ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายกฯ ขึ้นเหนือปฏิบัติภารกิจเชียงใหม่บ้านเกิดภรรยา ยกย่องทักษิณ "เป็นคนดีเสมอ" พร้อมรับปากจะตั้งใจทำหน้าที่นายกฯ อย่างซื่อสัตย์สุจริต ขณะที่ "มือตบ" โผล่ต้อนรับ "นายกฯ เขยคนเมือง" ทั้งบนดอยสุเทพและหลังกินมื้อเที่ยงแถมถูกตระโกนถามเรื่องพาสปอร์ตแดง"ทักษิณ" ตำรวจเชียงใหม่ทำพิลึกเอาใจเจ้านาย ขับรถไล่ติดตามสาวมือตบที่บุกเดี่ยวขึ้นดอยสุเทพคุมตัวไปลงบันทึกประจำวัน สั่งให้รับปากไม่ก่อเหตุวุ่นวายอีก "มือตบ" เผยแค่อยากแสดงให้ "สมชาย" รู้ว่าประชาชนไม่ยอมรับ
ที่ จ.เชียงใหม่ วานนี้ (2 ต.ค.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักที่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เช่น จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และพะเยา เป็นต้น พร้อมข้าราชการระดับสูงเข้าพบเพื่อปรึกษาหารือและแสดงความยินดีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังการพูดคุยหารือแล้วนายสมชาย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าในช่วงที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางกลับมาบ้านพักที่เชียงใหม่เป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์ โดยที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ละมีสิทธิเลือกตั้งที่ จ.เชียงใหม่ด้วย
**เผยมอบบิ๊กจิ๋วเจรจาพันธมิตรฯ
"ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะได้เดินทางมา จ.เชียงใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งจะถือโอกาสไปนมัสการสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและมีคุณค่ากับเชียงใหม่มาช้านานด้วย เพื่อติดตามความคืบหน้าการบูรณะองค์พระธาตุ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมศิลปากร และกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาตรวจสอบดูแล รวมทั้งได้มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อการบูรณะแล้ว จึงขอให้มีความมั่นใจได้" นายสมชาย กล่าว
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการดำเนินการกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ว่า เวลานี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในการเจรจากับทางฝ่ายพันธมิตรฯแล้ว โดยยืนยันว่าจะใช้วิธีการประนีประนอม ไม่ให้เกิดการประทะกันอย่างเด็ดขาดและไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียหน้า
ส่วนการเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้รับคำแนะนำที่ดีมา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด บอกได้แต่เพียงว่าบรรยากาศจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสมชาย ยืนยันว่า ไม่มีการหมกเม็ด ส่วนการเลือกตัวผู้ที่จะมาเป็นประธาน ส.ส.ร.3 ที่หลายฝ่ายมองว่าหาผู้ที่มีความเหมาะสมได้ยากนั้น นายกฯบอกว่า เชื่อว่ากรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีแน่นอน
**มือตบโผล่รับต้อนรับถึงในวัด
จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น.นายกฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปนมัสการสักการะองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และนมัสการพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ภายในวิหารของวัด ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับจำนวนมาก ก่อนที่จะรับฟังบรรยายสรุป เกี่ยวกับการบูรณะองค์พระธาตุดอยสุเทพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายกฯ กำลังนมัสการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ปรากฏว่าได้มีหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งพร้อม "มือตบ" แบบเดียวกับที่พันธมิตรฯ ใช้ในการชุมนุมพยายามที่จะเดินเข้าไปใกล้นายกฯ ให้มากที่สุดและตีมือตบดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าสามารถตีได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวออกไปจากบริเวณดังกล่าวทันที โดยผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่า ต้องการมาแสดงความยินดีกับนายสมชาย ที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
**ยกย่องพี่เมีย "เป็นคนดีเสมอ"
ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. นายสมชาย ได้เดินทางต่อไปที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อไหว้กู่บรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูล "ชินวัตร"โดยมีประชาชนชาวอำเภอสันกำแพง และใกล้เคียงให้การต้อนรับจำนวนมาก ซึ่งนายสมชาย ได้ถือโอกาสกราบเคารพและขอพรจากนางจันทร์สม ชินวัตร ญาติผู้ใหญ่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การเคารพอย่างสูง ซึ่งมารอต้อนรับอยู่ด้วย
