xs
xsm
sm
md
lg

ชะตากรรมที่ต้องเป็นไป!

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

เทศกาลเข้าพรรษาจะผ่านพ้นไปแล้ว วันมหาปวารณาออกพรรษาคือวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2551 ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นกาลอันควรที่จะได้แสดงเรื่องชะตากรรมที่ต้องเป็นไป เพื่อส่งท้ายเทศกาลพรรษานี้

สรรพสิ่งเป็นไปตามกฎแห่งพระไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยง ความตั้งอยู่ไม่ได้ และความไม่ใช่ตัวตน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสรรพสิ่งเกิดแล้ว ตั้งอยู่และดับไปเป็นที่สุด ไม่มีใครไหนจะหลีกลี้หนีกฎแห่งพระไตรลักษณ์นี้ไปได้

สังคม โลก และจักรวาลก็เป็นสิ่งที่มีเกิดขึ้น จึงย่อมตั้งอยู่แล้วสิ้นสุดลงเป็นที่สุดเหมือนกัน มีความไม่เที่ยง ตั้งอยู่ไม่ได้ และไม่ใช่ตัวตนของใครเหมือนกัน

ดังนั้นเหล่ามนุษย์ผู้ที่ยังเวียนว่ายฝังจมอยู่ในวัฏฏะและหมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาเอาภาระมาใส่ตัว ไม่รู้สึกเลยว่าเหมือนกับการเอาก้อนหินมาเทินไว้บนหัว จึงควรที่จะได้ตั้งสติพิจารณาความจริงนี้สักครั้งหนึ่ง ก็จะมีส่วนช่วยตนเองและผู้อื่น ตลอดจนโลกมนุษย์นี้ให้มีความดีงามมากขึ้นได้

คุณสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีหมาดๆ ก็มีอันเป็นไปแล้ว วันนี้แม้ข่าวคราวจะสับสนอยู่ว่าป่วยหนักจริงหรือไม่ การข้างภาคพื้นดินแม้สับสน แต่การเบื้องบนในอากาศนั้นชัดเจน เพราะชะตากรรมคุณสมัคร สุนทรเวช ต้องฆาตถึงสามฆาต

คือพ้นจากตำแหน่ง ต้องราชภัย และชีวิตก็ริบหรี่เต็มที ดังที่คัมภีร์จักรทีปนีจรซึ่งเสด็จในกรมเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรีได้ทรงรจนาจากภาษาบาลีของพระอุตตมะรามเถร ซึ่งเป็นเกณฑ์ชะตาในขณะนี้ของคุณสมัคร สุนทรเวช ว่า

“เสาร์จรสถิตเสาร์ปะทะทันและกันเอง
โทษทุกแต่ปางเพลงก็จะก่อจะเกิดมี
สิ่งสินระส่ายทรัพย์ภยทับระทมทวี
เกรงอายุชนม์ชี-วพินาศประลัยตู”


คุณสมัคร สุนทรเวช จะเป็นประการใดก็สุดแท้ แต่ในวาระเช่นนี้ ในฐานะที่เป็นชาวพุทธก็ต้องให้กำลังใจกัน ขอให้คุณสมัคร สุนทรเวช โชคดี ได้มีโอกาสรำลึกและกราบถวายบังคมสมเด็จพระปิยมหาราช พระผู้ทรงเลิกทาสให้เป็นไทในวันที่ 23 ตุลาคม ศกนี้ด้วยเถิด

บัญชีเลือดจากเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ ทำให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตายไปแล้ว และกลายเป็นรัฐบาลทรราช ฆาตกรมือเปื้อนเลือดอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

ก็เป็นชะตากรรมของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ศิษย์สำนักวัดระฆังเหมือนกัน ดังที่เคยเตือนไว้ในฐานะกัลยาณมิตรมาก่อนหน้านี้แล้วว่า การได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นทุกขลาภ เหมือนกับเอาก้อนหินมาทับไว้บนหัว มีอนาคตที่จะต้องทรุดจมธรณีในที่สุด

วันนี้มันก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นทุกที เพราะไม่เพียงแต่บรรดาคดีความที่คุกคามเข้ามาใกล้ตัวทุกขณะจิต ไม่รู้ว่าจะกระเด็นจากเก้าอี้แห่งอำนาจในวันไหนแล้ว ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้รับคำสั่งมาบงการสังหารและทำร้ายประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนี้

คนคนหนึ่ง ครอบครัวหนึ่ง เมื่อถูกมหาประชาชนร่วม 20 ล้านคนกล่าวหาด้วยความคั่งแค้นชิงชังอย่างนี้ ไหนเลยจะมีวันเป็นปกติสุขได้ ย่อมกินไม่อิ่ม ย่อมนอนไม่หลับ ตื่นก็ผวา หลับตาก็ไม่เป็นสุข และไม่รู้ว่าภัยต่างๆ ที่เกิดจากความเคียดแค้นชิงชังของมหาชนนั้นจะมาถึงตัวในรูปแบบไหนและเมื่อใด

การส่งลูกออกไปอยู่ต่างประเทศเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ง่ายๆ แต่ที่เห็นได้ยากก็คือความหวั่นไหวในน้ำใจลึก ไม่ว่าในใจตนเองหรือผู้เป็นศรีภริยาก็ตามที อย่างนี้แล้วความสุขตนจะมีที่ตรงไหน? ความสุขของครอบครัวจะมีที่ตรงไหน?

