ปธ.วุฒิสภายังวาดฝันตั้งคนกลางเจรจารัฐบาลเขยแม้ว-พันธมิตรฯ เสนอชื่อ “หมอประเวศ-วสิษฐ” เตรียมหารือ “ชัย” หาความชัดเจนพรุ่งนี้
วันนี้ (9 ต.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์เพิกถอนข้อหากบฏของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 9 คน ว่า คิดว่าบรรยากาศต้องดีขึ้นและคลี่คลายลงตามลำดับ คงจะเริ่มเจรจากันได้และจะยุติปัญหาต่างๆ ได้ โดยฝ่ายรัฐบาลที่ประสงค์จะเจรจากับฝ่ายพันธมิตรฯ และทุกฝ่ายน่าจะเริ่มเจรจากันได้เพื่อให้วิกฤตการณ์คลี่คลายจนสงบลงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงปักหลักชุมนุมต่อไป นายประสพสุข กล่าวว่า อย่างน้อยความกดดันก็ลดลงเพราะข้อหากบฏไม่มีแล้ว
เมื่อถามว่าจะเริ่มต้นตรงจุดไหน เมื่อพันธมิตรฯ ยืนยันว่าจะไม่เจรจากับรัฐบาลแน่นอน นายประสพสุข กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศเปลี่ยนไปแล้วเขาก็น่าจะเริ่มเจรจาได้ รัฐบาลเองก็กำลังหาทางเจรจา เมื่อถามย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงเพราะคำสั่งศาลไม่ใช่ท่าทีของรัฐบาล นายประสพสุข กล่าวว่า ใช่ ซึ่งรัฐบาลก็มีท่าทีจะเจรจาตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่อยากเจรจามากกว่า
เมื่อถามว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ ไม่ไว้ใจรัฐบาลแล้ว ถือว่าขณะนี้ข้ามจุดเจรจาหรือยัง นายประสพสุข กล่าวว่า ขณะนี้ตนถือว่าทุกอย่างยังไม่ข้ามจุด ยังเจรจาได้ และคนที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจาต้องเป็นคนที่มีความเป็นกลางจริงๆ ซึ่งยังมีคนอีกจำนวนมากที่คิดว่ายังไว้ใจได้
เมื่อถามว่าคนดีไม่ค่อยกล้าเข้ามาทำงาน นายประสพสุข กล่าวว่า คนดีต้องกล้าเสียสละช่วยชาติและตนคิดว่ายังมีอยู่ ต่อข้อถามว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ซึ่งถือเป็นกาวใจในการเจรจาพันธมิตรฯ ได้ลาออกไปแล้ว นายประสพสุข กล่าวว่า รัฐบาลต้องหาคนที่ไม่ใช่คนในรัฐมนตรีก็ได้
“ส่วนที่มีคนเสนอให้ผมเป็นคนกลางในการเจรจานั้น คิดว่าให้คนอื่นลองทำบ้าง เพราะผมคงลำบากที่เจรจาเว้นแต่จำเป็นจริงๆ รัฐบาลต้องเฟ้นหาตัวให้ได้ว่าใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเจรจา สำหรับตนมองว่าคนที่เป็นกลางและทุกฝ่ายเชื่อใจได้ คือ นพ.ประเวศ วะสี ซึ่งมีวัยวุฒิและคุณวุฒิเหมาะสมมากกว่าที่สุด” นายประสพสุข กล่าว
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีหลายฝ่ายมีแนวคิดที่จะตั้งคนที่มีความเป็นกลางขึ้นมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงจากการสลายการชุมนุม ซึ่งตนเห็นด้วยควรให้คนที่มีความเป็นกลางมาตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนในเรื่องนี้ จะได้ไม่ต้องมาเถียงกันว่าความรุนแรงเกิดขึ้นเพราะใคร อย่างไร ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้นาย คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด คิดว่ายอมรับได้ เชื่อว่าท่านสามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ เรียกร้องให้รัฐบาลเสียสละโดยการยุบสภา คิดว่ายากเกินไปหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีอะไรยากหากคิดทำเพื่อชาติทุกอย่างทำได้ทั้งนั้น เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความเชื่อมโยงโดยล่าสุดแพทย์ออกมาปฏิเสธที่จะรักษา ส.ส. ตำรวจและคนในรัฐบาล นายประสพสุข กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้เริ่มลุกลามเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจกัน และความรุนแรงที่เกิดขึ้นความจริงเป็นอย่างไรยังไม่ทราบ จึงควรหาคนกลางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ทุกฝ่ายจะได้เข้าใจ ส่วนจะลุกลามไปวิชาชีพอื่นหรือไม่นั้นตนไม่แน่ใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งบอกเหตุว่าทุกคนไม่ไว้ใจกันแล้ว
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า ในวันศุกร์ที่ 10 ต.ค.นี้ ตนจะเข้าพบนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือเกี่ยวกับการประชุมรัฐสภาโลก และจะพูดคุยถึงเรื่องนี้ว่ารัฐสภาจะช่วยแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ โดยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้
เมื่อถามว่าทาง ครม.ได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบแล้ว นายประสพสุข กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นคงจะเป็นการซ้ำซ้อนกันเมื่อรัฐบาลมีการตั้งแล้วทางเราเองก็อยากเสนอ นพ.ประเวศ เข้ามาตรวจสอบ แต่หากท่านปฏิเสธก็ยังมี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรอง ผบ.ตร.ที่มีความเหมาะสมซึ่งเกษียณอายุไปนานแล้ว และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการสืบสวนสอบสวน ทุกคนเชื่อใจว่าท่านจะทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม และไม่ใช่นายตำรวจที่ยังรับราชการ
ต่อกรณีที่ ส.ว.กลุ่มหนึ่งจะไปฟ้องยูเอ็น นายประสพสุข กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละท่าน เราไปก้าวก่ายอะไรไม่ได้ ท่านอยากประชุมก็ประชุมไม่อยากทำก็ไม่ทำ เมื่อถามว่าภาพที่ออกมา ส.ว.แตกเป็นสองกลุ่ม นายประสพสุข กล่าวว่า มันเป็นเอกภาพไม่ได้ เพราะเราไม่มีพรรคการเมือง ไม่มีวินัยพรรคที่ต้องมาบังคับให้ทำเช่นนั้นอย่างนี้ เรามี 150 พรรค