รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว ท่ามกลางความกังขาว่ามีสมาชิกรัฐสภาเข้าประชุมครบองค์ประชุมหรือไม่ การประชุมนี้เป็นการประชุมที่อัปยศอดสูที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐสภาไทย
เป็นการประชุมที่เกิดขึ้นท่ามกลางการหลั่งเลือดของประชาชนผู้รักชาติ รักศาสน์ กษัตริย์ ที่ชุมนุมกันอยู่อย่างสันติ แล้วถูกคำสั่งทมิฬมารให้ล้างผลาญประชาชนดุจดังศัตรูแผ่นดิน
รัฐตำรวจที่กระหายเลือดจะต้องรับผิดชอบบัญชีเลือดนี้
รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มือเปื้อนเลือดประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว กลายเป็นรัฐบาลกระหายเลือดแล้ว และเป็นรัฐบาลทรราชแล้ว
ความจริงรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบมาแต่ต้น เพราะมาจากการโกงเลือกตั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าไม่ใช่วิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตย จึงให้ยุบพรรคไทยรักไทย แต่ก็ไม่เข็ดหลาบ ยังใช้วิธีการเดิมกลับเข้ามามีอำนาจอีก
เป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการถูกยุบพรรคเพราะโกงการเลือกตั้ง จึงไม่มีความชอบธรรมอันใดที่จะบริหารบ้านเมือง
ประชาชนชาวไทยจึงไม่ยอมรับอำนาจปกครองที่ไม่ใช่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย และหลั่งไหลกันมาชุมนุมประท้วงต่อต้านอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ
เมื่อประชาชนไม่ยอมรับอำนาจปกครองโดยเด็ดขาด รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงหมดสภาพทั้งโดยนิตินัย โดยพฤตินัย และโดยกายภาพในการบริหารบ้านเมืองนับตั้งแต่วินาทีเลือดเป็นต้นมา
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ตลอดจนผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลมีสภาพไม่ต่างกับสุนัขที่หนีการไล่ล่าของประชาชนผู้รักชาติ ต้องหลบหน้าหลบหลัง ปีนรั้วสภาหนีและหาทางออกไม่ได้ จนต้องหลบหนีโดยทางเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นข่าวอัปยศไปทั่วโลกแล้ว
ผู้การก่ออาชญากรรมเลือดหน้ารัฐสภาคืออาชญากรของมนุษยชาติ ไม่มีวันจะอยู่อย่างสงบสุขได้อีกต่อไป และจะถูกไล่ล่าจากประชาชนทั่วทุกหนทุกแห่งนับแต่บัดนี้ไป
รัฐตำรวจกระหายเลือดมาหลายครั้งหลายหน มาครั้งนี้ก็กระทำซ้ำอีก และหนักกว่าเก่า เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตผิดวิสัยมนุษย์ที่กระทำต่อคนไทยด้วยกัน
พสกนิกรต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเมตตาพระราชทานเงินส่วนพระองค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระหายเลือดครั้งนี้ และทรงรับเอาผู้บาดเจ็บทั้งหมดไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ประชาชนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ผู้คนจำนวนมากหลั่งน้ำตาด้วยความปีติยินดีและจะไม่มีวันลืมเลือนพระมหากรุณาธิคุณของพระแม่เจ้าของชาวไทยตลอดไป
สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นได้รายงานข่าวในเวลาต่อมาว่าพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีก็ได้ลาออกจากตำแหน่งโดยเหตุผลว่าเพราะรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชน
ถ้าเป็นจริงเช่นนั้นก็ต้องถือว่าพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ยังสำนึกในน้ำพระพิพัฒน์สัตยาที่ได้ถวายสัตย์ไว้ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้แต่หวังว่าพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเช่นเดียวกันจะได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแล้วถอนตัวออกมาจากพวกคนชั่วโดยเร็วที่สุด
วันนี้ชัดเจนแล้วว่าความขัดแย้งหลักในบ้านเมืองนี้และทำให้บ้านเมืองเป็นจลาจลสับสนวุ่นวายไร้ความสงบสุขก็เพราะทุนสามานย์ที่จ้องล้างผลาญพระบรมราชจักรีวงศ์ หมายจะเปลี่ยนราชอาณาจักรเป็นสาธารณรัฐเพื่อให้คนชั่วมาครองเมือง
กองทัพไทยและข้าราชการทุกหมู่เหล่าจึงต้องรีบถอนตัวออกมาและยุติการรับใช้เหล่าอธรรมในทันทีด้วย
รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้แถลงนโยบายเลือดแล้ว ไหนเลยที่นโยบายเลือดจะก่อเกิดความสงบสุข ความร่มเย็น และความเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบ้านเมืองได้อีกต่อไป
มีแต่จะเกิดการนองเลือดและสงครามประชาชนตามที่พวกคนชั่วได้ตั้งเป้าหมายไว้ จึงเป็นสถานการณ์ที่ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติและพระมหากษัตริย์จะต้องรีบพิจารณาป้องกันแก้ไข หยุดยั้งเภทภัยให้กับแผ่นดินให้ทันท่วงที
ไม่ปล่อยให้รัฐตำรวจก่อการกำเริบเสิบสาน สังหารเข่นฆ่าประชาชน และสร้างจลาจลในบ้านเมืองได้อีกต่อไป
ประชาชนที่เรียกหาความยุติธรรมและปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ด้วยสองมือเปล่าและอหิงสาอ่อนล้าและมาถึงที่สุดแล้ว ความสันติและอหิงสาย่อมอ่อนล้าตามไปด้วย
จะปล่อยให้ประชาชนทนทุกข์ทรมาน เสียสละด้วยวิริยะภาพต่อไปไม่ได้แล้ว จะต้องปลุกใจและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ตื่นขึ้นมาปกป้องคุ้มครองพระมหากษัตริย์และประชาชนโดยเร็วที่สุด
รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กำลังก้าวลงไปในรอยเดียวกับรัฐบาลทักษิณและย่อมต้องรับวิบากกรรมเช่นเดียวกันกับรัฐบาลนั้นโดยมิพักต้องสงสัยเลย
เมื่อประชาชนที่ตื่นรู้และไม่ยอมรับการปกครองแล้ว ย่อมไม่มีรัฐบาลไหนโดยเฉพาะรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมและมือเปื้อนเลือดจะยืนอยู่ได้อีกต่อไป.
เป็นการประชุมที่เกิดขึ้นท่ามกลางการหลั่งเลือดของประชาชนผู้รักชาติ รักศาสน์ กษัตริย์ ที่ชุมนุมกันอยู่อย่างสันติ แล้วถูกคำสั่งทมิฬมารให้ล้างผลาญประชาชนดุจดังศัตรูแผ่นดิน
รัฐตำรวจที่กระหายเลือดจะต้องรับผิดชอบบัญชีเลือดนี้
รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มือเปื้อนเลือดประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว กลายเป็นรัฐบาลกระหายเลือดแล้ว และเป็นรัฐบาลทรราชแล้ว
ความจริงรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบมาแต่ต้น เพราะมาจากการโกงเลือกตั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าไม่ใช่วิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตย จึงให้ยุบพรรคไทยรักไทย แต่ก็ไม่เข็ดหลาบ ยังใช้วิธีการเดิมกลับเข้ามามีอำนาจอีก
เป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการถูกยุบพรรคเพราะโกงการเลือกตั้ง จึงไม่มีความชอบธรรมอันใดที่จะบริหารบ้านเมือง
ประชาชนชาวไทยจึงไม่ยอมรับอำนาจปกครองที่ไม่ใช่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย และหลั่งไหลกันมาชุมนุมประท้วงต่อต้านอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ
เมื่อประชาชนไม่ยอมรับอำนาจปกครองโดยเด็ดขาด รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จึงหมดสภาพทั้งโดยนิตินัย โดยพฤตินัย และโดยกายภาพในการบริหารบ้านเมืองนับตั้งแต่วินาทีเลือดเป็นต้นมา
