พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมพล.ต.จำลอง ว่า เป็นเหตุการณ์ที่ต้องติดตาม และต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ผู้ที่ออกมาเรียกร้องให้มีการดำเนินการต่างๆ รัฐบาลต้องทำให้เกิดความเสมอภาค ถ้าเห็นว่ามีการเลือกปฎิบัติ หรือถูกกระทำฝ่ายเดียว ต้องระวังเพราะจะเป็นตัวเร่ง และอาจจะตกหลุมพรางในสิ่งที่คาดไม่ถึง ตำรวจ และรัฐบาลต้องตระหนักในเรื่องนี้
พล.อ.อ อิทธพร กล่าวว่า สิ่งต่างๆ ที่มีการเรียกร้อง ต้องทำให้เกิดความเสมอภาค ไม่ให้เลือกปฎิบัติ ถ้าหากกฎหมายเป็นกฎหมายที่ถูกปฎิบัติเหมือนกันทั้ง 2 ฝ่าย ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าในส่วนของทหารที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ จะเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนป้องกันการมาร่วมชุมนุมหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพร้อมปฎิบัติในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แต่ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะร้องขอมาหรือไม่ สิ่งไหนที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ทหารก็พร้อมที่จะปฎิบัติ
เมื่อถามว่า การจับแกนนำพันธมิตร จะกลายเป็นจุดแตกหักหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาล ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งก็คงออกมาเรียกร้อง ผู้ที่มีคดีความ ที่ต้องติดตามออกมาหมายจับ ได้ดำเนินการเช่นเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการ และตอบคำถามให้ชัดเจน คือตำรวจต้องปฎิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่กฎหมายที่ว่า ต้องปฎิบัติให้มีความเสมอภาคกับทุกฝ่าย จะลดเงื่อนไขในการปลุกระดมคนให้มาชุมนุม
เมื่อถามว่า กังวลว่าคนจะออกมาให้กำลังใจ พล.ต.จำลอง มากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถตอบคำถาม หรือดำเนินการกับคดีที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน คงไม่น่าจะมากขึ้น เมื่อถามว่า ผบ. เหล่าทัพ ได้มีการต่อสายพูดคุยกันหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ผบ. เหล่าทัพ พบกันบ่อย เรามีการหารือกันถึงสถานการณ์ของบ้านเมืองตลอด เรามีความใกล้ชิดกัน มีอะไรก็พูดคุยกันได้ โดยตรง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
"ปัญหาของบ้านเมือง เป็นหัวข้อที่ ผบ. เหล่าทัพ นำมาพูดคุยกันตลอด ขึ้นอยู่กับว่า เราจะสามารถช่วยเหลือได้เต็มที่หรือไม่ และต้องไม่ขัดกับกฎหมาย เราก็จะเข้าไปตามบทบาทหน้าที่ของเรา แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในหน้าที่การแสดงออกก็จะไม่เหมาะสม" ผบ.ทอ. กล่าว
**พัลลภชี้จำลองจงใจให้จับ
พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รองผอ.รมน.) และในฐานะเพื่อน จปร.7 ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า คงเป็นจุดมุ่งหวังของ พล.ต.จำลอง ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เพื่อต้องการเรียกมวลชนจากทั่วประเทศเข้ามาร่วมชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะหากมวลชนเข้ามาชุมนุมกันเยอะเรื่องจะได้จบเร็ว ซึ่งเท่าที่ติดตามสถานการณ์ คิดว่าแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องมีการพูดคุยหารือกัน เพราะอยู่ ดีๆ จะให้ตำรวจจับกุม พล.ต.จำลองได้อย่างไร เพราะรู้ทั้งรู้ว่าตำรวจเพิ่งจะจับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ไปก่อนหน้านี้
