มิเดีย สร้างฐานแกร่งในไทย เล็งผุดฐานผลิตเพิ่ม ยันไม่ปรับแผนลงทุนแม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมขยายไลน์สินค้าเพิ่มขึ้น เจาะเข้าห้างเซ็นทรัล- เดอะมอลล์สำเร็จ ปีหน้าเล็งทดลองช่องทางอินเทอร์เน็ต
นายเชาว์ บิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มิเดีย กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนแบรนด์ มิเดีย เปิดเผยว่า จากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยของไทยในขณะนี้ บริษัทฯยังไม่มีการปรับแผนการลงทุนและแผนการตลาดในไทยแต่อย่างใด ในปีหน้าบริษัทฯ จะขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กในไทยเพิ่มขึ้นด้วยการนำเข้ากลุ่ม พัดลมปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เตาแก๊ส เครื่องดูดควัน ซึ่งจะเริ่มทยอยทำตลาดตั้งแต่ไตรมาสนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำตลาดผลิตภัณฑ์หม้อหุงข้าว เครื่องปั่น ไมโครเวฟ และพัดมไปแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดี เพื่อให้สินค้าในกลุ่มขนาดเล็กครบไลน์มากขึ้นและเป็นการเสริมศักยภาพในการทำตลาดด้วย ส่วนสินค้ากลุ่มเอวีและเฮชเอขนาดใหญ่เป็นการทำตลาดโดยอีกบริษัทแยกจากกัน
ขณะเดียวกันยังมองหาลู่ทางการลงทุนผลิตสินค้าในไทย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสร้างโรงงานใหม่ การเทคโอเวอร์ หรือการว่าจ้างโรงงานอื่นผลิตแบบโออีเอ็มให้ รวมไปถึงการโยกฐานผลิตบางส่วนจากจีนมาที่ประเทศไทยแทนด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เทคโอเวอร์โรงงานผลิตพัดลมแห่งหนึ่งย่านบางปูมาแล้ว เป้าหมายต่อไปคงจะเป็นการผลิตไมโครเวฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเจรจา คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนปีหน้ารวมกว่า 160 ล้านบาท ส่วนงบตลาดปีหน้าวางไว้ที่ 18 ล้านบาท เน้นหนักการสร้างแบรนด์และการรับรู้ในตลาดมากขึ้น
"ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นำเข้ามาจากดโรงานของบริษัทที่ประเทศจีนทั้งหมด แต่อนาคตจะมีการผลิตที่ไทยและที่อื่นมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและอาจใช้เป็นฐานในการส่งออกได้ด้วยเช่น ตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และน่าสนใจมาก ตอนนี้พัดลมเราผลิตในไทยแล้วเริ่มวางตลาดแล้วเมื่อเดือนกันยายนนี้เอง กำลังผลิตรวม 80,000 ตัวต่อปี ซึ่งฐานการผลิตสำคัญของเราตอนนี้คือ เวียดนาม ผลิตหม้อหุงข้าว เตาเหล็กไฟฟ้า เครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็น และเตรียมที่จะสร้างฐานผลิตแอร์ด้วย" นายเชาว์กล่าว
ด้านช่องทางจำหน่ายมีดิสทริบิวเตอร์ 2 รายหลักรับผิดชอบ คือ บริษัทเทอร์โบรา และบริษัท เอ็มดีเอดเทรด ขณะนี้กระจายครอบคลุมแล้วทั้ง ในคาร์ฟูร์และแม็คโครทุกสาขา ส่วนเพาเวอร์บายบางสาขาและเตรียมขยายเพิ่มขึ้น และภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มไปจำหน่ายในเซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน ตั้งฮั่วเส็ง คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณ 10 สาขา หลังจากเจรจาเสร็จ นอกจากนั้นยังมีทีวีไดเร็คด้วย
"ในปีหน้าเราจะทดลองขายช่องทางอินเทอร์เน็ตดูบ้าง เพราะอย่างน้อยก็เป็นการสร้างแบรนด์ไปในตัว ไม่ได้หวังยอดขายมากนัก รวมทั้งการว่าจ้างเอเจนซีทำโฆษณาและดูแลแบรนด์ให้ด้วย"
นายเชาว์ บิน กล่าวถึงผลประกอบการด้วยว่า ปีที่แล้วบริษัทฯมียอดรายได้รวม 50 ล้านบาท เติบโต 30% และเติบโตเกณฑ์นี้มาประมาณ 3 ปีติดต่อกัน และคาดว่าในปีนี้ยอดขายรวมคงเติบโตที่ 30% ส่วนปีหน้าคาดว่าเติบโต 40% เนื่องจากการขยายไลน์สินค้าและช่องทางจำหน่ายมากขึ้น
