xs
xsm
sm
md
lg

ฆ่า!เพื่อช่วยแม้วปชป.ถามสมชายเป็นคนหรือเปล่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- "อภิสิทธิ์" รับไม่ได้ "สมชาย" ยังลอยหน้าลอยตาหลังสั่งฆ่า ประชาชน ลั่น "ยังเป็นคนหรือเปล่า" จวกสุดด้านสุดทน อยู่เพื่อช่วยคนๆ เดียว ให้พ้นคุก ไม่สนสังคมพังแค่ไหน จี้ ผบ.ตร ย้ายล้างบางตำรวจฆ่าประชาชน ยัน ไม่ร่วมสังฆกรรมปฏิรูปการเมืองจอมปลอม ตบหน้า "ชัย" พร้อมทำหนังสือถึง ทูตทั่วโลก แฉปฏิบัติการโหดของรัฐบาล และตำรวจชั่ว ที่ไล่ฆ่าประชาชน เพียงแค่ต้องการเข้าสภา "หมอประเวศ" ลั่นอย่าแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนได้ ประชาธิปไตยที่แท้จริง

เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (9 ต.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี (เงา) นายศิริโชคโสภา โฆษก ครม.เงา และนาย อิศรา สุนทรวัฒน์ เลขานุการผู้นำฝ่ายค้าน ได้เดินทางไปยังสถานทูตสหรัฐ อเมริกา และสถานทูตอังกฤษ เพื่อยื่นหนังสือชี้แจง เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยกับการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ของ รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และต้องการให้สังคมทูตได้รับรู้ข้อ เท็จจริง ไม่ใช่เพียงได้รับรู้จากรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะอย่างน้อยจะ ทำให้ทูตานุทูตได้เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดในประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับเอกสารของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งไปยังสถานทูตต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ และจุดยืนของพรรค ต่อเหตุการณ์ที่มีการสลายกลุ่มผู้ ชุมนุม ลงนามโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มี รายละเอียดังนี้
"การใช้กำลังในการสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย ที่ชุมนุมอยู่หน้าสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเช้าวันที่ 7 ต.ค.51 ก่อให้ เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจตามมา ซึ่งทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ผมขออนุญาตที่จะใช้ โอกาสนี้ในการชี้แจงข้อเท็จจริง ดังต่อไปนี้
1. แม้ว่าเราอาจไม่เห็นด้วยกับการกระทำบางอย่างของฝ่ายพันธมิตรฯ ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากที่มีการใช้กำลังในการสลายผู้ชุมนุม ดังที่กล่าวมา แล้วข้างต้น ข้อเท็จจริงก็คือ ตั้งแต่แรก พันธมิตรฯได้มีการชุมนุมอย่างสงบ รวม ถึงกรณีการชุมนุมหน้าสภาผู้แทนราษฎร โดยมีจุดประสงค์ คือ การขัดขวางไม่ ให้รัฐบาลไทยได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
2. แม้ว่าการแถลงนโยบายจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังที่ได้บรรจุไว้ ในรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ก็ไม่จำเป็น ที่จะต้องเริ่มตรงเวลาที่ 09.30 น. ในวันที่ 7 ต.ค. สามารถที่จะเลื่อนออกไปได้ชั่วขณะ หรือเลื่อนออกไปสักวัน ให้รัฐบาลได้ มีเวลาเจรจากับฝ่ายพันธมิตรฯ เพื่อหาทางออกอย่างสันติวิธี แต่รัฐบาลกลับ เลือกที่จะสลายผู้ชุมนุม เพียงแค่ให้การประชุมได้เริ่มตรงเวลาตามกำหนด
3. การสลายผู้ชุมนุมของตำรวจไทยนั้น ทำไปโดยไม่มีการบอกกล่าว ล่วงหน้า และเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยฝ่ายตำรวจอ้างว่า เป็น การกระทำที่เป็นไปตามหลักสากลในเรื่องของการควบคุมผู้ชุมนุม และมีการใช้ เฉพาะแก็สน้ำตาเท่านั้น แต่การสลายผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ จำนวนมาก ซึ่งในความเห็นทางการแพทย์นั้น ไม่สอดคล้องกับการใช้แก๊สน้ำตา เพียงอย่างเดียว
4. หลังจากที่มีการใช้กำลังในการสลายผู้ชุมนุม ไม่ปรากฎว่ามีตัว แทนของรัฐบาลในช่วงวันนั้น ยกเว้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ออกมาแสดง ความห่วงใย สำนึกผิด หรือความรู้สึกรับผิดชอบต่อความสูญเสียในชีวิตและผู้ บาดเจ็บ ไม่มีแม้แต่ตัวแทนรัฐบาลที่ออกมาบ่งบอกว่า จะมีการสอบสวนการ กระทำของฝ่ายตำรวจ จุดยืนของรัฐบาลก็ไม่ได้เปลี่ยน แม้ว่าในช่วงบ่าย ความ รุนแรงยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้น จนมีคนตาย และเจ็บเป็นจำนวนมาก
5. หลังจากที่มีการใช้กำลังในการสลายการชุมนุมของฝ่ายพันธมิตรฯ พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรา รู้สึกได้ว่าบรรยากาศทางการเมืองและศีลธรรมไม่เอื้ออำนวย ให้สามารถเข้าร่วม กระบวนการแถลงนโยบายได้ เนื่องจากมีการใช้กำลังเกินความจำเป็นต่อผู้ที่มา ชุมนุมอย่างสงบ และใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เป็นการขัดต่อหลักสากล ประชาธิปไตยที่ใช้ปฏิบัติอยู่ โดยที่รัฐบาลไทยปฏิเสธที่จะแสดงความรู้สึกรับ ผิดชอบใดๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มากไปกว่านั้น รัฐบาลไทยยังบรรจุการ สมานฉันท์ เป็นนโยบายสำคัญอันดับต้นๆในการแถลงนโยบาย แต่ก่อนหน้า การแถลงนโยบายไม่กี่ชั่วโมง ได้มีการกระทำที่ขัดต่อสิ่งที่ได้บรรจุไว้ในนโยบาย เรามีความรู้สึกว่า ไม่ใช่เป็นเวลาที่เหมาะสม ในการร่วมกระบวนการที่จะมอบ อำนาจตามรัฐธรรมนูญให้กับรัฐบาลไทย เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน เราหวัง ว่ากระบวนการนี้จะถูกเลื่อนออกไป และถูกกำหนดในเวลาที่เหมาะสมกว่านี้
6. พรรคประชาธิปัตย์ มีความห่วงใย เหมือนกับนักวิชาการ สื่อมวล ชน และผู้นำทางความคิดหลายๆ คน ที่เกรงว่าสถานการณ์จะเลวร้ายไปเรื่อยๆ เพื่อมิให้ถึงทางตัน และเปิดโอกาสให้ประเทศได้ฟื้นจากความไม่แน่นอนทาง การเมือง ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราคิดว่าการยุบสภา เป็นทางเลือกที่ เหลือเพียงทางเดียว และได้แสดงความเห็นสนับสนุนเป็นที่ประจักษ์ต่อ สาธารณะ แม้จะมีผู้หวังดีหลายคนเตือนว่า โอกาสที่ประสบความสำเร็จของ พรรคฯในการเลือกตั้งนั้น เป็นไปได้ยาก แต่เราก็เลือกทางนั้น"

