xs
xsm
sm
md
lg

อ้อยขั้นต้นฯวืดไม่ถึง900บ.หลังน้ำตาลโลกลงแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- ราคาอ้อยขั้นต้นปี’51/52 แนวโน้มเฉลี่ย 800 กว่าบาทต่อตันหลังตลาดโลกหล่นวูบจาก 17 เซนต่อปอนด์หดเหลือแค่ 11-12 เซนต่อปอนด์หลังเกิดวิกฤติการเงินโลกดับฝันดันถึง 900 บาทต่อตัน จับตาชาวไร่อ้อยยื่นต้นทุน 900 บาทส่อเค้าอาจขอกู้อีก

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กอน.กำลังติดตามราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีการปรับลดลงค่อนข้างมากจากช่วงต้นปีที่เฉลี่ยสูงถึง 15-16 เซนต่อปอนด์เหลือเฉลี่ย 11-12 เซนต่อปอนด์ในขณะนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจากวิกฤติการเงินสหรัฐ ซึ่งราคาที่ปรับลดลงจะมีผลต่อการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้น 2551/52 ที่จะต้องประกาศในเดือนพ.ย.นี้ลดลงตามไปด้วยโดยประเมินเบื้องต้นราคาอ้อยล่าสุดจะอยู่ที่ประมาณ 830 บาทต่อตัน

“ มีการคำนวณคร่าวๆ ไว้ราคาอ้อยขั้นต้นอาจจะสูงถึง 900 บาทต่อตันเพราะคิดที่ราคาตลาดโลก 16-17 เซนต่อปอนด์แต่ตอนนี้ยากแล้วเพราะแม้ว่าปริมาณน้ำตาลทรายที่ขายล่วงหน้าของบริษัทอ้อยและน้ำตาลทราย(อนท.)ที่ขายไปแล้ว 60% ทำราคาได้ค่อนข้างดีสูงเฉลี่ย 17.25 เซนต่อปอนด์แต่น้ำตาลที่เหลือ 40% ยังไม่ได้ขายเพราะราคาช่วงนี้ตกลงมากก็คงจะทำราคาได้ไม่สูงนักช่วงนี้ แต่ภาพรวมก็ถือว่าโชคดีที่น้ำตาลเรามีการทำสัญญาขายล่วงหน้าหากเทียบกับพืชเกษตรอื่นๆวันนี้น้ำตาลคงแย่แน่”แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้หากราคาอ้อยขั้นต้นออกมาจริงในระดับ 800 กว่าบาทต่อตันก็มีแนวโน้มว่าชาวไร่อ้อยอาจจะกดดันให้มีการปรับเพิ่มค่าอ้อยอีกครั้งหนึ่งได้เพราะล่าสุดชาวไร่อ้อยได้มีการนำเสนอตัวเลขของต้นทุนการปลูกอ้อยที่เพิ่มขึ้นจากทั้งราคาปุ๋ย ค่าแรง ในระดับ 900 บาทต่อตันแต่ท้ายสุดกอน.คงจะต้องมาดูความเหมาะสมอีกครั้งจากตัวเลขของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงของสอน.ที่จัดทำอยู่ประกอบด้วย โดยยอมรับว่าหากชาวไร่อ้อยต้องการราคาต้นทุน 900 บาทต่อตันและมีการเสนอผ่านการเมืองก็อาจจะมีผลให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.)ต้องกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.)อีกครั้งก็เป็นไปได้

แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนฯมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน 5 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อรวมกับรายได้เดิมจากกรณีการแยกราคาน้ำตาลทรายออกจากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ส่งผลให้กองทุนฯมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเกือบ 1,000 ล้านบาทในการส่งชำระหนี้คืนธ.ก.ส.ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 2.4 หมื่นล้านบาทซึ่งปีนี้จะต้องชำระหนี้ตามแผนประมาณ 4,000 ล้านบาทที่ผ่านมา 3 เดือนชำระไปแล้ว3,000 ล้านบาทดังนั้นปีนี้จะมีการชำระหนี้เกินเป้าหมายที่วางไว้

“ ยอมรับว่าการบริโภคชะลอตัวไปบ้างตามภาวะเศรษฐกิจแต่การบริโภครวมที่กำหนดปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ(โควตาก.)ไว้ 18 ล้านกระสอบคงไม่มีการเปลี่ยนอะไรเพียงแต่โรงงานอาจจะขายออกไปช้าหน่อยเท่านั้น ส่วนการเปิดหีบคาดว่าจะทยอยได้ในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้โดยบางพื้นที่อาจจะเปิดก่อนเช่น ภาคตะวันออกบางโรงงานเพราะมีปริมาณอ้อยมาก แต่บางพื้นที่ก็อาจจะช้าไปเล็กน้อยเพราะฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้การหาแรงงานค่อนข้างยากและรถตัดอ้อยลงพื้นที่ไม่ได้”แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น