ผู้จัดการรายวัน –เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล รุกตลาดเนื้อสัตว์ ทุ่ม 30 ล้านบาท เปิดตัวเนื้อหมูธรรมชาติ ภายใต้โครงการ เนเชอรัล มีท พร้อมสร้างซับแบรนด์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ Cooking for Fun คาดยอดขายกลุ่มเนื้อสัตว์เติบโตขึ้น 15%
นายนิค ไรท์ไมเออร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสินค้าต่างประเทศและเครื่องดื่มไวน์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ เนเชอรัล มีท สำหรับกลุ่มเนื้อสัตว์ ที่จะมีการจำหน่ายเนื้อหมูเลี้ยงแบบธรรมชาติ ที่บริษัทฯร่วมกับคู่ค้าพัฒนาขั้นตอนการเลี้ยงหมูที่ดีมีคุณภาพด้วยสภาพแวดล้อมและอาหารที่ใช้เลี้ยงไปจนถึงการวางจำหน่าย ใช้เวลากว่า 2 ปี เชื่อว่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดในการเปิดตัวโครงการเนเชอรัล มีท ของกลุ่มเนื้อหมูครั้งนี้ บริษัทฯได้วางงบประมาณไว้กว่า 30 ล้านบาท โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับทราบ ในปีแรกเนื้อหมูเลี้ยงแบบธรรมชาตินี้ จะมีวางจำหน่ายแทนเนื้อหมูแบบเดิม 100% ในเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ส่วนท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จะมีวางจำหน่ายเนื้อหมูเลี้ยงแบบธรรมชาตินี้ประมาณ 30% และในปีต่อไปจะเพิ่มเป็น 50% รวมแล้วจะมีการวางจำหน่ายเนื้อหมูธรรมชาติรวม 28 สาขา ทั่วประเทศ โดยราคาจะสูงกว่าปกติ 10-20% เมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างๆ
สาเหตุที่ไม่จำหน่ายเนื้อหมูธรรมชาติในท็อปส์ได้ 100% ส่วนหนึ่งมาจากผลผลิต ที่ในเบื้องต้นยังมีจำนวนจำกัด เฉลี่ยต่อวันสามารถนำเนื้อหมูธรรมชาติมาจำหน่ายได้เพียง 30 ตัวต่อวันเท่านั้น แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันอาหารในกลุ่มเนื้อสัตว์ประกอบด้วย เนื้อหมู 50% สัตว์ปีก 35% และเนื้อวัวกับเนื้อแกะอีกเล็กน้อยประมาณ 15% ซึ่งในกลุ่มเนื้อหมูนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะเนื้อหมูธรรมชาติจะมีสัดส่วนการขายที่ 30% ของกลุ่มเนื้อหมูทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 1,000 ตันต่อปี ขณะที่ทั้งปีเชื่อว่า ยอดขายในกลุ่มเนื้อสัตว์จะเติบโตขึ้นประมาณ 15%
โครงการเนเชอรัล มีท เป็นโครงการที่ต้องการพัฒนาแผนกเนื้อสัตว์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดย 2 ปีก่อน เริ่มจากหมู ตามมาด้วยไก่ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการเลี้ยงไปแล้ว 50% คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถเปิดตัวและวางจำหน่ายได้ ขณะที่กลุ่มเนื้อวัว, เนื้อลูกวัว และเนื้อแกะบางส่วนจะนำเนื้อที่มีการเลี้ยงแบบธรรมชาติ นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ทั้งนี้บริษัทฯได้เริ่มเจรจากับคู่ค้าในการพัฒนาการเลี้ยงวัวแบบธรรมชาติต่อไป ซึ่งคู่ค้าที่ร่วมโครงการนี้ บริษัทฯจะวางไว้ที่ 1รายต่อกลุ่มเนื้อสัตว์ จากทั้งหมดในกลุ่มเนื้อสัตว์ บริษัทฯมีคู่ค้าประมาณ 50 รายทั่วประเทศ
สำหรับโครงการ เนเชอรัล มีท ถือเป็นซับแบรนด์ใหม่ ที่อยู่ในกลุ่มแบรนด์ Cooking for Fun ด้วย ซึ่งบริษัทฯได้พัฒนาแบรนด์ดังกล่าวขึ้นมาในช่วงปลายปี 2550 หลังจากประสบความสำเร็จกับรายการทำอาหารที่ชื่อ Cooking for Fun ที่ออกอากาศทางทรู วิชั่นส์ โดยสินค้าที่ถูกพัฒนามาเป็นแบรนด์ Cooking for Fun นี้ ขณะนี้มีกว่า 200 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มที่สามารถนำมาประกอบอาหาร โดยล่าสุดมี เนเชอรัล มีท ร่วมเป็นซับแบรนด์เข้ามาอีก 1 แบรนด์