**ประณามสมชายเป็นคนหรือเปล่า
ในวันเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์แถลงภายหลังการประชุมพรรค ปชป. ว่า จากที่ได้ติดตามท่าที นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จนถึงขณะนี้ยัง ไม่มีความรับผิดชอบ รวมถึงความจริงใจในการรับชอบต่อเหตุการณ์สลายการ ชุมนุม มีแต่พยายามปัดความรับผิดชอบ โดยโยนความผิดให้เป็นเรื่องของเจ้า หน้าที่ ทั้งที่เหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ที่ยังพอจะอ้างได้ว่า ไม่คาดคิด ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะนำมาสู่ความสูญเสียเช่นนี้
เหตุการณ์ทั้งหมด นายกฯ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบว่า เป็นผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ก็จงใจให้เหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ที่เลว ร้ายกว่าการโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ คือ การใส่ร้ายประชาชน ซึ่งตนไม่นึกไม่ ฝันว่า เราจะมีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนจนเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัสแล้ว ยังมี รัฐที่ยัดเยียดความผิดให้ประชาชนอีก ถือเป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้
"ผมเคยได้ยินฝ่ายรัฐบาล ชอบถามคนนั้น คนนี้ ว่าเป็นคนไทยหรือ เปล่า แต่พฤติกรรมที่ท่านทำอยู่ ไม่ใช่เป็นคนไทยหรือเปล่า แต่เป็นคนหรือเปล่า เพราะกระทำถึงขั้นเสียชีวิต และยังไปยัดเยียด ปรักปรำ ใส่ร้ายเขาอีกว่า พกพา อาวุธ เขาเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ ไปชุมนุมเพื่อเรียกร้องความถูกต้อง ไม่มีอะไรไป คุกคามเจ้าหน้าที่ของรัฐเลย นายกฯที่ชื่อสมชาย ยังปล่อยให้ลูกน้อง และ กระบวนการทั้งหลาย มายัดเยียดข้อหาให้เขาอีก เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ ไม่ นำพาซึ่ง สมานฉันท์ ความปรองดอง หรือความเชื่อถือใดๆ ดังนั้นนอกจาก พรรคได้กล่าวโทษนายสมชายแล้ว ยังได้ทำหนังสือชี้แจงเอกอัคราชทูต ประเทศต่างๆ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่า ประชาชนคนไทย ไม่ได้ทำ รุนแรง แต่เป็นผู้ถูกกระทำจากภาครัฐ และได้ทำหนังสือไปยังคณะกรรมสิทธิ มนุษยชนฯ ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ พรรคยังทำหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่าเมื่อปรากฏว่ามีการทำร้าย และยิงอาวุธใส่ประชาชน ไม่ตรงกับที่แถลงว่าเป็น การยิงแก๊สนำตาเท่านั้น จะดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไร หรือว่าบุคคลเหล่านั้น ทำตามคำสั่งของท่าน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร หรือถ้ามีบุคคลที่เหนือกว่าเป็นผู้สั่ง บุคคลนั้นเป็นใคร ซึ่งผบ.ตร. อยู่ในฐานะดำเนินการแบบตรงไปตรงมา แต่ถ้า ท่านไม่ทำ จะถือว่าท่านมีความผิดด้วย ส่วนที่พรรคไม่ทำหนังสือถึงนายกฯ เพราะท่านหมดความชอบธรรม ความน่าเชื่อถือไปแล้ว