ทั้งนี้ นายสมชาย ได้กล่าวเป็นภาษาคำเมืองกับชาวสันกำแพง ที่มารอให้การต้อนรับว่า แม้ตัวเองจะไม่ได้เกิดที่สันกำแพง แต่สันกำแพงก็เปรียบเป็นเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากคนที่นี่เป็นอย่างดี จนกระทั่งได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรับปากว่าจะตั้งใจทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ และซื่อสัตย์สุจริต เพื่อคนทั้งประเทศ
"สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไรก็ตามเชื่อว่ายังคงเป็นคนดีสำหรับคนสันกำแพงเสมอ โดยสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ" นายสมชายกล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เพื่อเคารพศพหลวงปู่จันทร์ กุสโล หรือพระพุทธพจนวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง และไปรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารอาหารจีนเจี๋ยท่งเฮง ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
**มือตบทวงถามพาสปอร์ตแดงแม้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ในเวลาประมาณ 12.00 น.กลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ประมาณ 20 คน ได้เดินทางไปดักรอนายสมชาย ที่มีกำหนดการจะไปเยี่ยมตลาดวโรรส หรือกาดหลวง แต่ทราบภายหลังว่า นายสมชาย เปลี่ยนแปลงการเดินทางและจะไปรับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารจีนเจี๋ยท่งเฮง กลุ่มพันธมิตรฯจึงเดินทางไปที่ร้านอาหารดังกล่าว แต่เนื่องจากร้านแห่งนี้มีทางเข้า-ออกหลายทางกลุ่มพันธมิตรฯเกรงว่าจะไม่พบนายสมชาย จึงได้มานั่งรับประทานอาหารในร้านที่ชั้นล่าง
กระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. คณะของนายสมชาย ได้เดินลงมาจากชั้นบนกลุ่มพันธมิตรฯพร้อมอาวุธ "มือตบ" ได้พร้อมกันใช้มือตบไล่นายสมชาย และตะโกนถามว่า เรื่องพาสปอร์ตแดงของอดีตนายกฯทักษิณ จะทำอย่างไร แต่นายสมชาย ทำเป็นไม่ได้ยินและพยายามทำใจดีสู้เสือ ส่งยิ้มให้แก่ผู้ชุมนุม
จนกระทั่งพันธมิตรฯต้องตะโกนถามย้ำหลายครั้ง แต่นายสมชาย ก็ไม่ได้ตอบและเลี่ยงเดินขึ้นรถตู้เพื่อไปยังสนามบินและเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที
**สาวใหญ่เผยนาทีระทึกตบไล่สมชาย
ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นางเบญ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งเป็นหญิงที่ใช้มือตบระหว่างที่นายสมชาย เดินทางไปตรวจการบูรณะพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยนางเบญ เล่าว่า หลังจากที่ตำรวจกันตนออกมาจากคณะของนายสมชาย แล้วได้ติดตามไปยังที่จอดรถและยังเฝ้าติดตามการเดินทางของตนเป็นระยะจากบนดอยสุเทพจนถึงด้านล่าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดักรถและเรียกให้เข้าไปสอบถามใน สภ.ต.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจใกล้ที่สุดบริเวณเชิงดอยสุเทพ
"เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามสอบถามว่า ฉันเป็นพันธมิตรฯหรือไม่ พร้อมกับสอบถามข้อมูลส่วนตัวและถามเรื่องความสนใจทางการเมือง ซึ่งฉันก็เล่าว่าฉันติดตามข่าวสารเป็นประจำและเจ้าหน้าที่ได้ให้ฉันลงนามในบันทึกประจำวันยอมรับว่าฉันจะไม่ "ก่อเหตุวุ่นวาย" ลักษณะนี้อีก ซึ่งฉันก็ได้ลงยอมนามไป เพราะอย่างจะกลับบ้านเร็วๆ" นางเบญกล่าว
นางเบญ เล่าต่อว่า ตนตั้งใจจะขึ้นไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพเพื่อแสดงให้นายสมชาย ทราบว่าประชาชนไม่พอใจและอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง โดยตนมองว่าการที่เอามือตบออกมาตบนั้นไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตนเพียงแต่ต้องการแสดงให้นายสมชาย เห็นโดยตรงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเวลา 12.30 น. หลังจากที่นางเบญ เดินทางกลับมายังบ้านพักได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.อ.สันทราย ขับรถมาสำรวจบริเวณหน้าบ้านและได้ซักถามเพื่อนบ้านอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเดินทางจากไป โดยนางเบญ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนไม่กลัวแต่ก็จะไม่ประมาท ทั้งนี้ที่บ้านของตนติดตั้งจานรับดาวเทียม ASTV และติดตามการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยตลอด.