นายเคนหลู ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท มิเดีย กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนในไทยแม้ว่าปีที่แล้วจะขยายตัวแค่ 3% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 33,000 ล้านบาท เพราะผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ก็เป็นช่วงสั้น แต่ระยะยาวแล้ว ยังมั่นใจศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งมิเดียกรุ๊ปก็มีแผนที่จะขยายการลงทุนทั้งในไทย เวียดนาม รัสเซีย ด้วยงบประมาณรวมกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายเชาว์ บิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มิเดีย กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนแบรนด์ มิเดีย เปิดเผยว่า จากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยของไทยในขณะนี้ บริษัทฯยังไม่มีการปรับแผนการลงทุนและแผนการตลาดในไทยแต่อย่างใด ในปีหน้าบริษัทฯ จะขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กในไทยเพิ่มขึ้นด้วยการนำเข้ากลุ่ม พัดลมปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เตาแก๊ส เครื่องดูดควัน ซึ่งจะเริ่มทยอยทำตลาดตั้งแต่ไตรมาสนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำตลาดผลิตภัณฑ์หม้อหุงข้าว เครื่องปั่น ไมโครเวฟ และพัดมไปแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดี เพื่อให้สินค้าในกลุ่มขนาดเล็กครบไลน์มากขึ้นและเป็นการเสริมศักยภาพในการทำตลาดด้วย ส่วนสินค้ากลุ่มเอวีและเฮชเอขนาดใหญ่เป็นการทำตลาดโดยอีกบริษัทแยกจากกัน
ขณะเดียวกันยังมองหาลู่ทางการลงทุนผลิตสินค้าในไทย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสร้างโรงงานใหม่ การเทคโอเวอร์ หรือการว่าจ้างโรงงานอื่นผลิตแบบโออีเอ็มให้ รวมไปถึงการโยกฐานผลิตบางส่วนจากจีนมาที่ประเทศไทยแทนด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เทคโอเวอร์โรงงานผลิตพัดลมแห่งหนึ่งย่านบางปูมาแล้ว เป้าหมายต่อไปคงจะเป็นการผลิตไมโครเวฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเจรจา คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนปีหน้ารวมกว่า 160 ล้านบาท ส่วนงบตลาดปีหน้าวางไว้ที่ 18 ล้านบาท เน้นหนักการสร้างแบรนด์และการรับรู้ในตลาดมากขึ้น
"ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นำเข้ามาจากดโรงานของบริษัทที่ประเทศจีนทั้งหมด แต่อนาคตจะมีการผลิตที่ไทยและที่อื่นมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและอาจใช้เป็นฐานในการส่งออกได้ด้วยเช่น ตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และน่าสนใจมาก ตอนนี้พัดลมเราผลิตในไทยแล้วเริ่มวางตลาดแล้วเมื่อเดือนกันยายนนี้เอง กำลังผลิตรวม 80,000 ตัวต่อปี ซึ่งฐานการผลิตสำคัญของเราตอนนี้คือ เวียดนาม ผลิตหม้อหุงข้าว เตาเหล็กไฟฟ้า เครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็น และเตรียมที่จะสร้างฐานผลิตแอร์ด้วย" นายเชาว์กล่าว
ด้านช่องทางจำหน่ายมีดิสทริบิวเตอร์ 2 รายหลักรับผิดชอบ คือ บริษัทเทอร์โบรา และบริษัท เอ็มดีเอดเทรด ขณะนี้กระจายครอบคลุมแล้วทั้ง ในคาร์ฟูร์และแม็คโครทุกสาขา ส่วนเพาเวอร์บายบางสาขาและเตรียมขยายเพิ่มขึ้น และภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มไปจำหน่ายในเซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน ตั้งฮั่วเส็ง คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณ 10 สาขา หลังจากเจรจาเสร็จ นอกจากนั้นยังมีทีวีไดเร็คด้วย
"ในปีหน้าเราจะทดลองขายช่องทางอินเทอร์เน็ตดูบ้าง เพราะอย่างน้อยก็เป็นการสร้างแบรนด์ไปในตัว ไม่ได้หวังยอดขายมากนัก รวมทั้งการว่าจ้างเอเจนซีทำโฆษณาและดูแลแบรนด์ให้ด้วย"
นายเชาว์ บิน กล่าวถึงผลประกอบการด้วยว่า ปีที่แล้วบริษัทฯมียอดรายได้รวม 50 ล้านบาท เติบโต 30% และเติบโตเกณฑ์นี้มาประมาณ 3 ปีติดต่อกัน และคาดว่าในปีนี้ยอดขายรวมคงเติบโตที่ 30% ส่วนปีหน้าคาดว่าเติบโต 40% เนื่องจากการขยายไลน์สินค้าและช่องทางจำหน่ายมากขึ้น
นายเคนหลู ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท มิเดีย กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือนในไทยแม้ว่าปีที่แล้วจะขยายตัวแค่ 3% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 33,000 ล้านบาท เพราะผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ก็เป็นช่วงสั้น แต่ระยะยาวแล้ว ยังมั่นใจศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งมิเดียกรุ๊ปก็มีแผนที่จะขยายการลงทุนทั้งในไทย เวียดนาม รัสเซีย ด้วยงบประมาณรวมกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
