นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ โหรคมช. แห่งวิหารหลวงปู่เกวาลันสำนักสุขิโต อ.เมืองจ.เชียงใหม่เปิดเผยว่า จากการตรวจดูกรรมเวรของชาติคนในชาติและกลุ่มบุคคลที่ขึ้นมาบริหารชาติบ้านเมืองขณะนี้ โดยรวมแล้วพบว่าขณะนี้บ้านเมือง อยู่ระหว่างต้องกรรม คือ คนในชาติจะไม่ยอมให้กัน คอยแต่จะประหัตถ์ประหารกันและกัน โดยยึดถือประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักมากกว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เลยก่อให้เกิดความเสียหายถือเป็นกรรมของคนในแผ่นดินและกรรมส่วนหนึ่ง ของแผ่นดินที่ได้รับสิ่งเหล่านี้จะแก้ไขโดยทุกคนต้องหันหน้าปรองดองซึ่งกันและกันยอมที่จะถอยคนละก้าวเพื่อสถานการณ์บ้านเมืองจะได้คลี่คลาย เพราะขณะนี้กรรมของบ้านเมืองเรายังไม่หมด ภัยต่างๆ ยังจ่อรออยู่ซึ่งจะตามคุกคามเข้ามาอีก
นายวารินทร์ กล่าวว่า จากการพิจารณากรรมของบ้านเมืองพบว่าเกิดจากบุคคล ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่สร้างความปั่นป่วนแต่ได้ทำให้กรรมเวรส่งมาถึงคนอีก 60 กว่าล้านคน โดยเฉพาะผู้บริหารประเทศควรคำนึงถึงจุดนี้ หากไม่ถอยคนละก้าว กรรมตรงนี้จะต้องปรากฏอีกครั้งภายในเดือนนี้ไม่เกินเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นเหตุร้ายแรง เสียยิ่งกว่าที่เคยมีมา
นอกจากนี้จะส่งผลถึงเหตุการณ์รอบข้างด้วยจะมีทั้งศึกนอกและศึกใน เกิดความวุ่นวายล้มเจ็บตามมา เนื่องจากเวลานี้บุญของรัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่นาน เป็นเช่นเดียวกันกับครั้งที่ตนทำนายกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นถือทิฐิ ไม่รู้จักผ่อนกรรม ทำให้กรรมที่มีหนักมากถึงที่สุดในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขณะนี้ก็เข้าข่ายเกณฑ์เดียวกันกับนายสมัครในตอนนั้น ทางที่ดีรัฐบาลควรที่จะถอยออกมาและจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นทางออกของบ้านเมืองเพราะเท่าที่ดูภายในเดือนนี้หากรัฐบาลยอมถอย เหตุที่จะหนักประดังเข้ามาจะไม่มี แต่ตราบใดถ้ายังทู่ซี้มีเกณฑ์เจอเหตุหนักแน่นอน
นายวารินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการปฏิวัตินั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ถือว่าวางตัวได้ถูกต้อง ด้วยความนิ่งของท่านจะไม่ทำให้แย่ยิ่งกว่านี้ ไม่ว่ากลุ่มใดก็ตามที่จะผลักดันให้ท่านทำสิ่งต่างๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง ให้ยืนตรงกลางดูแลอยู่ตรงนี้ดีแล้ว เท่าที่ดูทหารจะไม่มีการปฏิวัติ แต่สีเขียวจะยังอยู่ และคอยออกมาประคับประคองคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลชาติบ้านเมือง ตรงข้าม หากเป็นอีกอย่างคือทุกฝ่ายยอมถอยแล้วหันหน้าเข้าหากันภายในเดือนนี้บ้านเมืองก็จะสงบสุข
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวทหารเตรียมทำ ปฏิวัติรัฐบาลว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.บอกแล้วว่าผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ไม่มีการคิดเรื่องนี้ การปฏิวัติหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับ ผบ.ทบ. ซึ่งการปฏิวัติไม่ใช่การแก้ปัญหา
ส่วนกรณีที่ที่มีประชาชนออกมาขับไล่ทหารนั้น ต้องชี้แจงทำความเข้าใจว่า กองทัพบกมีบทบาทหน้าที่อะไร ส่วนการจะนำกำลังออกไปต้องมีกฎหมายรองรับ เราถือว่าหน้าที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมไประงับยับยั้งเหตุ ไม่ให้มีการปะทะระหว่างประชาชนที่มีความคิดแตกต่างกัน 2 กลุ่มนี่คือสิ่งที่กองทัพทำได้ขณะนี้ ซึ่งกองทัพอยู่ข้างประชาชนแน่นอน คิดวาคนที่เข้าใจกองทัพมีอยู่ไม่น้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มมือตบตะโกนขับไล่ ผบ.ทบ. ทหารรู้สึกเสียเกียรติหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เกียรติและศักดิ์ศรีไม่ได้อยู่ที่มือตบหรือเท้าตบ เป็นเรื่องของ เจตนารักษาบทบาทหน้าที่ของตัวเองในการทำให้ประเทศชาติ มีความสามัคคี ไม่เป็นจุดเริ่มต้นหรือชนวนให้เกิดความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ขวัญกำลังของทหารทุกคน เป็นปกติและต้องอดทน