ที่ จ.เชียงใหม่ วานนี้ (2 ต.ค.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักที่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เช่น จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และพะเยา เป็นต้น พร้อมข้าราชการระดับสูงเข้าพบเพื่อปรึกษาหารือและแสดงความยินดีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังการพูดคุยหารือแล้วนายสมชาย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าในช่วงที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางกลับมาบ้านพักที่เชียงใหม่เป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์ โดยที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ละมีสิทธิเลือกตั้งที่ จ.เชียงใหม่ด้วย
**เผยมอบบิ๊กจิ๋วเจรจาพันธมิตรฯ
"ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะได้เดินทางมา จ.เชียงใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งจะถือโอกาสไปนมัสการสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและมีคุณค่ากับเชียงใหม่มาช้านานด้วย เพื่อติดตามความคืบหน้าการบูรณะองค์พระธาตุ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมศิลปากร และกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาตรวจสอบดูแล รวมทั้งได้มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อการบูรณะแล้ว จึงขอให้มีความมั่นใจได้" นายสมชาย กล่าว
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการดำเนินการกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ว่า เวลานี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในการเจรจากับทางฝ่ายพันธมิตรฯแล้ว โดยยืนยันว่าจะใช้วิธีการประนีประนอม ไม่ให้เกิดการประทะกันอย่างเด็ดขาดและไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียหน้า
ส่วนการเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้รับคำแนะนำที่ดีมา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด บอกได้แต่เพียงว่าบรรยากาศจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสมชาย ยืนยันว่า ไม่มีการหมกเม็ด ส่วนการเลือกตัวผู้ที่จะมาเป็นประธาน ส.ส.ร.3 ที่หลายฝ่ายมองว่าหาผู้ที่มีความเหมาะสมได้ยากนั้น นายกฯบอกว่า เชื่อว่ากรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีแน่นอน
**มือตบโผล่รับต้อนรับถึงในวัด
จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น.นายกฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปนมัสการสักการะองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และนมัสการพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ภายในวิหารของวัด ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับจำนวนมาก ก่อนที่จะรับฟังบรรยายสรุป เกี่ยวกับการบูรณะองค์พระธาตุดอยสุเทพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายกฯ กำลังนมัสการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ปรากฏว่าได้มีหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งพร้อม "มือตบ" แบบเดียวกับที่พันธมิตรฯ ใช้ในการชุมนุมพยายามที่จะเดินเข้าไปใกล้นายกฯ ให้มากที่สุดและตีมือตบดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าสามารถตีได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวออกไปจากบริเวณดังกล่าวทันที โดยผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่า ต้องการมาแสดงความยินดีกับนายสมชาย ที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
**ยกย่องพี่เมีย "เป็นคนดีเสมอ"
ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. นายสมชาย ได้เดินทางต่อไปที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อไหว้กู่บรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูล "ชินวัตร"โดยมีประชาชนชาวอำเภอสันกำแพง และใกล้เคียงให้การต้อนรับจำนวนมาก ซึ่งนายสมชาย ได้ถือโอกาสกราบเคารพและขอพรจากนางจันทร์สม ชินวัตร ญาติผู้ใหญ่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การเคารพอย่างสูง ซึ่งมารอต้อนรับอยู่ด้วย