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ตลอดจนผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลมีสภาพไม่ต่างกับสุนัขที่หนีการไล่ล่าของประชาชนผู้รักชาติ ต้องหลบหน้าหลบหลัง ปีนรั้วสภาหนีและหาทางออกไม่ได้ จนต้องหลบหนีโดยทางเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นข่าวอัปยศไปทั่วโลกแล้ว
ผู้การก่ออาชญากรรมเลือดหน้ารัฐสภาคืออาชญากรของมนุษยชาติ ไม่มีวันจะอยู่อย่างสงบสุขได้อีกต่อไป และจะถูกไล่ล่าจากประชาชนทั่วทุกหนทุกแห่งนับแต่บัดนี้ไป
รัฐตำรวจกระหายเลือดมาหลายครั้งหลายหน มาครั้งนี้ก็กระทำซ้ำอีก และหนักกว่าเก่า เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตผิดวิสัยมนุษย์ที่กระทำต่อคนไทยด้วยกัน
พสกนิกรต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเมตตาพระราชทานเงินส่วนพระองค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระหายเลือดครั้งนี้ และทรงรับเอาผู้บาดเจ็บทั้งหมดไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ประชาชนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ผู้คนจำนวนมากหลั่งน้ำตาด้วยความปีติยินดีและจะไม่มีวันลืมเลือนพระมหากรุณาธิคุณของพระแม่เจ้าของชาวไทยตลอดไป
สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นได้รายงานข่าวในเวลาต่อมาว่าพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีก็ได้ลาออกจากตำแหน่งโดยเหตุผลว่าเพราะรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชน
ถ้าเป็นจริงเช่นนั้นก็ต้องถือว่าพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ยังสำนึกในน้ำพระพิพัฒน์สัตยาที่ได้ถวายสัตย์ไว้ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้แต่หวังว่าพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเช่นเดียวกันจะได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแล้วถอนตัวออกมาจากพวกคนชั่วโดยเร็วที่สุด
วันนี้ชัดเจนแล้วว่าความขัดแย้งหลักในบ้านเมืองนี้และทำให้บ้านเมืองเป็นจลาจลสับสนวุ่นวายไร้ความสงบสุขก็เพราะทุนสามานย์ที่จ้องล้างผลาญพระบรมราชจักรีวงศ์ หมายจะเปลี่ยนราชอาณาจักรเป็นสาธารณรัฐเพื่อให้คนชั่วมาครองเมือง
กองทัพไทยและข้าราชการทุกหมู่เหล่าจึงต้องรีบถอนตัวออกมาและยุติการรับใช้เหล่าอธรรมในทันทีด้วย
รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้แถลงนโยบายเลือดแล้ว ไหนเลยที่นโยบายเลือดจะก่อเกิดความสงบสุข ความร่มเย็น และความเจริญรุ่งเรืองขึ้นในบ้านเมืองได้อีกต่อไป
มีแต่จะเกิดการนองเลือดและสงครามประชาชนตามที่พวกคนชั่วได้ตั้งเป้าหมายไว้ จึงเป็นสถานการณ์ที่ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติและพระมหากษัตริย์จะต้องรีบพิจารณาป้องกันแก้ไข หยุดยั้งเภทภัยให้กับแผ่นดินให้ทันท่วงที
ไม่ปล่อยให้รัฐตำรวจก่อการกำเริบเสิบสาน สังหารเข่นฆ่าประชาชน และสร้างจลาจลในบ้านเมืองได้อีกต่อไป
ประชาชนที่เรียกหาความยุติธรรมและปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ด้วยสองมือเปล่าและอหิงสาอ่อนล้าและมาถึงที่สุดแล้ว ความสันติและอหิงสาย่อมอ่อนล้าตามไปด้วย
จะปล่อยให้ประชาชนทนทุกข์ทรมาน เสียสละด้วยวิริยะภาพต่อไปไม่ได้แล้ว จะต้องปลุกใจและจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ตื่นขึ้นมาปกป้องคุ้มครองพระมหากษัตริย์และประชาชนโดยเร็วที่สุด
รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กำลังก้าวลงไปในรอยเดียวกับรัฐบาลทักษิณและย่อมต้องรับวิบากกรรมเช่นเดียวกันกับรัฐบาลนั้นโดยมิพักต้องสงสัยเลย
เมื่อประชาชนที่ตื่นรู้และไม่ยอมรับการปกครองแล้ว ย่อมไม่มีรัฐบาลไหนโดยเฉพาะรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมและมือเปื้อนเลือดจะยืนอยู่ได้อีกต่อไป.