"การจับกุม พล.ต.จำลอง ถือเป็นเจตนาของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะรู้อยู่แล้วว่า ออกไปก็จะถูกจับ เมื่อคืน (4 ต.ค.) เห็นพล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล ประกาศลั่นว่า จะไม่ไปเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เพราะรู้อยู่ว่าตำรวจจะจับกุม แต่นี่อยู่ ๆ ก็ออกไปให้ตำรวจเขาจับ แสดงว่ามีเจตนา มีการวางแผนกันอยู่ แต่ผมไม่รู้หรอกว่า เขามีการวางแผนกันอย่างไร เพราะตั้งแต่เขาประกาศไม่เอาผม ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย" พล.อ.พัลลภกล่าว
เมื่อถามว่า จุดมุ่งหวังที่ต้องการเรียกมวลชนเข้ามาสมทบเกรงว่าจะเกิดปัญหาลุกลามบานปลายหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องติดตามดูการเคลื่อนไหวของแกนนำพันธมิตรฯ ที่เหลือยู่ ส่วนการจับกุม พล.ต.จำลอง เพื่อเป็นเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าจะรุกมากขนาดไหน แต่ตนคิดว่า แกนนำก็เป็นแกนนำเก่า และมีการชุมนุมแบบอหิงสา จะมีมวลชนมามากเท่าไร ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเขาไม่ได้รุกรบ
เมื่อถามว่า การเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่าง พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ กับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ล้มเหลว พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้น่าจะจบ หรือ คว่ำโต๊ะไปได้เลย เพราะเมื่อทางกลุ่มพันธมิตรฯ เดิมเกมให้ พล.ต.จำลอง ถูกจับ การเจรจาก็ไม่ต้องพูดถึง
"ผมคุยกับพล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ (เสธ.หมึก) นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ก็บอกว่าของกูจบแล้ว เจรจาไม่ได้แล้ว และพล.ต.จำลอง มาโดนจับแบบนี้ด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปเจรจากับใคร เพราะพล.อ.ชวลิต รู้จักและสนิทสนมกับพล.ต.จำลองเท่านั้น ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ไม่ได้สนิทด้วย" พล.อ.พัลลภ ระบุ
**น้อยใจไม่เป็นแกนนำฯรุ่น2
เมื่อถามว่าสัญญาที่ให้ไว้กับพล.ต.จำลอง ว่าหากตำรวจจับกุม พร้อมที่จะเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ รุ่น 2 นั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรฯ และเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีประกาศลั่นว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ รุ่น 2 มีเพียง 3 คน โดยที่ไม่มีรายชื่อตนอยู่ด้วย
"ผมโทรศัพท์ไปถาม พล.ต.จำลอง ซึ่งพล.ต.จำลอง ก็บอกเหตุผลกับผมว่า การที่ไม่มีชื่อผมอยู่ในรุ่น 2 เพราะว่าทางคณะกรรมการของกลุ่มพันธมิตรฯ มีการหารือกันแล้ว ในเมื่อเขาไม่เอาผม ผมก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไร และสัญญิงสัญญาที่เคยให้ไว้กับพล.ต.จำลอง ได้ประกาศไว้ก็จบลงไปด้วย และไม่มีพันธะใดๆ อีก เพราะเมื่อเขาประกาศไม่มีผมอยู่ในรุ่น 2 ก็ถือว่าทุกอย่างจบลงไปทั้งหมด" พล.อ.พัลลภกล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.อ. พัลลภ ยอมรับว่าน้อยใจเหมือนกัน แต่ในเมื่อเขาไม่เอา เราก็ไม่ง้อ เพราะตนง้อคนไม่เป็น ต่อไปคงไม่สนใจอะไร ก็คงเล่นกอล์ฟเหมือนเดิม และจะหาเวลา หรือโอกาสไปเยี่ยม พล.ต.จำลอง ในฐานะเพื่อน จปร.7 ด้วยกัน
**"บิ๊กสุ"ให้มหาจำลองยุติบทบาท
พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวกลางเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯว่า น่าจะดีขึ้นทั้งสองฝ่ายจะต้องเห็นแก่ประเทศชาติ ประชาชนเอือมระอากับสถานการณ์เช่นนี้ คิดว่าน่าจะดีขึ้น ในส่วนของ พล.อ.ชวลิต ท่านเป็นนักประสาน เป็นคนทำงานด้านการประสานงานได้ดี คิดว่าท่านคงประสบความสำเร็จ ในส่วนของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ นั้น ท่านอายุมากแล้วและก็เหนื่อยเต็มที ควรจะหยุดติบทบาทได้แล้ว
--------------------------
พล.อ.อ อิทธพร กล่าวว่า สิ่งต่างๆ ที่มีการเรียกร้อง ต้องทำให้เกิดความเสมอภาค ไม่ให้เลือกปฎิบัติ ถ้าหากกฎหมายเป็นกฎหมายที่ถูกปฎิบัติเหมือนกันทั้ง 2 ฝ่าย ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าในส่วนของทหารที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ จะเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนป้องกันการมาร่วมชุมนุมหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพร้อมปฎิบัติในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แต่ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะร้องขอมาหรือไม่ สิ่งไหนที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ทหารก็พร้อมที่จะปฎิบัติ
เมื่อถามว่า การจับแกนนำพันธมิตร จะกลายเป็นจุดแตกหักหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาล ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งก็คงออกมาเรียกร้อง ผู้ที่มีคดีความ ที่ต้องติดตามออกมาหมายจับ ได้ดำเนินการเช่นเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการ และตอบคำถามให้ชัดเจน คือตำรวจต้องปฎิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่กฎหมายที่ว่า ต้องปฎิบัติให้มีความเสมอภาคกับทุกฝ่าย จะลดเงื่อนไขในการปลุกระดมคนให้มาชุมนุม
เมื่อถามว่า กังวลว่าคนจะออกมาให้กำลังใจ พล.ต.จำลอง มากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถตอบคำถาม หรือดำเนินการกับคดีที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน คงไม่น่าจะมากขึ้น เมื่อถามว่า ผบ. เหล่าทัพ ได้มีการต่อสายพูดคุยกันหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ผบ. เหล่าทัพ พบกันบ่อย เรามีการหารือกันถึงสถานการณ์ของบ้านเมืองตลอด เรามีความใกล้ชิดกัน มีอะไรก็พูดคุยกันได้ โดยตรง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
"ปัญหาของบ้านเมือง เป็นหัวข้อที่ ผบ. เหล่าทัพ นำมาพูดคุยกันตลอด ขึ้นอยู่กับว่า เราจะสามารถช่วยเหลือได้เต็มที่หรือไม่ และต้องไม่ขัดกับกฎหมาย เราก็จะเข้าไปตามบทบาทหน้าที่ของเรา แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในหน้าที่การแสดงออกก็จะไม่เหมาะสม" ผบ.ทอ. กล่าว
**พัลลภชี้จำลองจงใจให้จับ
พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รองผอ.รมน.) และในฐานะเพื่อน จปร.7 ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า คงเป็นจุดมุ่งหวังของ พล.ต.จำลอง ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เพื่อต้องการเรียกมวลชนจากทั่วประเทศเข้ามาร่วมชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะหากมวลชนเข้ามาชุมนุมกันเยอะเรื่องจะได้จบเร็ว ซึ่งเท่าที่ติดตามสถานการณ์ คิดว่าแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องมีการพูดคุยหารือกัน เพราะอยู่ ดีๆ จะให้ตำรวจจับกุม พล.ต.จำลองได้อย่างไร เพราะรู้ทั้งรู้ว่าตำรวจเพิ่งจะจับนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ไปก่อนหน้านี้
"การจับกุม พล.ต.จำลอง ถือเป็นเจตนาของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะรู้อยู่แล้วว่า ออกไปก็จะถูกจับ เมื่อคืน (4 ต.ค.) เห็นพล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล ประกาศลั่นว่า จะไม่ไปเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เพราะรู้อยู่ว่าตำรวจจะจับกุม แต่นี่อยู่ ๆ ก็ออกไปให้ตำรวจเขาจับ แสดงว่ามีเจตนา มีการวางแผนกันอยู่ แต่ผมไม่รู้หรอกว่า เขามีการวางแผนกันอย่างไร เพราะตั้งแต่เขาประกาศไม่เอาผม ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย" พล.อ.พัลลภกล่าว