ไม่ต้องพูดถึงความร่มเย็นเป็นสุขในบ้านเมืองอีกแล้ว เพราะกำลังบ่ายหน้าสู่ความเป็นสนามรบของสงครามกลางเมืองใกล้เข้ามาทุกที รอความหวังที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาช่วยคุ้มครองป้องกันหรือหยุดยั้งไว้ให้ทันท่วงทีเท่านั้น

แต่อย่างว่านั่นแหละ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะกำหนดได้ง่ายๆ มหาปราชญ์อย่างซุยเป๋งผู้เป็นเพื่อนสนิทของขงเบ้งจึงได้กล่าวไว้ว่า “ฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย กบทูจะหัก จะเอาแค่สองแขนสองมือไปค้ำยัน จะไหวหรือ”

มันจึงเป็นชะตากรรมที่ต้องเป็นไป! ประเทศไทยจะไม่ใช่ประเทศไทยที่เราเคยอยู่เคยอาศัยอีกต่อไป ดังที่ท่านอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้กล่าวไว้นั่นเอง

พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ก็ตายไปจากความเชื่อถือและยอมรับของมหาชนไปแล้ว กลายเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดหรือคณะทรราชไปแล้ว นี่ก็เป็นชะตากรรมที่เป็นไปเหมือนกัน

บัญชีเลือด 7 ตุลาทมิฬ นอกจากจะลงให้กับรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และตำรวจก๊วนหนึ่งแล้ว แน่นอนวันนี้ข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ เริ่มชี้ไปที่คุณทักษิณ ชินวัตร อีกคนหนึ่ง ว่าเกี่ยวข้องและมีส่วนต้องรับผิดชอบกับบัญชีเลือดนี้ด้วย

มันจะจริงหรือไม่จริง เพราะคุณทักษิณ ชินวัตร อยู่ไกลถึงอังกฤษ จะเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่เมื่อความเชื่อของผู้คนจำนวนมากเชื่อเช่นนั้น บัญชีนี้ก็ต้องเผื่อแผ่ไปถึงคุณทักษิณ ชินวัตร ด้วย นี่ก็เป็นเวรกรรมและชะตากรรมอีกอย่างหนึ่ง

ถึงแม้คุณทักษิณ ชินวัตร อาจจะชนะในวันหนึ่งข้างหน้า ชัยชนะนั้นก็จะเกิดขึ้นในสภาพสงครามกลางเมือง และการสู้รบที่จะต้องต่อเนื่องต่อไปอีกหลายปี ต้องเผชิญกับความเสี่ยงเสียยิ่งกว่าความเสี่ยงในขณะนี้มากมายหลายเท่า

วันนี้อาจจะมองไม่เห็น แต่ถ้าสถานการณ์เป็นไปในทางนั้น สักวันหนึ่งก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน และคนที่จะได้อำนาจวาสนา ตลอดจนประโยชน์ทั้งหลายอาจไม่ใช่คุณทักษิณ ชินวัตร หรือคนในตระกูลชินวัตรก็เป็นได้

คุณทักษิณ ชินวัตร มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีฤทธิ์เดชมาก แต่ไม่รู้จักธรรม ไม่เข้าใจชีวิต และไม่รู้จักพอ ที่สำคัญคือไม่รู้จักถอย เพราะถ้าหากรู้จักพอและถอยเป็น คุณทักษิณ ชินวัตร ก็อาจไม่พ่ายแพ้

คนเรามักอยากพูดถึงเรื่องชัยชนะ ทั้งๆ ที่ความจริงไม่เคยมีชัยชนะที่แท้จริงเลย มีแต่ความพ่ายแพ้หรือไม่พ่ายแพ้เท่านั้น

ชะตากรรมของคุณทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นชะตากรรมของคนตีงูให้กากิน โดยที่ต้องรับและเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่มีแต่ความพ่ายแพ้ทั้งนั้น เหลือแต่จะแพ้มากแพ้น้อย และถ้าถอยเป็น พอเป็น ก็อาจจะบรรลุถึงความไม่พ่ายแพ้ก็ได้

ผู้นำกองทัพก็มีชะตากรรมของตนเองเช่นเดียวกัน ชะตากรรมนั้นย่อมเป็นผลมาจากภาระหน้าที่ที่ต้องปกป้องรักษาชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน แต่กลับทอดทิ้งธุระเสีย โดยอ้างว่าต้องวางตัวเป็นกลาง

เป็นเรื่องเหลวไหลเลอะเทอะ เพราะคนเรามีหน้าที่อย่างไรต้องทำหน้าที่อย่างนั้น การไม่ทำหน้าที่คือการไม่ปฏิบัติธรรม ทรยศต่อธรรม โดยเฉพาะสำหรับทหารแล้วเป็นการตระบัดสัตย์ต่อคำสัตย์ปฏิญาณที่มีหายนะและอัปมงคลอยู่เบื้องหน้า อย่าได้สงสัยเลย

ได้เห็นการโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ของบางสื่อว่า กองทัพราชสีห์ที่มีหมาเป็นหัวหน้าก็คือกองทัพหมา แล้วรู้สึกสะเทือนใจและสังเวชใจ แม้ว่าจะเป็นการยกภาษิตในโลกนิติมาผิดๆ ก็ตาม แต่อาจจะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของท่านผู้นั้นอย่างตรงไปตรงมา

ความจริงภาษิตในโลกนิติเกี่ยวกับเรื่องนี้มีนัยว่า กองทัพราชสีห์ที่มีหมูเป็นหัวหน้า ไม่สามารถต่อสู้เอาชนะกองทัพหมูที่มีราชสีห์เป็นหัวหน้าได้

อย่าคิดว่าการพูดเรื่องความเป็นกลางเป็นสิ่งโก้เก๋ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของคนขี้ขลาดตาขาวและเหลวไหลไร้สาระ ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีก็แต่ทางสายกลาง ซึ่งเป็นทางไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้าเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของโลกียชนอย่างเราท่าน

ดังนั้นก่อนจะคิดก่อนจะพูดเรื่องความเป็นกลาง ก็ควรจะตระหนักรู้ในความหมายอันแท้ให้จงดี มิฉะนั้นยิ่งพูดเรื่องนี้มากเข้าเท่าใด ก็เหมือนกับการเอากางเกงในสตรีหรือกระโปรงของสตรีมาคลุมหัวมากเข้าเท่านั้น ย่อมกระทบต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของกองทัพ

อาจทำให้สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ได้

และวันหนึ่งบรรดาเหล่าราชสีห์ที่เป็นกำลังพลระดับต่างๆ อาจจะไม่ยินยอมให้หมูมาเป็นผู้นำกองทัพก็ได้ ใครจะไปรู้!


คนไทยกำลังสาละวนและเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ชาติบ้านเมืองจะเกิดสงครามกลางเมือง จนลืมชำเลืองดูชายแดนที่เขมรคุกคามยึดครองแผ่นดินไทยไม่เว้นแต่ละวัน

ล่าสุดบุกเข้ามายึดดินแดนไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธมและบริเวณปราสาทตาเมือนควาย แล้วยังจับทหารไทยไปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งวิทยุเสียงอเมริกาได้รายงานข่าวว่าเขมรได้ปล่อยตัวทหารไทยกลับมาแล้ว 20 คน โดยพลทหารเขมรยังคุยโวโอ้อวดว่าถ้าเขาเอาจริงก็สามารถกวาดทหารไทยให้ราบเรียบได้

มิหนำซ้ำ ผู้นำเขมรยังแถลงข่าวต่อชาวโลกให้คนไทยได้อัปยศอีกว่าผู้บังคับบัญชาทหารของไทยได้ขอโทษและยอมรับผิดต่อเขมรแล้ว

โอ้! พ่อเจ้าพระคุณเอ๋ย ทำไมคนไทยในยุคนี้จึงต้องทนรับความอัปยศอดสูถึงปานนี้ ขอดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้โปรดกระตุ้นเตือนสำนึกของเหล่าราชสีห์ให้ลุกขึ้นพิทักษ์รักษาศักดิ์ศรีของชาติและกองทัพไทยซึ่งเป็นลูกหลานของพระองค์ท่านด้วยเถิด

จะออกพรรษาแล้ว ย่างเข้าปลายฝนต้นหนาวแล้ว สายฝนกำลังจะสั่งฟ้าเป็นครั้งสุดท้าย ลมหนาวจะแผ่วโผยโชยกรายเข้ามา แต่ปีนี้จะหนาวเหน็บจนสะท้านสะเทือนไหวเป็นแน่แท้

ขอคนทั้งหลายจงปราศจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัยเทอญ.
กำลังโหลดความคิดเห็น