**ตั้งธงประชาชนผิดก่อนตั้ง กก.สอบ
ส่วนที่นายกฯ จะตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะไปหาใครมา และมีความน่าเชื่อถืออย่างไร แต่ถ้าจะพิสูจน์ความจริงใจ นายกฯต้องสั่งย้ายตำรวจที่ทำร้ายประชาชนออกไป ให้หมดก่อน หากจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ กระบวน การของรัฐกลับมีการตั้งธงว่า เป็นความผิดของประชาชน ก็จะยิ่งซ้ำเติมและ สร้างปมความขัดแย้งให้บ้านเมืองไปอีก ก็อย่าตั้งขึ้นมาเลย
"วันนี้ในทางการเมืองหมดความชอบธรรมหมดไปแล้ว เราเรียก ร้องความรับผิดชอบจากนายกฯ จะลาออก หรือถ้ากลัวว่าลาออกแล้วพรรคประ ชาธิปัตย์ จะมีอำนาจ ท่านจะยุบสภาก็ได้ แต่ท่านไม่ควรเพิกเฉย เพราะถ้าไม่ทำ อะไร ก็เท่ากับทำร้ายบ้านเมือง และกำลังทำร้ายระบบการเมือง เพราะระบบการ เมืองในวิถีระบอบประชาธิปไตย ไม่มีที่ไหนในโลก ที่ประชาชนถูกทำร้ายจาก ภาครัฐ แต่รัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ และจนกว่าเราจะ ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ พรรคไม่สามารถเข้าร่วม ผมจึงได้ทำหนังสือปฏิเสธการเข้า ร่วมเจรจา เพื่อตั้งคณะทำงานยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่ารัฐบาลไม่ได้ แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ซึ่งพรรคจะติดตามสถานการณ์ต่อไป และจะทำทุกวิถีทางที่ทำได้ เพื่อรักษาความยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมกับ ประชาชนที่เป็นเหยื่อในครั้งนี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอที่ให้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรย้ายตั้งแต่ ระดับใด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนที่ออกมาให้ร้ายประชาชน และ แถลงข่าวชี้แจง พอถูกจับได้ ก็เปลี่ยนคำอธิบาย ซึ่งประชาชน ผบ.ตร. และ นายกฯ คงจะรู้ดีว่าเป็นใคร แต่ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้ยิน ผบ.ตร. แสดงออกใน เรื่องนี้เท่าไร แต่คนที่ออกมาอธิบายแล้วถูกจับได้ คือคนที่ไม่ควรจะอยู่ในฐานะ ที่จะมาชี้แจง หรือบริหารงานของตำรวจต่อไป
เมื่อถามว่า ควรจะเสนอใครมาเป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะต้องเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือจากสังคม แต่ตนไม่แน่ ใจว่าคนที่มีความน่าเชื่อถือขณะนี้ จะยอมรับการแต่งตั้งจากนายสมชาย หรือไม่ เพราะถ้าเขารับการแต่งตั้ง ความเชื่อถือของเขาก็ถูกกระทบ เนื่องจากมีบางคน ออกมาเรียกร้องแล้วว่า ไม่ควรให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการชุดดังกล่าว
"วันนี้นายกฯ ต้องรู้ตัวเองว่าเป็นผู้นำประเทศหรือไม่ ความรุนแรงที่ เกิดขึ้นในบ้านเมือง 1 วัน เจ็บกว่า 400 คน มีทั้งสาหัส และเสียชีวิต เพียง เพราะนายกฯ ต้องการเข้าไปอ่านเอกสาร 33 หน้า อ่านเสร็จแล้ว ก็ไม่สามารถ ทำได้ตามที่อ่าน ผมจึงมองไม่เห็นว่าท่านอยู่ในฐานะอะไรที่จะมาตั้งคนขึ้น มาสอบข้อเท็จจริง ถ้าบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องตำรวจ อย่างนั้นท่านก็ลาออกไป ให้ตำรวจบริหารบ้านเมืองไปเลย ถ้าท่านบอกว่าตัดสินใจไม่ได้ ต้องฟัง โทรศัพท์จากลอนดอน ก็เอาคนที่ลอนดอนกลับมา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

