร้าง สปอนเซอร์ หรือนายทุนตัวจริงได้มีโอกาสโฟนอินมาจากลอนดอน และทุ่มทุนไม่อั้น เพื่อให้เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ตามที่ได้โฆษณาไว้

“ผมเชื่อว่ารายการดังกล่าวคงจะไม่มีการถ่ายทอดสดในวันที่ 1 พ.ย. เพราะเป็นวันหยุดของรายการ แต่จะใช้ช่องทางอื่นแทน โดยการถ่ายทอดจากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เหมือนวันที่ 11 ต.ค.ที่เมืองทองธานี โดยเน้นช่วงนายจาตุรน ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พูดเรื่องประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่นายจาตุรนต์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่กลับให้มาเป็นวิทยากรในรายการ ฉะนั้น รายการนี้คงไม่ต่างกับวันที่ 11 ต.ค. คงจะเป็นการตัดตอนเอาช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินจากเมืองนอก มาพูดมา มาโอดครวญขอความเห็นใจจากพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเอาคนที่เป็นนักโทษหนีคดีไปต่างประเทศ มาพูดถึงกระบวนการยุติธรรม หรือมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม” นายเทพไท ระบุ

นายเทพไท กล่าวต่อว่า เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตื่นตูมอย่างที่พรรคพลังประชาชนกล่าวหา แต่เราห่วงใยสถานการณ์เช่นนี้ เพราะจะทำให้มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศชาติก็จะเข้าสู่วิกฤติ และการที่นายจตุพรระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ หน้าแห้ง แข้งเรียวนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นคำสุภาษิตของภาคใต้ที่กล่าวถึงคุณลักษณะของบุคคลที่คบไม่ได้ ไม่จริงใจ เราไม่มีบุคคลลักษณะนี้อยู่ แต่อยากให้กลับไปดูคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีของตัวเองว่า เป็นบุคคลแบบนี้หรือไม่