ทั้งนี้ นายสมชาย ได้กล่าวเป็นภาษาคำเมืองกับชาวสันกำแพง ที่มารอให้การต้อนรับว่า แม้ตัวเองจะไม่ได้เกิดที่สันกำแพง แต่สันกำแพงก็เปรียบเป็นเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากคนที่นี่เป็นอย่างดี จนกระทั่งได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรับปากว่าจะตั้งใจทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ และซื่อสัตย์สุจริต เพื่อคนทั้งประเทศ
"สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไรก็ตามเชื่อว่ายังคงเป็นคนดีสำหรับคนสันกำแพงเสมอ โดยสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ" นายสมชายกล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เพื่อเคารพศพหลวงปู่จันทร์ กุสโล หรือพระพุทธพจนวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง และไปรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารอาหารจีนเจี๋ยท่งเฮง ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
**มือตบทวงถามพาสปอร์ตแดงแม้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ในเวลาประมาณ 12.00 น.กลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ประมาณ 20 คน ได้เดินทางไปดักรอนายสมชาย ที่มีกำหนดการจะไปเยี่ยมตลาดวโรรส หรือกาดหลวง แต่ทราบภายหลังว่า นายสมชาย เปลี่ยนแปลงการเดินทางและจะไปรับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารจีนเจี๋ยท่งเฮง กลุ่มพันธมิตรฯจึงเดินทางไปที่ร้านอาหารดังกล่าว แต่เนื่องจากร้านแห่งนี้มีทางเข้า-ออกหลายทางกลุ่มพันธมิตรฯเกรงว่าจะไม่พบนายสมชาย จึงได้มานั่งรับประทานอาหารในร้านที่ชั้นล่าง
กระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. คณะของนายสมชาย ได้เดินลงมาจากชั้นบนกลุ่มพันธมิตรฯพร้อมอาวุธ "มือตบ" ได้พร้อมกันใช้มือตบไล่นายสมชาย และตะโกนถามว่า เรื่องพาสปอร์ตแดงของอดีตนายกฯทักษิณ จะทำอย่างไร แต่นายสมชาย ทำเป็นไม่ได้ยินและพยายามทำใจดีสู้เสือ ส่งยิ้มให้แก่ผู้ชุมนุม
จนกระทั่งพันธมิตรฯต้องตะโกนถามย้ำหลายครั้ง แต่นายสมชาย ก็ไม่ได้ตอบและเลี่ยงเดินขึ้นรถตู้เพื่อไปยังสนามบินและเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที
**สาวใหญ่เผยนาทีระทึกตบไล่สมชาย
ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นางเบญ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งเป็นหญิงที่ใช้มือตบระหว่างที่นายสมชาย เดินทางไปตรวจการบูรณะพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยนางเบญ เล่าว่า หลังจากที่ตำรวจกันตนออกมาจากคณะของนายสมชาย แล้วได้ติดตามไปยังที่จอดรถและยังเฝ้าติดตามการเดินทางของตนเป็นระยะจากบนดอยสุเทพจนถึงด้านล่าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดักรถและเรียกให้เข้าไปสอบถามใน สภ.ต.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจใกล้ที่สุดบริเวณเชิงดอยสุเทพ
"เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามสอบถามว่า ฉันเป็นพันธมิตรฯหรือไม่ พร้อมกับสอบถามข้อมูลส่วนตัวและถามเรื่องความสนใจทางการเมือง ซึ่งฉันก็เล่าว่าฉันติดตามข่าวสารเป็นประจำและเจ้าหน้าที่ได้ให้ฉันลงนามในบันทึกประจำวันยอมรับว่าฉันจะไม่ "ก่อเหตุวุ่นวาย" ลักษณะนี้อีก ซึ่งฉันก็ได้ลงยอมนามไป เพราะอย่างจะกลับบ้านเร็วๆ" นางเบญกล่าว
นางเบญ เล่าต่อว่า ตนตั้งใจจะขึ้นไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพเพื่อแสดงให้นายสมชาย ทราบว่าประชาชนไม่พอใจและอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง โดยตนมองว่าการที่เอามือตบออกมาตบนั้นไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตนเพียงแต่ต้องการแสดงให้นายสมชาย เห็นโดยตรงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเวลา 12.30 น. หลังจากที่นางเบญ เดินทางกลับมายังบ้านพักได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.อ.สันทราย ขับรถมาสำรวจบริเวณหน้าบ้านและได้ซักถามเพื่อนบ้านอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเดินทางจากไป โดยนางเบญ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนไม่กลัวแต่ก็จะไม่ประมาท ทั้งนี้ที่บ้านของตนติดตั้งจานรับดาวเทียม ASTV และติดตามการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยตลอด.