รัฐตำรวจภายใต้รัฐบาลนอมินีทักษิณ ใช้อำนาจเถื่อนจับ "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์” 1 ใน 9 แกนนำที่ถูกยัดข้อหากบฎ ด้าน"สนธิ"ลั่นไม่กลัวหมายจับ เพราะขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ พร้อมขอตายเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เตือนรัฐบาลจ้องล้มสถาบันฯ เหตุ"ชัย ชิดชอบ" นำร่างแก้ไขรธน.ฉบับ"แก๊งนปก." ที่มีเนื้อหายุบองคมนตรี เข้าสภา "จำลอง"ยันปักหลักทำเนียบฯไม่หลงคารม"สมชาย" ด้าน "ไชยวัฒน์" ไม่หวั่นไหวที่ถูกรวบ ส่วนพันธมิตรภูมิภาค ตบเท้าเข้ากรุงฯ "โกวิท" ผวา มือตบ ยกเลิกไปสักการะกรมหลวงชุมพร
รัฐตำรวจในยุครัฐบาล"สมชาย วงศ์สวัสดิ์ " น้องเขยแม้ว ได้ปฏิบัติการกดดันกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หลังจากก่อนหน้ารัฐบาล"สมัคร สุนทรเวช" กล่าวหา 9 แกนนำพันธมิตรฯ เป็นกบฏ
ล่าสุดวานนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับในข้อกบฏ ขณะที่นายไชยวัฒน์
เดินทางออกจากบ้านพัก นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ย่านซอยราชครู ถนนพระราม 6 และกำลังจะขึ้นทางด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักรออยู่ได้เข้าควบคุมตัว นายไชยวัฒน์ ทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า นายตำรวจโดยพ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี นำกำลังเจ้าหน้าตำรวจเข้าจับกุมนายไชยวัฒน์ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชากลงจากรถยนต์ส่วนตัวบนทางด่วน ซึ่งมีตำรวจล้อมนายไชยวัฒน์กว่า 30 คน ก่อนจับกุมตัวไปควบคุมไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 จ.ปทุมธานี ซึ่งเคยเป็นที่คุมขังนักรบศรีวิชัย หลังเกิดเหตุบุกเอ็นบีที ทั้งที่หมายจับนายไชยวัฒน์พร้อมอีก 8 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อกบฏเป็นการเสนอขอจาก สน.นางเลิ้ง
สำหรับคดีดังกล่าวตำรวจได้ตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 51 หลังจากพันธมิตรฯ ประกาศยุทธการเป่านกหวีดครั้งสุดท้าย เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ทำให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายพิภพ ธงไชย , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตรฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา ซึ่งความคืบหน้าของคดีนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องอุทธรณ์หมายจับของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 คนแล้ว
แหล่งข่าวระบุว่า นายไชยวัฒน์จะไม่ดำเนินการขอประกันตัว แต่จะต่อสู้กรณีการออกหมายจับข้อกบฎโดยมิชอบ นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวก็กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์หมายจับต่อศาลอยู่ด้วย ดังนั้นจึงขอต่อสู้ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการกระทำโดยมิชอบ
"สนธิ"ลั่นไม่กลัวหมายจับกบฎ
ขอสู้ตายปกป้องสถาบันฯ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯประกาศชัดว่า หมายจับแกนนำพันธมตรฯเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากรัฐบาลได้ร่วมมือกับตำรวจและใช้ศาลเป็นเครื่องมือในการ ออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯในฐานะกบฎ ซึ่งตามหลักของกฎหมายแล้ว การจะเป็นกบฎก็ต่อเมื่อมีการสะสมอาวุธและจ้องล้มล้างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ กำลังเดินหน้าให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่านายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่เคยแสดงจุดยืนในเรื่องของการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่กลับระบุว่า เป็นเรื่องของสภา ยิ่งโดยเฉพาะการที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.(หรือนปก.) ซึ่งก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า นพ.เหวง ก็อยู่ในระบอบของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งการผลักดันเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภา ก็เนื่องจากในเดือนนี้ ในวันที่ 21
ต.ค.นี้ จะมีการพิพากษาจำคุกพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
" วันนี้ (4) จะมีการส่งนายไชยวัฒน์ ไปขึ้นศาลอาญา ซึ่งทนายความของพันธมิตรฯจะไปคัดค้าน ซึ่งเรื่องหมายจับฐานกบฎนั้น ผมไม่เคยรับ และไม่รับด้วย และไม่เคยกลัว ตอนนี้ผมมี 40 กว่าคดีในศาล มีคำพิพากษามาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินคดีอีก แต่ไม่มีอะไรจะกลัวอีกแล้ว ตายเป็นตาย สู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และอยากฝากบอกทายาทอสูรรุ่นที่ 2 ว่า ตนผ่านการกลั่นแกล้ง เจอเหตุการณ์ร้ายๆกับตนเองมาแล้วตั้งแต่สมัยทักษิณมาแล้ว อยากบอกว่า คนที่ใจเป็นสัตว์ ก็มีแต่ขู่คน แล้วเราจะกลัวทำไหม แต่เราต้องกลัวเรื่องการสิ้นชาติมากกว่า ยิ่งรัฐบาลที่เป็นโจร เอาคนชั่วมานั่งตำแหน่ง รัฐบาลที่ขายอธิปไตยให้แก่เขมร รัฐบาลที่โกงชาติโกงแผ่นดิน รังแกคนที่รักชาติบ้านเมือง อย่างอหิงสา ขอให้รัฐบาลชุดนี้ มีอันเป็นไป ดังนั้น หากไล่เรียงลำดับเหตุการณ์แล้ว จะเห็นได้ว่า การจับนายไชยวัฒน์ เหตุการณ์ของนพ.เหวง การที่นายชัย ชิดชอบนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภา และการไม่คัดค้านของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า พวกเราต้องมาชุมนุมที่นี้ต่อไป"นายสนธิกล่าว พร้อมลั่นว่า
นี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย สุดท้ายแล้ว ถึงเวลาที่ต้องล้างบ้านล้างเมือง เอาศีลธรรมกลับมาสู่บ้านเมือง และเอาพวกที่คิดไม่ดีกับชาติบ้านเมืองให้ออกไปจากประวัติศาสตร์ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการต่อสู้ของพ.ต.ท.ทักษิณกับราชบัลลังก์ ซึ่งผมเลือกข้างมานานแล้วว่า เราเลือกอยู่ใต้ร่มโพธิ์สถาบันกษัตริย์ ประชาชน ทหาร ตำรวจ ใครเลือกอยู่ข้างผม ก็ต้องเดินออกมา
" อยากถามพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ทำไหมไม่มีความเห็นกรณีการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนพ.เหวง ที่กำลังล้มล้างองคมนตรี โดยมีนายชัยชิดชอบดำเนินการ ตรงนี้ทำไหมพลเอก
ชวลิต ถึงไม่มีความเห็นอะไร การจะมาบอกว่า หน้าตาของประเทศเสียหาย ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีหน้าตาอะไรเหลืออยู่แล้ว ตั้งแต่ยุคสมัยของนายสมัคร สุนทรเวช จนมาถึงทายาทอสูรรุ่นที่ 2 เรื่องชาติบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และไม่ต้องกลัวเรื่องโดนจับ และอยากจะเตือนพลเอกชวลิตว่า เห็นหรือไม่ สมัคร สุนทรเวช วันนี้อยู่ที่สภา โดดเดี่ยวเดียวดาย แล้วอนาคตของสมชาย และของพลเอกชวลิต ก็จะไม่ดีไปกว่าพวกนี้ "
ใบสั่งการเมืองรวบตัว"ไชยวัฒน์”
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งใน 5 แกนนำพันธมิตรฯได้สั่งให้โฆษกบนเวทีว่า อย่าปลุกระดมให้ประชาชนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลและอยู่ทางบ้าน หรืออยู่ต่างจังหวัดไปกดดัน หรือไปชุมนุมบริเวณที่คุมขัง นายไชยวัฒน์ หรือไปชุมนุมประท้วงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้สถานการณ์กลับมาตึงเครียด จนรัฐบาลฉวยโอกาสประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นมา และใช้เป็นข้ออ้างในการสลายการชุมนุม
"สุริยะใส"เฉ่งตร.ไม่มีอำนาจจับกุม
เหตุศาลไต่สวนขัดกม.หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯที่ถูกข้อหากบฏ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ได้อยู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ได้ส่งแถลงการณ์ถึงผู้สื่อข่าวทางอีเมล์ มีเนื้อหาว่า ผมได้รับแจ้งจากคนใกล้ชิดนายไชยวุฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 ผู้ต้องหาที่โดนหมายจับคดีกบฏในราชอาราจักรว่า ภายหลังคุณไชยวัฒน์ ลงจากเวทีปราศรัยช่วงเที่ยงๆ พอช่วงบ่ายก็เดินทางออกไปทำธุระนอกทำเนียบจนถูกตำรวจสายสืบจับกุมตัวในระหว่างเดินทางที่ย่าน ถ.พระราม 6 และนำตัวไปควบคุมไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ในเบื้องต้นแกนนำพันธมิตรฯ ได้มอบหมายให้ทีมทนายความนำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ไป ติดต่อเพื่อเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ เพราะปัญหาเรื่องการออกหมายจับข้อหากบฎครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อยุติว่าชอบธรรมหรือไม่ เพราะทางผู้ต้องหาทั้ง 9 ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อให้เพิกถอนหมายจับและศาลอุทธรณ์กำลังไต่สวนว่าหมายจับชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ซึ่งคาดว่าสัปดาห์ศาลอุทธรณ์จะอ่านคำสั่ง
ฉะนั้นในระหว่างนี้ตำรวจจึงไม่มีอำนาจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เนื่องจากต้องรอศาลอ่านคำสั่งก่อนว่าหมายจับชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้จึงถือเป็นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งตำรวจจะต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่ได้รับไฟเขียวจากฝ่ายการเมืองตำรวจคงไม่กล้าจับกุม
รัฐบาลทำลายความสมานฉันท์
นายสุริยะใส กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าทำลายบรรยากาศของการสมานฉันท์อย่างรุนแรง เพราะสังคมกำลังคาดหวังผลการเจรจาระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดีพอสมควร และพันธมิตรก็ไม่เคยยกเรื่องหมายจับมาเป็นเงื่อนไขของการเจรจาครั้งนี้ เพราะพวกเรามั่นใจว่าข้อหากบฎเป็นข้อหาที่เกินเลยและมิชอบ
“เหตุการณ์จับกุมคุณไชยวัฒน์ ถือว่ากระทบการเจรจาหรืออาจถึงขั้นสะดุดหยุดลงได้ในที่สุด เพราะรัฐบาลไม่ได้จริงใจสมานฉันท์ตีสองหน้าปากบอกว่าจะสมานฉันท์ แต่ลับหลังก็ใช้อำนาจรัฐรังแกประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวโดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นนโยบายสมานฉันท์จอมปลอมและอาจเป็นไปได้ที่การจับกุมครั้งนี้เป็นเกมการเมืองในรัฐบาลนอมินีเพื่อตบหน้า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งหากเจรจาพันธมิตรฯสำเร็จบทบาท พล.อ.ชวลิต จะโดดเด่นขึ้นทันที ส่วนเรื่องนี้ 5 แกนนำรอการเจรจาของทีมทนายก่อน แต่ก็คงมีประชาชนจำนวนมากทยอยไปเยี่ยมนายไชยวัฒน์ ซึ่งตำรวจก็ต้องรับมือเอาเอง”แถลงการณ์นายสุริยะใส ระบุ
และเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีความสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีอำนาจเต็มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ดังนั้น
ผลงานครั้งแรกคือการจับกุม 1 ใน 9 กบฏ ซึ่งตรงนี้ไม่รู้ว่าเป็นการเอาใจนาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะพันธมิตรฯ คลางแคลงใจ และเกรงว่าจะกระทบกับบรรยากาศการเจรจาได้
ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นว่า ความไว้วางใจรัฐบาลและพันธมิตรฯมีน้อยลง ส่วนตัวไม่กลัวถูกจับกุม และยังไม่มีความเห็นในเรื่องการเคลื่อนขบวนไปยังสนามหลวง
เกมส์สร้างความปั่นป่วนสลายชุมนุม
นายเทิดภูมิ ใจดี เป็นหนึ่งใน 9 แกนนำที่ถูกออกจับ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามแกนนำทุกคนที่โดนข้อหากบฏเพื่อที่จะเข้าจับกุมตัวให้ได้ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามคำสั่งของนายใหญ่ที่อยู่ลอนดอน ซึ่งนายสมชาย เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่รับคำสั่งจากนายใหญ่ ไม่มีอำนาจและไม่มีสิทธิในการตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น ต่อจากนี้ไปรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายใหญ่ได้กลับมาประเทศไทย โดยสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายทุกอย่างจนนำไปสู่การปฏิวัติ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวย้ำว่า หากแกนนำทั้งหมดถูกจับก็ได้ประกาศตั้งแกนนำรุ่น 2 ไว้แล้ว ซึ่งทางพันธมิตรฯได้ประกาศตลอดเวลาว่า ให้มาจับแกนนำภายในทำเนียบรัฐบาลได้เลย และได้ประกาศกับพันธมิตรฯทั่วประเทศๆ ไปแล้ว ถ้าแกนนำถูกจับเมื่อไหร่ให้มาปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาลชุมนุมขับไล่รัฐบาลต่อไป เพราะการปักหลักที่ทำเนียบฯเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขับไล่รัฐบาลนอมินี ซึ่งทำให้เราได้รับชัยชนะในที่สุด
"พันธมิตรฯจะต้องยึดมั่นใน 3 ประเด็นหลัก คือ ขับไล่รัฐบาลนอมินี ห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้อง สุดท้ายจะต้องทำให้การเมืองใหม่เกิดขึ้นให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะต้องทำให้ทั้ง 3 ข้อบรรลุเป้าหมายทั้งหมด"
"จิ๋ว"ระบุตำรวจทำตามหน้าที่
ขณะที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แผนของรัฐบาล ถ้าเจอตัวก็ต้องจับ ถ้าไม่จับจะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สถานการณ์ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการพูดจา ซึ่งในกรณีนี้ตนคิดว่าเมื่อมีแจ้งให้จับ ตำรวจก็ต้องจับ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการเจรจากับพันธมิตรฯนั้น เท่าที่ทราบคือ พันธมิตรฯขอเวลา 1-2 วัน หากมันยุติลงได้ก็ไม่มีปัญหา
"ไชยวัฒน์"ขอบคุณทุกกำลังใจลั่นสู้ไม่ถอย
เมื่อเวลา 19.25 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 พันธมิตรฯที่ถูกออกหมายจับได้ขึ้นเวทีเพื่อแจ้งว่า ขณะนี้ นายไชยวัฒน์ มีกำลังใจดี พร้อมสู้ต่อไป และขอขอบคุณทุกคนที่มีความเห็นห่วง
พธม.เข้ากรุงหลัง"ไชยวัฒน์"ถูกจับ
น.ส.ภูษณิศา ใจธรรม พันธมิตรฯศรีราชา เผยถึงกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯซึ่งถูกจับกุมวานนี้ว่า จะต้องมีประชาชนเข้าไปร่วมการชุมนุมมากขึ้นแน่นอน รัฐบาลอย่าไปคิดว่าเมื่อสามารถจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯได้ เรื่องทุกอย่างมันจะจบลงด้วยดี ไม่มีทาง ยังไงพันธมิตรฯก็เตรียมแกนนำอีกชุดไว้พร้อมแล้ว แต่อย่าคิดว่าจะใช้อำนาจทางการเมืองมาจับใครตอนไหนก็ได้ ไม่มีทาง กล้าหรือเปล่าที่จะเข้ามาจับในทำเนียบรัฐบาล เพราะเห็นว่า 5 แกนนำประกาศว่า ให้มาจับได้เลย
"น่าจะรู้ดีว่าถ้ามาจับแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ลองดูพลังของประชาชนที่ชุมนุมอยู่จะยอมให้เดินเข้ามาจับได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าขาด 5 แกนนำพันธมิตรฯด้วยแล้ว รับรองว่าความรุนแรงจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะไม่มีคนคอยห้ามปราม คอยเตือน ขาดคนที่เป็นผู้นำ ทำให้ประชาชนอาจกระทำการใด ๆ โดยไม่ได้คิดก็เป็นได้ ตอนนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯที่เดินทางไปจากศรีราชา ก็ประกาศมาแล้วว่า ถ้าไม่ได้รับชัยชนะจะไม่ยอมเดินทางกลับมาบ้านอย่างแน่นอน "
นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำพันธมิตรฯจ.ชุมพร และผู้ประสานงานพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ทางพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ขอเรียกร้องให้สตช. ปล่อยตัวนายไชยวัฒน์โดยไม่มีเงื่อนไข มิเช่นนั้น พันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เพื่อกดดันรัฐบาลในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
แฉ"ชัย"ดันรธน.ฉบับนปก.เข้าสภา
พล.ต.จำลอง กล่าวยืนยันว่า พันธมิตรฯจะไม่ออกจากทำเนียบรัฐบาลตามที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงข่าว เนื่องจากยังไม่มีการเจรจาตกลงใดๆ แต่ถ้าหากนายกรัฐมนตรี ต้องการเจรจาให้ต่อสายตรงกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ แต่เชื่อว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นภายหลังจากการที่รัฐบาลแถลงนโยบายกับรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย
"การเจรจาพูดคุยกันนายกฯได้มอบหมายให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลการชุมนุมทั้งหมด ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด เราเองยังไม่มีประเด็นข้อเรียกร้องในการเจรจา เพราะต้องรอให้ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้กำหนดรายละเอียดก่อน" พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.) ฉบับของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.(หรือนปก.) เป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงระหว่างรัฐสภากับรัฐบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายชัย ชิดชอบ อ้างว่าได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมไว้นานแล้ว ในขณะที่รัฐบาลตั้งใจจะแถลงเป็นนโยบายให้มีการปฏิรูปการเมือง โดยต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้ง สสร.3 เรื่องนี้ทางพันธมิตรฯ ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลกับรัฐสภาจะตกลงกันได้อย่างไร การที่รัฐบาลจะมาบอกว่า เป็นหน้าที่ของสภานั้น คิดว่าไม่ได้ เนื่องจากนายสมชาย เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นหัวหน้าพรรคที่ถือเป็นพรรคใหญ่สุดของรัฐบาล จะต้องออกมาแสดงความชัดเจนด้วย
" เราไม่ยอมที่รัฐบาลชุดนี้จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะฉบับป่วนเมือง ที่กำลังบั่นทอนสถาบัน โดยจะมีการแก้ไขและยุบคณะองคมนตรี "
ล่าสุดพล.ต.จำลอง ทราบข่าวว่าสหภาพแรงงานทั่วโลก ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวที่สถานทูตไทยประจำประเทศนั้นๆ เพื่อยื่นข้อเสนอยกเลิกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกตั้งข้อหากบฏ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน
" การถูกตั้งข้อหากบฏทำให้ตนซึ่งเคยเป็นอดีตผู้ว่าฯกทม. รางวัลแมกไซไซ ไม่สามารถออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 5 ต.ค.นี้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตำรวจ ทำให้แกนนำพันธมิตรฯทั้ง 3 คนที่ประกอบด้วย นายสนธิ นายพิภพ และ ตน ต้องหมดสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง "
ถก"การเมืองใหม่"ที่มช.อาทิตย์นี้
วานนี้ พันธมิตรเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง "การจัดเวทีวิชาการข้อเสนอต่อสังคมการเมืองใหม่ในยุคปัจจุบัน" โดยมีข้อเสนอดังนี้
1.เราเห็นว่า ข้อเสนอให้มีการแต่งตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.3 ของอธิการบดี 24 สถาบัน นั้น เป็นผลจากการเคลื่อนไหวเรียกร้องเพื่อสร้างการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ซึ่งถูกต้องแล้วที่พันธมิตรฯได้ประกาศว่า จะไม่ร่วมกระบวนการ ส.ส.ร.3 แต่ก็ไม่ปฏิเสธแนวทางของกลุ่มนักวิชาการดังกล่าว
2.เราเห็นว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย ส.ส.ร.3 ในสถานการณ์ขณะนี้นั้น ไม่ได้ตอบสนองต่อกระบวนการสร้างจิตสำนึกทางการเมืองของประชาชน ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ที่ฉ้อฉลทำผิดจริยธรรมนักการเมือง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายครั้งที่ผ่านมา แม้จะมีบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนหลายมาตราก็ตาม แต่การตรวจสอบนักการเมืองหรือรัฐที่ฉ้อฉลก็ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นแม้จะมีการตั้ง ส.ส.ร.3ขึ้นมาก็ไม่สามารถป้องกันนักการเมืองประพฤติชั่วทำผิดกฎหมายได้
3.เราเห็นว่าข้อเสนอที่ว่า "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" ก็ต้องให้ประชาชนทุกคนลุกขึ้นมาจัดการเอง ด้วยการต่อต้านหรือปฏิเสธรัฐบาลที่ฉ้อฉลไม่เป็นประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 69 เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นักการเมืองจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนนักการเมืองด้วยกันเองเพื่อชาติบ้านเมืองได้
4.ดังนั้น พันธมิตรเชียงใหม่จึงได้ร่วมกับสถาบันการจัดการทางสังคมภาคเหนือ และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ จัดเวทีวิชาการครั้งที่ 3 เรื่อง "ข้อเสนอต่อสังคมการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน" ขึ้นในวันที่ 5 ต.ค.51 ที่โรงละครหอศิลปะและวัฒนธรรม ม.เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอทางออกในการแก้ไขปัญหาและจัดการทางสังคมร่วมกัน
สงขลาหนุน"สภาประชาชน"
วันเดียวกัน คณะทำงานพันธมิตรสงขลาได้หารือกัน หลังจากนายสุมิตร นวลมณี หนึ่งในคณะทำงานได้เข้าร่วมประชุมและสัมมนา เรื่อง"การเมืองใหม่"ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา
ณ ทำเนียบรัฐบาล จึงได้นำวาระการประชุมทั้งหมด 8 วาระการประชุม และขอมติจากที่ประชุมจากคณะทำงานพันธมิตรสงขลา โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการมีสภาประชาชน แต่จะมีแค่ในระดับจังหวัดและระดับประเทศเท่านั้น ซึ่งจะเป็นส.ส. 2 ส่วนคือ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งและมาจากกลุ่มอาชีพ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้ นายสุมิตร ซึ่งเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมประชุม จะนำไปเสนอที่ประชุมในวันที่ 5 ต.ค. นี้ ในทำเนียบรัฐบาล
อัดตร.หิ้วหญิงมือตบขึ้นโรงพัก
นายบัณรส บัวคลี่ ผู้ประสานงานพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่นำตัวนางเบญ(สงวนชื่อจริง-นามสกุล) ที่ใช้มือตบบนดอยสุเทพขณะนายสมชาย ปฏิบัติภารกิจอยู่ ไปลงบันทึกประจำวันว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีกว่า ตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าวของตำรวจเป็นการทำเกินกว่าเหตุ และเห็นว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายการละเมิด
ด้านนายมนตรี วงศ์เกษม รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าตนเอง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ(กต.ตร.) สภ.ภูพิงค์ฯ มาหลายสมัย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ตำรวจกระทำกับนางเบญ เนื่องจากรู้สึกอับอายกับการกระทำของตำรวจ
"โกวิท"ผวา"มือตบ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย (มท.1) พร้อมคณะ มีกำหนดการเดินทางไปยัง จ.ชุมพร เป็นการส่วนตัว เพื่อสักการะพระรูป พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ณ พระตำหนักริมหาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงกำหนดการกลับไม่พบเห็นพล.ต.อ.โกวิท และคณะแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของจ.ชุมพรนายหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบว่า พล.ต.อ.โกวิทได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางแล้ว เนื่องจากทราบว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรมาชุมนุมขับไล่ จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น
เผยโฉมครม.Young Pad วันนี้
นายวสันต์ วานิชย์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายนิสิตนักศึกษาเยาวชน กู้ชาติ (Young Pad) แจ้งถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มว่า ในวันเสาร์ที่ 4 ต.ค.นี้ จะมีการตั้งคณะรัฐมนตรีของกลุ่ม Young Pad (ครม.เงา) และร่วมถ่ายภาพที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม.เงา จะประกอบไปด้วย นิสิตนักศึกษาจากสถาบันที่เรียนอยู่ใน คณะต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ คณะแพทย์ศาสตร์ จะตั้งให้เป็น รมว.สาธารณสุข คณะเกษตรฯ จะให้เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนตัวตัวนายกรัฐมนตรีเงา ขอปิดไว้ก่อน นอกจากนี้ในวันที่ 5 ต.ค. จะจัดประชุมสภาเยาวชนนัดแรก ที่ทำการกลุ่ม Young Pad โดยจะมีการระดมความเห็นเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันนักศึกษากลุ่มเดียวกันนี้จะจัดงาน DIT Democracy in Town ที่เวทีสะพานมัฆวาน และตลอดถนนราชดำเนิน ในวันเสาร์ที่ 4 และอาทิตย์ที่ 5 ต.ค.นี้ โดยมีกิจกรรมชื่อว่า “จิตวิญญาณ 6 ตุลา คราบน้ำตา นักศึกษา ประชาชน”