ส่วนกรณีที่นายชัยชิดชอบ ประธานรัฐสภา ร้องขอทหารเข้าไปดูแลความ ปลอดภัยรอบรัฐสภานั้น พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ไม่มีหนังสือเข้ามา ปกติการขอกำลังทหารขั้นต้นต้องเป็นกำลังของตำรวจก่อน เมื่อตำรวจกำลังไม่เพียงพอจะร้องขอกำลังทหาร เราพร้อมช่วยในภารกิจนี้ ทั้งนี้ สถาบันชาติบ้านเมือง เป็นเรื่องความมั่นคง ต้องทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด จุดยืนกองทัพชัดเจนขึ้นอยู่กับว่า เขาจะเข้าใจหรือไม่ ต้องทำความเข้าใจกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพมีมาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ให้กลุ่ม นปช.ปะทะกับพันธมิตรฯหรือไม่พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ผบ.ทบ.ระบุว่าหน่วยรับผิดชอบ มีความพร้อมออกไปปฏิบัติภารกิจทันทีและมีข้อมูล การข่าวได้ประสานกับหน่วยเกี่ยวข้อง เราทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการปะทะกัน
พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่สถานการณ์การเมือง ภายในประเทศที่เริ่มทวีความรุนแรงว่า เป็นเรื่องของการเมือง 2 ฝ่าย ซึ่งวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงหรือเกินกว่าเหตุ ซึ่งเป็นเหตุทางการเมือง จึงควรแก้ปัญหาด้วยการเมือง เครื่องมือของรัฐหลายส่วนต้องไตร่ตรองการทำงานและการปฏิบัติให้ดี
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าทหารจะปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้งนั้น พล.ท.คณิต กล่าวว่า จุดยืนกองทัพขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นทหารของประชาชน ประเทศชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การทำงานทุกอย่างเราทำตามหน้าที่รับผิดชอบ หน้าที่อื่นใดยังไม่อยู่ในความคิด เมื่อถามว่า แสดงว่าทหารจะไม่ออกมาปฏิวัติ พล.ท.คณิต กล่าวว่า ตนเป็นผู้บังคับหน่วยระดับหนึ่งเท่านั้น คำถามนี้ตอบไม่ได้ เพราะต้องทำงานตามหน้าที่ความมั่นคงของประเทศ
ขณะนี้ยังมีปัญหากับกัมพูชาเรื่องเขาพระวิหาร ข้างในมีปัญหาข้างนอก เข้ามากระแทก ประวัติศาสตร์โบราณมาถึงปัจจุบันไทยไม่เคยเสียดินแดน ประเทศไทย ไม่เคยเป็นเมืองขึ้น หรืออาณานิคมของประเทศใดเลยในย่านนี้ คนไทยต้องตระหนักคำว่า ความเป็นไทยคือความอิสระ อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านร่วมกันสร้างให้ประเทศชาติเกิดความมั่นคงทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม แม้กระทั่งทหาร ไทยไม่ใช่ชาติ ไทยเป็นไทยมาหลายร้อยปี แม้เสียดินแดนบ้างหลายครั้ง เปรียบเสมือนเสียอวัยวะ เพื่อรักษาตัวไว้ แต่เราจะยอมเสียตัวไปเลยหรือไม่ คนไทยต้องตระหนักให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาที่คนไทยต้องรวมความสามัคคีเพื่อต่อสู้กับศึกภายนอก พล.ท.คณิต กล่าวว่า เราต้องรวมพลังกันนานแล้ว เรื่องความไม่เข้าใจกัน การเมือง เป็นเรื่องการเมือง ทั้งนี้ มือตบและเท้าตบมาเจอกัน แล้วจะให้ทหารทำอย่างไร เรื่องนี้ต้องแก้ด้วยการเมืองเท่านั้น ต้องเชิญแกนนำของมือตบและเท้าตบมาคุยกัน ตนก็ไม่สบายใจเหมือนกับทุกคน
ส่วนกรณีที่กัมพูชาประกาศให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่เขาพระวิหารในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 14 ตุลาคมนั้น พล.ท.คณิต กล่าวว่า คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาในระดับบน ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เสียเลือดเนื้อหรือเกิดสงคราม แต่หากมีการแปรผันไปตามสถานการณ์ กองทัพภาคที่ 1 พร้อมปฏิบัติการทุกอย่าง ทั้งนี้ คิดว่าการเจรจาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนความสัมพันธ์ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบยังมีความสัมพันธ์กันดี โดยเฉพาะกองกำลังบูรพาบริเวณ จ.สระแก้ว ยังไม่มีผลกระทบจากปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ส่วนปัญหาจะลุกลามมายังพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 หรือไม่เป็นเรื่อง แต่เรามีความพร้อมปฏิบัติตามแผนที่เตรียมการไว้
นายวารินทร์ กล่าวว่า จากการพิจารณากรรมของบ้านเมืองพบว่าเกิดจากบุคคล ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่สร้างความปั่นป่วนแต่ได้ทำให้กรรมเวรส่งมาถึงคนอีก 60 กว่าล้านคน โดยเฉพาะผู้บริหารประเทศควรคำนึงถึงจุดนี้ หากไม่ถอยคนละก้าว กรรมตรงนี้จะต้องปรากฏอีกครั้งภายในเดือนนี้ไม่เกินเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นเหตุร้ายแรง เสียยิ่งกว่าที่เคยมีมา
นอกจากนี้จะส่งผลถึงเหตุการณ์รอบข้างด้วยจะมีทั้งศึกนอกและศึกใน เกิดความวุ่นวายล้มเจ็บตามมา เนื่องจากเวลานี้บุญของรัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่นาน เป็นเช่นเดียวกันกับครั้งที่ตนทำนายกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นถือทิฐิ ไม่รู้จักผ่อนกรรม ทำให้กรรมที่มีหนักมากถึงที่สุดในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขณะนี้ก็เข้าข่ายเกณฑ์เดียวกันกับนายสมัครในตอนนั้น ทางที่ดีรัฐบาลควรที่จะถอยออกมาและจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นทางออกของบ้านเมืองเพราะเท่าที่ดูภายในเดือนนี้หากรัฐบาลยอมถอย เหตุที่จะหนักประดังเข้ามาจะไม่มี แต่ตราบใดถ้ายังทู่ซี้มีเกณฑ์เจอเหตุหนักแน่นอน
นายวารินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการปฏิวัตินั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ถือว่าวางตัวได้ถูกต้อง ด้วยความนิ่งของท่านจะไม่ทำให้แย่ยิ่งกว่านี้ ไม่ว่ากลุ่มใดก็ตามที่จะผลักดันให้ท่านทำสิ่งต่างๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง ให้ยืนตรงกลางดูแลอยู่ตรงนี้ดีแล้ว เท่าที่ดูทหารจะไม่มีการปฏิวัติ แต่สีเขียวจะยังอยู่ และคอยออกมาประคับประคองคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลชาติบ้านเมือง ตรงข้าม หากเป็นอีกอย่างคือทุกฝ่ายยอมถอยแล้วหันหน้าเข้าหากันภายในเดือนนี้บ้านเมืองก็จะสงบสุข
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวทหารเตรียมทำ ปฏิวัติรัฐบาลว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.บอกแล้วว่าผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ไม่มีการคิดเรื่องนี้ การปฏิวัติหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับ ผบ.ทบ. ซึ่งการปฏิวัติไม่ใช่การแก้ปัญหา
ส่วนกรณีที่ที่มีประชาชนออกมาขับไล่ทหารนั้น ต้องชี้แจงทำความเข้าใจว่า กองทัพบกมีบทบาทหน้าที่อะไร ส่วนการจะนำกำลังออกไปต้องมีกฎหมายรองรับ เราถือว่าหน้าที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมไประงับยับยั้งเหตุ ไม่ให้มีการปะทะระหว่างประชาชนที่มีความคิดแตกต่างกัน 2 กลุ่มนี่คือสิ่งที่กองทัพทำได้ขณะนี้ ซึ่งกองทัพอยู่ข้างประชาชนแน่นอน คิดวาคนที่เข้าใจกองทัพมีอยู่ไม่น้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มมือตบตะโกนขับไล่ ผบ.ทบ. ทหารรู้สึกเสียเกียรติหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เกียรติและศักดิ์ศรีไม่ได้อยู่ที่มือตบหรือเท้าตบ เป็นเรื่องของ เจตนารักษาบทบาทหน้าที่ของตัวเองในการทำให้ประเทศชาติ มีความสามัคคี ไม่เป็นจุดเริ่มต้นหรือชนวนให้เกิดความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ขวัญกำลังของทหารทุกคน เป็นปกติและต้องอดทน
ส่วนกรณีที่นายชัยชิดชอบ ประธานรัฐสภา ร้องขอทหารเข้าไปดูแลความ ปลอดภัยรอบรัฐสภานั้น พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ไม่มีหนังสือเข้ามา ปกติการขอกำลังทหารขั้นต้นต้องเป็นกำลังของตำรวจก่อน เมื่อตำรวจกำลังไม่เพียงพอจะร้องขอกำลังทหาร เราพร้อมช่วยในภารกิจนี้ ทั้งนี้ สถาบันชาติบ้านเมือง เป็นเรื่องความมั่นคง ต้องทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด จุดยืนกองทัพชัดเจนขึ้นอยู่กับว่า เขาจะเข้าใจหรือไม่ ต้องทำความเข้าใจกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพมีมาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ให้กลุ่ม นปช.ปะทะกับพันธมิตรฯหรือไม่พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ผบ.ทบ.ระบุว่าหน่วยรับผิดชอบ มีความพร้อมออกไปปฏิบัติภารกิจทันทีและมีข้อมูล การข่าวได้ประสานกับหน่วยเกี่ยวข้อง เราทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการปะทะกัน
พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่สถานการณ์การเมือง ภายในประเทศที่เริ่มทวีความรุนแรงว่า เป็นเรื่องของการเมือง 2 ฝ่าย ซึ่งวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงหรือเกินกว่าเหตุ ซึ่งเป็นเหตุทางการเมือง จึงควรแก้ปัญหาด้วยการเมือง เครื่องมือของรัฐหลายส่วนต้องไตร่ตรองการทำงานและการปฏิบัติให้ดี
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าทหารจะปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้งนั้น พล.ท.คณิต กล่าวว่า จุดยืนกองทัพขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นทหารของประชาชน ประเทศชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การทำงานทุกอย่างเราทำตามหน้าที่รับผิดชอบ หน้าที่อื่นใดยังไม่อยู่ในความคิด เมื่อถามว่า แสดงว่าทหารจะไม่ออกมาปฏิวัติ พล.ท.คณิต กล่าวว่า ตนเป็นผู้บังคับหน่วยระดับหนึ่งเท่านั้น คำถามนี้ตอบไม่ได้ เพราะต้องทำงานตามหน้าที่ความมั่นคงของประเทศ
ขณะนี้ยังมีปัญหากับกัมพูชาเรื่องเขาพระวิหาร ข้างในมีปัญหาข้างนอก เข้ามากระแทก ประวัติศาสตร์โบราณมาถึงปัจจุบันไทยไม่เคยเสียดินแดน ประเทศไทย ไม่เคยเป็นเมืองขึ้น หรืออาณานิคมของประเทศใดเลยในย่านนี้ คนไทยต้องตระหนักคำว่า ความเป็นไทยคือความอิสระ อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านร่วมกันสร้างให้ประเทศชาติเกิดความมั่นคงทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม แม้กระทั่งทหาร ไทยไม่ใช่ชาติ ไทยเป็นไทยมาหลายร้อยปี แม้เสียดินแดนบ้างหลายครั้ง เปรียบเสมือนเสียอวัยวะ เพื่อรักษาตัวไว้ แต่เราจะยอมเสียตัวไปเลยหรือไม่ คนไทยต้องตระหนักให้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาที่คนไทยต้องรวมความสามัคคีเพื่อต่อสู้กับศึกภายนอก พล.ท.คณิต กล่าวว่า เราต้องรวมพลังกันนานแล้ว เรื่องความไม่เข้าใจกัน การเมือง เป็นเรื่องการเมือง ทั้งนี้ มือตบและเท้าตบมาเจอกัน แล้วจะให้ทหารทำอย่างไร เรื่องนี้ต้องแก้ด้วยการเมืองเท่านั้น ต้องเชิญแกนนำของมือตบและเท้าตบมาคุยกัน ตนก็ไม่สบายใจเหมือนกับทุกคน
ส่วนกรณีที่กัมพูชาประกาศให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่เขาพระวิหารในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 14 ตุลาคมนั้น พล.ท.คณิต กล่าวว่า คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาในระดับบน ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เสียเลือดเนื้อหรือเกิดสงคราม แต่หากมีการแปรผันไปตามสถานการณ์ กองทัพภาคที่ 1 พร้อมปฏิบัติการทุกอย่าง ทั้งนี้ คิดว่าการเจรจาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนความสัมพันธ์ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบยังมีความสัมพันธ์กันดี โดยเฉพาะกองกำลังบูรพาบริเวณ จ.สระแก้ว ยังไม่มีผลกระทบจากปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ส่วนปัญหาจะลุกลามมายังพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 หรือไม่เป็นเรื่อง แต่เรามีความพร้อมปฏิบัติตามแผนที่เตรียมการไว้