นายนิค ไรท์ไมเออร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสินค้าต่างประเทศและเครื่องดื่มไวน์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ เนเชอรัล มีท สำหรับกลุ่มเนื้อสัตว์ ที่จะมีการจำหน่ายเนื้อหมูเลี้ยงแบบธรรมชาติ ที่บริษัทฯร่วมกับคู่ค้าพัฒนาขั้นตอนการเลี้ยงหมูที่ดีมีคุณภาพด้วยสภาพแวดล้อมและอาหารที่ใช้เลี้ยงไปจนถึงการวางจำหน่าย ใช้เวลากว่า 2 ปี เชื่อว่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดในการเปิดตัวโครงการเนเชอรัล มีท ของกลุ่มเนื้อหมูครั้งนี้ บริษัทฯได้วางงบประมาณไว้กว่า 30 ล้านบาท โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับทราบ ในปีแรกเนื้อหมูเลี้ยงแบบธรรมชาตินี้ จะมีวางจำหน่ายแทนเนื้อหมูแบบเดิม 100% ในเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ส่วนท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จะมีวางจำหน่ายเนื้อหมูเลี้ยงแบบธรรมชาตินี้ประมาณ 30% และในปีต่อไปจะเพิ่มเป็น 50% รวมแล้วจะมีการวางจำหน่ายเนื้อหมูธรรมชาติรวม 28 สาขา ทั่วประเทศ โดยราคาจะสูงกว่าปกติ 10-20% เมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างๆ
สาเหตุที่ไม่จำหน่ายเนื้อหมูธรรมชาติในท็อปส์ได้ 100% ส่วนหนึ่งมาจากผลผลิต ที่ในเบื้องต้นยังมีจำนวนจำกัด เฉลี่ยต่อวันสามารถนำเนื้อหมูธรรมชาติมาจำหน่ายได้เพียง 30 ตัวต่อวันเท่านั้น แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันอาหารในกลุ่มเนื้อสัตว์ประกอบด้วย เนื้อหมู 50% สัตว์ปีก 35% และเนื้อวัวกับเนื้อแกะอีกเล็กน้อยประมาณ 15% ซึ่งในกลุ่มเนื้อหมูนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะเนื้อหมูธรรมชาติจะมีสัดส่วนการขายที่ 30% ของกลุ่มเนื้อหมูทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 1,000 ตันต่อปี ขณะที่ทั้งปีเชื่อว่า ยอดขายในกลุ่มเนื้อสัตว์จะเติบโตขึ้นประมาณ 15%
โครงการเนเชอรัล มีท เป็นโครงการที่ต้องการพัฒนาแผนกเนื้อสัตว์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดย 2 ปีก่อน เริ่มจากหมู ตามมาด้วยไก่ ที่กำลังอยู่ในกระบวนการเลี้ยงไปแล้ว 50% คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถเปิดตัวและวางจำหน่ายได้ ขณะที่กลุ่มเนื้อวัว, เนื้อลูกวัว และเนื้อแกะบางส่วนจะนำเนื้อที่มีการเลี้ยงแบบธรรมชาติ นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ทั้งนี้บริษัทฯได้เริ่มเจรจากับคู่ค้าในการพัฒนาการเลี้ยงวัวแบบธรรมชาติต่อไป ซึ่งคู่ค้าที่ร่วมโครงการนี้ บริษัทฯจะวางไว้ที่ 1รายต่อกลุ่มเนื้อสัตว์ จากทั้งหมดในกลุ่มเนื้อสัตว์ บริษัทฯมีคู่ค้าประมาณ 50 รายทั่วประเทศ
สำหรับโครงการ เนเชอรัล มีท ถือเป็นซับแบรนด์ใหม่ ที่อยู่ในกลุ่มแบรนด์ Cooking for Fun ด้วย ซึ่งบริษัทฯได้พัฒนาแบรนด์ดังกล่าวขึ้นมาในช่วงปลายปี 2550 หลังจากประสบความสำเร็จกับรายการทำอาหารที่ชื่อ Cooking for Fun ที่ออกอากาศทางทรู วิชั่นส์ โดยสินค้าที่ถูกพัฒนามาเป็นแบรนด์ Cooking for Fun นี้ ขณะนี้มีกว่า 200 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่มที่สามารถนำมาประกอบอาหาร โดยล่าสุดมี เนเชอรัล มีท ร่วมเป็นซับแบรนด์เข้ามาอีก 1 แบรนด์