รัฐตำรวจในยุครัฐบาล"สมชาย วงศ์สวัสดิ์ " น้องเขยแม้ว ได้ปฏิบัติการกดดันกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หลังจากก่อนหน้ารัฐบาล"สมัคร สุนทรเวช" กล่าวหา 9 แกนนำพันธมิตรฯ เป็นกบฏ
ล่าสุดวานนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับในข้อกบฏ ขณะที่นายไชยวัฒน์
เดินทางออกจากบ้านพัก นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ย่านซอยราชครู ถนนพระราม 6 และกำลังจะขึ้นทางด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักรออยู่ได้เข้าควบคุมตัว นายไชยวัฒน์ ทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า นายตำรวจโดยพ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี นำกำลังเจ้าหน้าตำรวจเข้าจับกุมนายไชยวัฒน์ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชากลงจากรถยนต์ส่วนตัวบนทางด่วน ซึ่งมีตำรวจล้อมนายไชยวัฒน์กว่า 30 คน ก่อนจับกุมตัวไปควบคุมไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 จ.ปทุมธานี ซึ่งเคยเป็นที่คุมขังนักรบศรีวิชัย หลังเกิดเหตุบุกเอ็นบีที ทั้งที่หมายจับนายไชยวัฒน์พร้อมอีก 8 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อกบฏเป็นการเสนอขอจาก สน.นางเลิ้ง
สำหรับคดีดังกล่าวตำรวจได้ตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 51 หลังจากพันธมิตรฯ ประกาศยุทธการเป่านกหวีดครั้งสุดท้าย เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ทำให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายพิภพ ธงไชย , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตรฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา ซึ่งความคืบหน้าของคดีนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องอุทธรณ์หมายจับของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 คนแล้ว
แหล่งข่าวระบุว่า นายไชยวัฒน์จะไม่ดำเนินการขอประกันตัว แต่จะต่อสู้กรณีการออกหมายจับข้อกบฎโดยมิชอบ นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวก็กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์หมายจับต่อศาลอยู่ด้วย ดังนั้นจึงขอต่อสู้ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการกระทำโดยมิชอบ
"สนธิ"ลั่นไม่กลัวหมายจับกบฎ
ขอสู้ตายปกป้องสถาบันฯ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯประกาศชัดว่า หมายจับแกนนำพันธมตรฯเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากรัฐบาลได้ร่วมมือกับตำรวจและใช้ศาลเป็นเครื่องมือในการ ออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯในฐานะกบฎ ซึ่งตามหลักของกฎหมายแล้ว การจะเป็นกบฎก็ต่อเมื่อมีการสะสมอาวุธและจ้องล้มล้างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ กำลังเดินหน้าให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่านายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่เคยแสดงจุดยืนในเรื่องของการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่กลับระบุว่า เป็นเรื่องของสภา ยิ่งโดยเฉพาะการที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.(หรือนปก.) ซึ่งก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า นพ.เหวง ก็อยู่ในระบอบของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งการผลักดันเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภา ก็เนื่องจากในเดือนนี้ ในวันที่ 21
ต.ค.นี้ จะมีการพิพากษาจำคุกพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
" วันนี้ (4) จะมีการส่งนายไชยวัฒน์ ไปขึ้นศาลอาญา ซึ่งทนายความของพันธมิตรฯจะไปคัดค้าน ซึ่งเรื่องหมายจับฐานกบฎนั้น ผมไม่เคยรับ และไม่รับด้วย และไม่เคยกลัว ตอนนี้ผมมี 40 กว่าคดีในศาล มีคำพิพากษามาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินคดีอีก แต่ไม่มีอะไรจะกลัวอีกแล้ว ตายเป็นตาย สู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และอยากฝากบอกทายาทอสูรรุ่นที่ 2 ว่า ตนผ่านการกลั่นแกล้ง เจอเหตุการณ์ร้ายๆกับตนเองมาแล้วตั้งแต่สมัยทักษิณมาแล้ว อยากบอกว่า คนที่ใจเป็นสัตว์ ก็มีแต่ขู่คน แล้วเราจะกลัวทำไหม แต่เราต้องกลัวเรื่องการสิ้นชาติมากกว่า ยิ่งรัฐบาลที่เป็นโจร เอาคนชั่วมานั่งตำแหน่ง รัฐบาลที่ขายอธิปไตยให้แก่เขมร รัฐบาลที่โกงชาติโกงแผ่นดิน รังแกคนที่รักชาติบ้านเมือง อย่างอหิงสา ขอให้รัฐบาลชุดนี้ มีอันเป็นไป ดังนั้น หากไล่เรียงลำดับเหตุการณ์แล้ว จะเห็นได้ว่า การจับนายไชยวัฒน์ เหตุการณ์ของนพ.เหวง การที่นายชัย ชิดชอบนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภา และการไม่คัดค้านของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า พวกเราต้องมาชุมนุมที่นี้ต่อไป"นายสนธิกล่าว พร้อมลั่นว่า
นี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย สุดท้ายแล้ว ถึงเวลาที่ต้องล้างบ้านล้างเมือง เอาศีลธรรมกลับมาสู่บ้านเมือง และเอาพวกที่คิดไม่ดีกับชาติบ้านเมืองให้ออกไปจากประวัติศาสตร์ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการต่อสู้ของพ.ต.ท.ทักษิณกับราชบัลลังก์ ซึ่งผมเลือกข้างมานานแล้วว่า เราเลือกอยู่ใต้ร่มโพธิ์สถาบันกษัตริย์ ประชาชน ทหาร ตำรวจ ใครเลือกอยู่ข้างผม ก็ต้องเดินออกมา
" อยากถามพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ทำไหมไม่มีความเห็นกรณีการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนพ.เหวง ที่กำลังล้มล้างองคมนตรี โดยมีนายชัยชิดชอบดำเนินการ ตรงนี้ทำไหมพลเอก
