ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – “สมชาย” ตระเวนลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่เชียงใหม่บ้านเกิดเมีย บอกมอบ “บิ๊กจิ๋ว” คุยพันธมิตรฯ แล้ว ยืนยันใช้วิธีการประนีประนอม พร้อมบอกได้รับคำแนะนำที่ดีจาก “ป๋าเปรม” เชื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น ขณะที่ “มือตบ” โผล่ต้อนรับนายกรัฐมนตรีเขยคนเมืองทั้งบนดอยสุเทพ และหลังกินมื้อเที่ยง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่าวันนี้ (2 ต.ค.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักที่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา เป็นต้น พร้อมข้าราชการระดับสูงเข้าพบเพื่อปรึกษาหารือและแสดงความยินดีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ หลังการพูดคุยหารือแล้ว นายสมชายกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางกลับมาบ้านพักที่เชียงใหม่เป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์ โดยที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านและมีสิทธิเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย ทั้งนี้ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะได้เดินทางมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งจะถือโอกาสไปนมัสการสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและมีคุณค่ากับเชียงใหม่มาช้านานด้วย เพื่อติดตามความคืบหน้าการบูรณะองค์พระธาตุ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมศิลปากรและกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาตรวจสอบดูแล รวมทั้งได้มีการอนุมัติงบประมาณเพื่อการบูรณะแล้ว จึงขอให้มีความมั่นใจได้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินการกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาลว่า เวลานี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในการเจรจากับทางฝ่ายพันธมิตรฯ โดยยืนยันว่าจะใช้วิธีการประนีประนอม ไม่ให้เกิดการประทะกันอย่างเด็ดขาด และไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียหน้า ส่วนการเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีนั้น ได้รับคำแนะนำที่ดีมา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด บอกได้แต่เพียงว่าบรรยากาศจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสมชาย ยืนยันว่า ไม่มีการหมกเม็ด ส่วนการเลือกตัวผู้ที่จะมาเป็นประธาน ส.ส.ร.3 ที่หลายฝ่ายมองว่าหาผู้ที่มีความเหมาะสมได้ยากนั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่า เชื่อว่ากรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีแน่นอน
จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น.นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปนมัสการสักการะองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และนมัสการพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ภายในวิหารของวัด ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับจำนวนมาก ก่อนที่จะรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการบูรณะองค์พระธาตุดอยสุเทพ
โดยในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกำลังนมัสการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารอยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งพร้อม “มือตบ” แบบเดียวกับที่พันธมิตรฯ ใช้ในการชุมนุม พยายามที่จะเดินเข้าไปใกล้นายกรัฐมนตรีให้มากที่สุดและตีมือตบดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าสามารถตีได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวออกไปจากบริเวณดังกล่าวทันที โดยผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่าต้องการมาแสดงความยินดีกับนายสมชาย ที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น.นายสมชาย ได้เดินทางต่อไปที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไหว้กู่บรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูล “ชินวัตร” โดยมีประชาชนชาวอำเภอสันกำแพงและใกล้เคียงให้การต้อนรับจำนวนมาก ซึ่งนายสมชายได้ถือโอกาสกราบเคารพและขอพรจากนางจันทร์สม ชินวัตร ญาติผู้ใหญ่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การเคารพอย่างสูง ซึ่งมารอต้อนรับอยู่ด้วย
ทั้งนี้นายสมชาย ได้กล่าวเป็นภาษาคำเมืองกับชาวสันกำแพงที่มารอให้การต้อนรับว่า แม้ตัวเองจะไม่ได้เกิดที่สันกำแพง แต่สันกำแพงก็เปรียบเป็นเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากคนที่นี่เป็นอย่างดีจนกระทั่งได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรับปากว่าจะตั้งใจทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่และซื่อสัตย์สุจริต เพื่อคนทั้งประเทศ สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังคงเป็นคนดีสำหรับคนสันกำแพงเสมอ โดยสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางต่อไปที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เพื่อเคารพศพหลวงปู่จันทร์ กุสโล หรือพระพุทธพจนวราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง และไปรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารอาหารจีนเจี๋ยท่งเฮง ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าในช่วงที่นายสมชาย รับประทานอาหารเสร็จแล้วและกำลังเดินออกมาจากร้าน ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ ประมาณ 20 คน ที่มารับประทานอาหารอยู่ในร้านเดียวกันใช้มือตบตีเสียงดังไปทั่ว ซึ่งนายสมชายได้ยิ้มตอบ ก่อนที่จะเดินขึ้นรถและเดินทางออกไป