เมื่อถามว่า จุดมุ่งหวังที่ต้องการเรียกมวลชนเข้ามาสมทบเกรงว่าจะเกิดปัญหาลุกลามบานปลายหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องติดตามดูการเคลื่อนไหวของแกนนำพันธมิตรฯ ที่เหลือยู่ ส่วนการจับกุม พล.ต.จำลอง เพื่อเป็นเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าจะรุกมากขนาดไหน แต่ตนคิดว่า แกนนำก็เป็นแกนนำเก่า และมีการชุมนุมแบบอหิงสา จะมีมวลชนมามากเท่าไร ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเขาไม่ได้รุกรบ
เมื่อถามว่า การเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่าง พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ กับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ล้มเหลว พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้น่าจะจบ หรือ คว่ำโต๊ะไปได้เลย เพราะเมื่อทางกลุ่มพันธมิตรฯ เดิมเกมให้ พล.ต.จำลอง ถูกจับ การเจรจาก็ไม่ต้องพูดถึง
"ผมคุยกับพล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ (เสธ.หมึก) นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ก็บอกว่าของกูจบแล้ว เจรจาไม่ได้แล้ว และพล.ต.จำลอง มาโดนจับแบบนี้ด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปเจรจากับใคร เพราะพล.อ.ชวลิต รู้จักและสนิทสนมกับพล.ต.จำลองเท่านั้น ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ไม่ได้สนิทด้วย" พล.อ.พัลลภ ระบุ
**น้อยใจไม่เป็นแกนนำฯรุ่น2
เมื่อถามว่าสัญญาที่ให้ไว้กับพล.ต.จำลอง ว่าหากตำรวจจับกุม พร้อมที่จะเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ รุ่น 2 นั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรฯ และเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีประกาศลั่นว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ รุ่น 2 มีเพียง 3 คน โดยที่ไม่มีรายชื่อตนอยู่ด้วย
"ผมโทรศัพท์ไปถาม พล.ต.จำลอง ซึ่งพล.ต.จำลอง ก็บอกเหตุผลกับผมว่า การที่ไม่มีชื่อผมอยู่ในรุ่น 2 เพราะว่าทางคณะกรรมการของกลุ่มพันธมิตรฯ มีการหารือกันแล้ว ในเมื่อเขาไม่เอาผม ผมก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไร และสัญญิงสัญญาที่เคยให้ไว้กับพล.ต.จำลอง ได้ประกาศไว้ก็จบลงไปด้วย และไม่มีพันธะใดๆ อีก เพราะเมื่อเขาประกาศไม่มีผมอยู่ในรุ่น 2 ก็ถือว่าทุกอย่างจบลงไปทั้งหมด" พล.อ.พัลลภกล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.อ. พัลลภ ยอมรับว่าน้อยใจเหมือนกัน แต่ในเมื่อเขาไม่เอา เราก็ไม่ง้อ เพราะตนง้อคนไม่เป็น ต่อไปคงไม่สนใจอะไร ก็คงเล่นกอล์ฟเหมือนเดิม และจะหาเวลา หรือโอกาสไปเยี่ยม พล.ต.จำลอง ในฐานะเพื่อน จปร.7 ด้วยกัน
**"บิ๊กสุ"ให้มหาจำลองยุติบทบาท
พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวกลางเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯว่า น่าจะดีขึ้นทั้งสองฝ่ายจะต้องเห็นแก่ประเทศชาติ ประชาชนเอือมระอากับสถานการณ์เช่นนี้ คิดว่าน่าจะดีขึ้น ในส่วนของ พล.อ.ชวลิต ท่านเป็นนักประสาน เป็นคนทำงานด้านการประสานงานได้ดี คิดว่าท่านคงประสบความสำเร็จ ในส่วนของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ นั้น ท่านอายุมากแล้วและก็เหนื่อยเต็มที ควรจะหยุดติบทบาทได้แล้ว
--------------------------