ชวลิต ถึงไม่มีความเห็นอะไร การจะมาบอกว่า หน้าตาของประเทศเสียหาย ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีหน้าตาอะไรเหลืออยู่แล้ว ตั้งแต่ยุคสมัยของนายสมัคร สุนทรเวช จนมาถึงทายาทอสูรรุ่นที่ 2 เรื่องชาติบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และไม่ต้องกลัวเรื่องโดนจับ และอยากจะเตือนพลเอกชวลิตว่า เห็นหรือไม่ สมัคร สุนทรเวช วันนี้อยู่ที่สภา โดดเดี่ยวเดียวดาย แล้วอนาคตของสมชาย และของพลเอกชวลิต ก็จะไม่ดีไปกว่าพวกนี้ "
ใบสั่งการเมืองรวบตัว"ไชยวัฒน์”
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งใน 5 แกนนำพันธมิตรฯได้สั่งให้โฆษกบนเวทีว่า อย่าปลุกระดมให้ประชาชนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลและอยู่ทางบ้าน หรืออยู่ต่างจังหวัดไปกดดัน หรือไปชุมนุมบริเวณที่คุมขัง นายไชยวัฒน์ หรือไปชุมนุมประท้วงหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้สถานการณ์กลับมาตึงเครียด จนรัฐบาลฉวยโอกาสประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นมา และใช้เป็นข้ออ้างในการสลายการชุมนุม
"สุริยะใส"เฉ่งตร.ไม่มีอำนาจจับกุม
เหตุศาลไต่สวนขัดกม.หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯที่ถูกข้อหากบฏ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ได้อยู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ได้ส่งแถลงการณ์ถึงผู้สื่อข่าวทางอีเมล์ มีเนื้อหาว่า ผมได้รับแจ้งจากคนใกล้ชิดนายไชยวุฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 ผู้ต้องหาที่โดนหมายจับคดีกบฏในราชอาราจักรว่า ภายหลังคุณไชยวัฒน์ ลงจากเวทีปราศรัยช่วงเที่ยงๆ พอช่วงบ่ายก็เดินทางออกไปทำธุระนอกทำเนียบจนถูกตำรวจสายสืบจับกุมตัวในระหว่างเดินทางที่ย่าน ถ.พระราม 6 และนำตัวไปควบคุมไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ในเบื้องต้นแกนนำพันธมิตรฯ ได้มอบหมายให้ทีมทนายความนำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ไป ติดต่อเพื่อเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ เพราะปัญหาเรื่องการออกหมายจับข้อหากบฎครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อยุติว่าชอบธรรมหรือไม่ เพราะทางผู้ต้องหาทั้ง 9 ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อให้เพิกถอนหมายจับและศาลอุทธรณ์กำลังไต่สวนว่าหมายจับชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ซึ่งคาดว่าสัปดาห์ศาลอุทธรณ์จะอ่านคำสั่ง
ฉะนั้นในระหว่างนี้ตำรวจจึงไม่มีอำนาจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เนื่องจากต้องรอศาลอ่านคำสั่งก่อนว่าหมายจับชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้จึงถือเป็นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งตำรวจจะต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่ได้รับไฟเขียวจากฝ่ายการเมืองตำรวจคงไม่กล้าจับกุม
รัฐบาลทำลายความสมานฉันท์
นายสุริยะใส กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าทำลายบรรยากาศของการสมานฉันท์อย่างรุนแรง เพราะสังคมกำลังคาดหวังผลการเจรจาระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดีพอสมควร และพันธมิตรก็ไม่เคยยกเรื่องหมายจับมาเป็นเงื่อนไขของการเจรจาครั้งนี้ เพราะพวกเรามั่นใจว่าข้อหากบฎเป็นข้อหาที่เกินเลยและมิชอบ
“เหตุการณ์จับกุมคุณไชยวัฒน์ ถือว่ากระทบการเจรจาหรืออาจถึงขั้นสะดุดหยุดลงได้ในที่สุด เพราะรัฐบาลไม่ได้จริงใจสมานฉันท์ตีสองหน้าปากบอกว่าจะสมานฉันท์ แต่ลับหลังก็ใช้อำนาจรัฐรังแกประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวโดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นนโยบายสมานฉันท์จอมปลอมและอาจเป็นไปได้ที่การจับกุมครั้งนี้เป็นเกมการเมืองในรัฐบาลนอมินีเพื่อตบหน้า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งหากเจรจาพันธมิตรฯสำเร็จบทบาท พล.อ.ชวลิต จะโดดเด่นขึ้นทันที ส่วนเรื่องนี้ 5 แกนนำรอการเจรจาของทีมทนายก่อน แต่ก็คงมีประชาชนจำนวนมากทยอยไปเยี่ยมนายไชยวัฒน์ ซึ่งตำรวจก็ต้องรับมือเอาเอง”แถลงการณ์นายสุริยะใส ระบุ
และเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีความสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีอำนาจเต็มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ดังนั้น
ผลงานครั้งแรกคือการจับกุม 1 ใน 9 กบฏ ซึ่งตรงนี้ไม่รู้ว่าเป็นการเอาใจนาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะพันธมิตรฯ คลางแคลงใจ และเกรงว่าจะกระทบกับบรรยากาศการเจรจาได้
ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นว่า ความไว้วางใจรัฐบาลและพันธมิตรฯมีน้อยลง ส่วนตัวไม่กลัวถูกจับกุม และยังไม่มีความเห็นในเรื่องการเคลื่อนขบวนไปยังสนามหลวง
เกมส์สร้างความปั่นป่วนสลายชุมนุม
นายเทิดภูมิ ใจดี เป็นหนึ่งใน 9 แกนนำที่ถูกออกจับ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามแกนนำทุกคนที่โดนข้อหากบฏเพื่อที่จะเข้าจับกุมตัวให้ได้ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามคำสั่งของนายใหญ่ที่อยู่ลอนดอน ซึ่งนายสมชาย เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่รับคำสั่งจากนายใหญ่ ไม่มีอำนาจและไม่มีสิทธิในการตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น ต่อจากนี้ไปรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายใหญ่ได้กลับมาประเทศไทย โดยสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายทุกอย่างจนนำไปสู่การปฏิวัติ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวย้ำว่า หากแกนนำทั้งหมดถูกจับก็ได้ประกาศตั้งแกนนำรุ่น 2 ไว้แล้ว ซึ่งทางพันธมิตรฯได้ประกาศตลอดเวลาว่า ให้มาจับแกนนำภายในทำเนียบรัฐบาลได้เลย และได้ประกาศกับพันธมิตรฯทั่วประเทศๆ ไปแล้ว ถ้าแกนนำถูกจับเมื่อไหร่ให้มาปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาลชุมนุมขับไล่รัฐบาลต่อไป เพราะการปักหลักที่ทำเนียบฯเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขับไล่รัฐบาลนอมินี ซึ่งทำให้เราได้รับชัยชนะในที่สุด
"พันธมิตรฯจะต้องยึดมั่นใน 3 ประเด็นหลัก คือ ขับไล่รัฐบาลนอมินี ห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้อง สุดท้ายจะต้องทำให้การเมืองใหม่เกิดขึ้นให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะต้องทำให้ทั้ง 3 ข้อบรรลุเป้าหมายทั้งหมด"
"จิ๋ว"ระบุตำรวจทำตามหน้าที่
ขณะที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แผนของรัฐบาล ถ้าเจอตัวก็ต้องจับ ถ้าไม่จับจะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สถานการณ์ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการพูดจา ซึ่งในกรณีนี้ตนคิดว่าเมื่อมีแจ้งให้จับ ตำรวจก็ต้องจับ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการเจรจากับพันธมิตรฯนั้น เท่าที่ทราบคือ พันธมิตรฯขอเวลา 1-2 วัน หากมันยุติลงได้ก็ไม่มีปัญหา
"ไชยวัฒน์"ขอบคุณทุกกำลังใจลั่นสู้ไม่ถอย
เมื่อเวลา 19.25 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 พันธมิตรฯที่ถูกออกหมายจับได้ขึ้นเวทีเพื่อแจ้งว่า ขณะนี้ นายไชยวัฒน์ มีกำลังใจดี พร้อมสู้ต่อไป และขอขอบคุณทุกคนที่มีความเห็นห่วง
พธม.เข้ากรุงหลัง"ไชยวัฒน์"ถูกจับ
น.ส.ภูษณิศา ใจธรรม พันธมิตรฯศรีราชา เผยถึงกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 1 ใน 9 แกนนำพันธมิตรฯซึ่งถูกจับกุมวานนี้ว่า จะต้องมีประชาชนเข้าไปร่วมการชุมนุมมากขึ้นแน่นอน รัฐบาลอย่าไปคิดว่าเมื่อสามารถจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯได้ เรื่องทุกอย่างมันจะจบลงด้วยดี ไม่มีทาง ยังไงพันธมิตรฯก็เตรียมแกนนำอีกชุดไว้พร้อมแล้ว แต่อย่าคิดว่าจะใช้อำนาจทางการเมืองมาจับใครตอนไหนก็ได้ ไม่มีทาง กล้าหรือเปล่าที่จะเข้ามาจับในทำเนียบรัฐบาล เพราะเห็นว่า 5 แกนนำประกาศว่า ให้มาจับได้เลย
"น่าจะรู้ดีว่าถ้ามาจับแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ลองดูพลังของประชาชนที่ชุมนุมอยู่จะยอมให้เดินเข้ามาจับได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าขาด 5 แกนนำพันธมิตรฯด้วยแล้ว รับรองว่าความรุนแรงจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะไม่มีคนคอยห้ามปราม คอยเตือน ขาดคนที่เป็นผู้นำ ทำให้ประชาชนอาจกระทำการใด ๆ โดยไม่ได้คิดก็เป็นได้ ตอนนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯที่เดินทางไปจากศรีราชา ก็ประกาศมาแล้วว่า ถ้าไม่ได้รับชัยชนะจะไม่ยอมเดินทางกลับมาบ้านอย่างแน่นอน "
นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำพันธมิตรฯจ.ชุมพร และผู้ประสานงานพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ทางพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ขอเรียกร้องให้สตช. ปล่อยตัวนายไชยวัฒน์โดยไม่มีเงื่อนไข มิเช่นนั้น พันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เพื่อกดดันรัฐบาลในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
แฉ"ชัย"ดันรธน.ฉบับนปก.เข้าสภา
พล.ต.จำลอง กล่าวยืนยันว่า พันธมิตรฯจะไม่ออกจากทำเนียบรัฐบาลตามที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงข่าว เนื่องจากยังไม่มีการเจรจาตกลงใดๆ แต่ถ้าหากนายกรัฐมนตรี ต้องการเจรจาให้ต่อสายตรงกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ แต่เชื่อว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นภายหลังจากการที่รัฐบาลแถลงนโยบายกับรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย
"การเจรจาพูดคุยกันนายกฯได้มอบหมายให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลการชุมนุมทั้งหมด ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด เราเองยังไม่มีประเด็นข้อเรียกร้องในการเจรจา เพราะต้องรอให้ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้กำหนดรายละเอียดก่อน" พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.) ฉบับของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.(หรือนปก.) เป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงระหว่างรัฐสภากับรัฐบาล ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายชัย ชิดชอบ อ้างว่าได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมไว้นานแล้ว ในขณะที่รัฐบาลตั้งใจจะแถลงเป็นนโยบายให้มีการปฏิรูปการเมือง โดยต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้ง สสร.3 เรื่องนี้ทางพันธมิตรฯ ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลกับรัฐสภาจะตกลงกันได้อย่างไร การที่รัฐบาลจะมาบอกว่า เป็นหน้าที่ของสภานั้น คิดว่าไม่ได้ เนื่องจากนายสมชาย เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นหัวหน้าพรรคที่ถือเป็นพรรคใหญ่สุดของรัฐบาล จะต้องออกมาแสดงความชัดเจนด้วย
" เราไม่ยอมที่รัฐบาลชุดนี้จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะฉบับป่วนเมือง ที่กำลังบั่นทอนสถาบัน โดยจะมีการแก้ไขและยุบคณะองคมนตรี "
ล่าสุดพล.ต.จำลอง ทราบข่าวว่าสหภาพแรงงานทั่วโลก ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวที่สถานทูตไทยประจำประเทศนั้นๆ เพื่อยื่นข้อเสนอยกเลิกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกตั้งข้อหากบฏ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชน
" การถูกตั้งข้อหากบฏทำให้ตนซึ่งเคยเป็นอดีตผู้ว่าฯกทม. รางวัลแมกไซไซ ไม่สามารถออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 5 ต.ค.นี้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตำรวจ ทำให้แกนนำพันธมิตรฯทั้ง 3 คนที่ประกอบด้วย นายสนธิ นายพิภพ และ ตน ต้องหมดสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง "
ถก"การเมืองใหม่"ที่มช.อาทิตย์นี้
วานนี้ พันธมิตรเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง "การจัดเวทีวิชาการข้อเสนอต่อสังคมการเมืองใหม่ในยุคปัจจุบัน" โดยมีข้อเสนอดังนี้
1.เราเห็นว่า ข้อเสนอให้มีการแต่งตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.3 ของอธิการบดี 24 สถาบัน นั้น เป็นผลจากการเคลื่อนไหวเรียกร้องเพื่อสร้างการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ซึ่งถูกต้องแล้วที่พันธมิตรฯได้ประกาศว่า จะไม่ร่วมกระบวนการ ส.ส.ร.3 แต่ก็ไม่ปฏิเสธแนวทางของกลุ่มนักวิชาการดังกล่าว
2.เราเห็นว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย ส.ส.ร.3 ในสถานการณ์ขณะนี้นั้น ไม่ได้ตอบสนองต่อกระบวนการสร้างจิตสำนึกทางการเมืองของประชาชน ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ที่ฉ้อฉลทำผิดจริยธรรมนักการเมือง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายครั้งที่ผ่านมา แม้จะมีบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนหลายมาตราก็ตาม แต่การตรวจสอบนักการเมืองหรือรัฐที่ฉ้อฉลก็ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นแม้จะมีการตั้ง ส.ส.ร.3ขึ้นมาก็ไม่สามารถป้องกันนักการเมืองประพฤติชั่วทำผิดกฎหมายได้
3.เราเห็นว่าข้อเสนอที่ว่า "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" ก็ต้องให้ประชาชนทุกคนลุกขึ้นมาจัดการเอง ด้วยการต่อต้านหรือปฏิเสธรัฐบาลที่ฉ้อฉลไม่เป็นประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 69 เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นักการเมืองจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนนักการเมืองด้วยกันเองเพื่อชาติบ้านเมืองได้
4.ดังนั้น พันธมิตรเชียงใหม่จึงได้ร่วมกับสถาบันการจัดการทางสังคมภาคเหนือ และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ จัดเวทีวิชาการครั้งที่ 3 เรื่อง "ข้อเสนอต่อสังคมการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน" ขึ้นในวันที่ 5 ต.ค.51 ที่โรงละครหอศิลปะและวัฒนธรรม ม.เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอทางออกในการแก้ไขปัญหาและจัดการทางสังคมร่วมกัน
สงขลาหนุน"สภาประชาชน"
วันเดียวกัน คณะทำงานพันธมิตรสงขลาได้หารือกัน หลังจากนายสุมิตร นวลมณี หนึ่งในคณะทำงานได้เข้าร่วมประชุมและสัมมนา เรื่อง"การเมืองใหม่"ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา
ณ ทำเนียบรัฐบาล จึงได้นำวาระการประชุมทั้งหมด 8 วาระการประชุม และขอมติจากที่ประชุมจากคณะทำงานพันธมิตรสงขลา โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการมีสภาประชาชน แต่จะมีแค่ในระดับจังหวัดและระดับประเทศเท่านั้น ซึ่งจะเป็นส.ส. 2 ส่วนคือ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งและมาจากกลุ่มอาชีพ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้ นายสุมิตร ซึ่งเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมประชุม จะนำไปเสนอที่ประชุมในวันที่ 5 ต.ค. นี้ ในทำเนียบรัฐบาล
อัดตร.หิ้วหญิงมือตบขึ้นโรงพัก
นายบัณรส บัวคลี่ ผู้ประสานงานพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่นำตัวนางเบญ(สงวนชื่อจริง-นามสกุล) ที่ใช้มือตบบนดอยสุเทพขณะนายสมชาย ปฏิบัติภารกิจอยู่ ไปลงบันทึกประจำวันว่าจะไม่ก่อเหตุซ้ำอีกว่า ตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าวของตำรวจเป็นการทำเกินกว่าเหตุ และเห็นว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายการละเมิด
ด้านนายมนตรี วงศ์เกษม รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าตนเอง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ(กต.ตร.) สภ.ภูพิงค์ฯ มาหลายสมัย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่ตำรวจกระทำกับนางเบญ เนื่องจากรู้สึกอับอายกับการกระทำของตำรวจ
"โกวิท"ผวา"มือตบ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย (มท.1) พร้อมคณะ มีกำหนดการเดินทางไปยัง จ.ชุมพร เป็นการส่วนตัว เพื่อสักการะพระรูป พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ณ พระตำหนักริมหาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงกำหนดการกลับไม่พบเห็นพล.ต.อ.โกวิท และคณะแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของจ.ชุมพรนายหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบว่า พล.ต.อ.โกวิทได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางแล้ว เนื่องจากทราบว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรมาชุมนุมขับไล่ จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น
เผยโฉมครม.Young Pad วันนี้
นายวสันต์ วานิชย์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายนิสิตนักศึกษาเยาวชน กู้ชาติ (Young Pad) แจ้งถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มว่า ในวันเสาร์ที่ 4 ต.ค.นี้ จะมีการตั้งคณะรัฐมนตรีของกลุ่ม Young Pad (ครม.เงา) และร่วมถ่ายภาพที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม.เงา จะประกอบไปด้วย นิสิตนักศึกษาจากสถาบันที่เรียนอยู่ใน คณะต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ คณะแพทย์ศาสตร์ จะตั้งให้เป็น รมว.สาธารณสุข คณะเกษตรฯ จะให้เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนตัวตัวนายกรัฐมนตรีเงา ขอปิดไว้ก่อน นอกจากนี้ในวันที่ 5 ต.ค. จะจัดประชุมสภาเยาวชนนัดแรก ที่ทำการกลุ่ม Young Pad โดยจะมีการระดมความเห็นเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันนักศึกษากลุ่มเดียวกันนี้จะจัดงาน DIT Democracy in Town ที่เวทีสะพานมัฆวาน และตลอดถนนราชดำเนิน ในวันเสาร์ที่ 4 และอาทิตย์ที่ 5 ต.ค.นี้ โดยมีกิจกรรมชื่อว่า “จิตวิญญาณ 6 ตุลา คราบน้ำตา นักศึกษา ประชาชน”