**ถาม "สมชาย" อยู่ไปเพื่ออะไร
เมื่อถามว่า หากนายกฯไม่แสดงความรับผิดชอบอะไร แล้วเหตุการณ์ยัง รุนแรงจะทำอย่างไรต่อไป หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกฯ ก็มีแต่ สร้างปัญหาให้กับสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ตนไม่ห่วงว่ารัฐบาลจะอยู่สั้น อยู่ยาว แต่ ห่วงว่าบ้านเมืองจะเดินอย่างไร รัฐบาลยังอยู่ตนก็นึกไม่ออกมาว่าจะทำอะไรให้ บ้านเมือง ตนเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ นายกฯ มีแต่ความหวาดระแวง หวาด กลัว อยากถามว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร อยู่เพื่อกลัวคนคนหนึ่งติดคุกหรืออย่างไร จะให้บาดแผลในสังคมรุกลามบานปลายไปถึงขนาดไหน ตนไม่อยากเชื่อว่า นี่ คือคนที่เคยเป็นผู้บริหารสูงสุดในกระทรวงยุติธรรม
เมื่อถามว่า ทำไมสถานการณ์ในขณะนี้ที่ถือว่าวิกฤตสูงสุดแล้ว นาย สมชาย ยังอยู่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมตอบไม่ได้ ผมก็ไม่เคยเห็นคนแบบนี้ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ผมรู้จักก็คงไม่เป็นแบบนี้"
"ผมยืนยันว่า สิ่งที่พูดในวันนี้ รัฐบาลไม่ต้องมากล่าวหา ยัดเยียดว่า เป็นเพราะเราเห็นด้วยทุกเรื่องของพันธมิตรฯ แต่ถ้าพันธมิตรฯ ทำผิด รัฐบาล ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายประชาชน" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
"ไม่หรอกครับ เขาควรจะมีสำนึกของตัวเอง แต่ผมเห็นคุณบรรหาร (ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย) บอกว่า คนขาขาดนี่ก็ละมุนละม่อมแล้ว ผมก็ ไม่รู้จะเรียกร้องอะไรอีกแล้ว"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่สนใจว่ารัฐบาลจะเอารัดเอาเปรียบอย่างไร จะยุบสภาแล้วคืนอำนาจให้ประชาชน ตนก็ไม่ว่า ดีกว่ารัฐบาลอยู่อย่างนี้ แล้ว บ้านเมืองพังไปเรื่อยๆ

**จวก ผบ.ทบ.ต้องอยู่ข้างในหลวง-ปชช.
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงท่าที และบทบาทของกองทัพว่า อยากเห็นกองทัพและผู้บัญชาการทหารบก อยู่ข้างประชาชนมากกว่านี้ แต่ สนับสนุนการแสดงออกที่จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร และหลังจากนี้ หวังว่า จะไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อของประชาชนอีก ทหารควรเป็นทหารของประเทศ เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ของประชาชน และต้องสนอง นโยบายรัฐบาลที่ชอบธรรมถูกต้องไม่ขัดหลักการที่นอกเหนือกว่านี้
เมื่อถามว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จะมีหนทางเยียวยาปัญหาที่ เกิดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากไม่มีความรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ไม่มีหนทางเยียวยาได้ เป็นเพียงการเล่นเกมแย่งชิงอำนาจ แต่หลักการความ รับผิดชอบไม่เหลือแล้ว ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ทำการเมืองเพื่อแสวงหาอำนาจ วันนี้ตนไม่สนใจว่าใครจะได้อำนาจหลังจากนายกฯ ยุบสภา หรือลาออก แต่ สนใจว่าต้องมีคนรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

**แต่งชุดดำ 3 วันเพื่อไว้อาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ประชาธิปัตย์ ได้สั่งให้สมาชิกพรรคทุกคน แต่งชุดดำเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.เป็นต้นไป เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านกำลัง ตรวจสอบรายชื่อสมาชิกที่เข้าประชุมรัฐสภา ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าครบ หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่า มีการฝากบัตรแสดงตนเข้าไป เพื่อให้องค์ ประชุมครบ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบว่า นายสมชาย แถลงนโยบายครบทุก หน้าหรือไม่ เพราะหากไม่ครบ ก็จะความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะถือว่าแจ้งเท็จต่อรัฐสภา

**การเมืองชั่วต้องลงโทษให้หนัก
นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า หากนายกฯประกาศลา ออกคิดว่าจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากยุบสภา การ เมืองก็กลับมาพิการอีก เพราะรัฐสภามีปัญหาที่ยังมีการใช้อำนาจ และผล ประโยชน์ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี มีคนบงการจากแดนไกลในการเลือกตัว นายกฯ และรัฐมนตรี การเมืองไทยจึงไม่มีพลังพอที่จะแก้ปัญหาของมันเองได้ ขอย้ำว่า เมื่อชาติเกิดวิกฤติต้องการความเสียสละจากทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศเดิน ต่อไปได้
นพ.ประเวศ กล่าวว่า จุดแข็งของพันธมิตรฯ คือการตรวจสอบ อำนาจรัฐ หากทำไปเรื่อยๆ จะดี แต่ไม่ควรใช้วิธีการอื่นๆ เช่น ไม่ควรไปสร้าง ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรทำขณะนี้หลังจากเหตุเกิดปะทะกัน ที่มีผู้ สูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องทำความจริงให้ปรากฏให้ได้ เพราะฉะนั้นจะไม่จบ จะ โยนความผิดให้กันไปมา ซึ่งตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของ 24 อธิการบดี ที่เสนอ ให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระ โดยประธานคณะกรรมการชุดนี้จะต้องมีความ เป็นกลาง และมีความสามารถสูง และเลือกคณะกรรมการได้เอง ไม่ใช่จับใครใส่ เข้ามาก็ได้ จึงจะมีคนเชื่อถือ ต้องไม่กลัวความจริง ในความคิดของตนเห็นว่า คนที่จะมาเป็นคณะกรรมการได้ในขณะนี้ เช่น นายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูง สุด ที่มีความเป็นอิสระ ไม่ฝักฝ่ายฝ่ายใด ต้องเอาความจริงมาก่อน จึงจะ สมานฉันท์กันได้
ทั้งนี้ หน้าที่ของรัฐบาล คือการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และปกป้องทรัพย์สินของประชาชน ไม่ควรทำอะไรที่ก่อให้เกิดความรุนแรง และบาดเจ็บ ขณะเดียวกันหน้าที่ของกองทัพคือ ต้องแทรกตรงกลางไม่ให้ ตำรวจและพันธมิตรปะทะกัน

***หอการค้าตปท.เปิดผนึกถึงนายกฯ
นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้านานาชาติ ประเทศไทย (ไอ ซีซี) ซึ่งมีเครือข่ายกว่า 130 ประเทศทั่วโลก กล่าวว่า ได้เตรียมทำหนังสือเปิด ผนึกถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ต.ค.2551 เพื่อเรียก ร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อยุติความรุนแรง และป้องกันการ เกิดปัญหาจนกระทบต่อภาคธุรกิจ 3 ข้อ ได้แก่ 1.จัดตั้งคณะทำงานร่วมกับภาค เอกชน เพื่อประเมินผลกระทบต่อภาคธุรกิจด้านต่างๆ และกำหนดมาตาการ ฟื้นฟูร่วมกัน 2. ประกาศทิศทางและนโยบายหลักทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน เพื่อสนับสนุนให้เอกชนสามารถทำธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง 3. กำหนดมาตรการ เพื่อดึงดูดการลงทุนและการท่องเที่ยวให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด ด้วยการสร้าง ความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัย.
กำลังโหลดความคิดเห็น