เมื่อเวลา10.00 น.วานนี้ (1ต.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางมายังสถานีโทรทัศน์ NBT กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อบันทึกเทปคำกล่าวแถลงการณ์ เนื่องในวันตรุษอีดิลฟิตรี ซึ่งเป็นวันฮารีรายอของพี่น้องมุสลิม โดยมีนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ
จากนั้นเวลา10.30 น. นายสมชาย ออกจากห้องพักรับรองของสถานี NBT พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาบันทึกเทป เนื่องจากวันนี้เป็นวันของทางศาสนาอิสลาม ในวัน อีดิลฟิฏรี เพราะที่ผ่านมาเป็นเดือนแห่งการถือศีล หรือเดือนรอมดอนในศาสนาของพี่น้องมุสลิม ตนจึงมากล่าวแสดงความยินดี ส่งความปรารถนาดี
นายสมชายยังได้กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้ให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สรุปเรื่อง ดูยุทธศาตร์ดำเนินการ จากนั้นจะเชิญประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เมื่อถามว่าจะลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเอง หรือให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ นายสมชาย กล่าวว่า ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทีมงานมีรองนายกฯ ตำรวจ และมีผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง ศอ.บต. และข้าราชการก็รับผิดชอบอย่างเต็มที่ สังเกตุว่าความเข้าใจของพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัด และประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจดีขึ้น และบางส่วนในพื้นที่มีความสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะเน้นนโยบายที่ พล.อ.ขวัญชาติ กล้าหาญ จะเป็นตัวแทนเจรจากับผู้ก่อความไม่สงบที่ประเทศอินโอนีเซียหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่าได้สอบถามไปยังพล.อ.ขวัญชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนไม่ได้เข้ามาดูแลรับผิดชอบ ได้รับทราบว่า เป็นเรื่องของการพบปะผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเป็นการหาข้อมูล ไม่ได้ไปเป็นเรื่องเจรจากับฝ่ายไหน เพราะเรื่อง 3 จังหวัดชายเดนภาคใต้เป็นเรื่องภายในประเทศ ฉะนั้นเราต้องมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมืองของเรา หากมีวิธีการดำเนินการอย่างไร ก็ต้องไปหาข้อมูล ซึ่งจากการชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ไม่ใช่การเจรจาระหว่างรัฐต่อรัฐ เป็นเรื่องที่ว่ากิจกรรมนี้ เหตุการณ์ใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทย ต้องมีหน้าที่ดูแล เป็นการหาข้อมูล ป้องกัน ปราบปรามเหตุร้ายในบ้านเรา หากมีข้อมูลก็ต้องดู เพื่อนำไปปรับใช้ต่อไป คงไม่ใช่เรื่องการเจรจา
เมื่อถามว่า เท่าที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตนฟังวันละ 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่เท่าที่เห็น ก็ดีขึ้น เหตุการณ์ก็มีอยู้บ้าง แต่ระยะหลังที่เกิดขึ้นได้รับทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สามารถรู้ต้นสายปลายเหตุ และจับกุมคนร้ายได้บ่อยขึ้น ตนยังไม่มีการสั่งการอะไร เพียงแต่เฝ้าดูแลสถานการณ์ดูแลการทำงานเจ้าหน้าที่ หลังจากการแถลงนโยบายจะไปดูแลเรื่องยุทธศาสตร์ การดำเนินการต่อไป เพราะช่วงนี้จะพูดเรื่องนโยบาย หรือการปฏิบัติตามนโยบายยังทำไม่ได้
เมื่อถามว่านายกฯมีแนวคิดในการลงพื้นที่ หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า มีแนวคิดๆ ต้องดูสถานการณ์ และความเหมาะสม แต่คงไม่ช้าเกินไป ช้าเกินไปก็เหมือนไม่ได้ไปดู
ด้านพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ว่า ไม่มีปัญหาใดๆ ถึงเวลาแล้วจะบอกให้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่มีแนวทาง 3-4 อย่าง ที่จะไปทำเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย แต่ต้องเริ่มที่การได้รับมอบหมายจากนายกฯว่าจะดูแลกระทรวงใดบ้าง แต่เท่าที่ทราบ ตนจะได้ดูแลความมั่นคง และความสงบในราชอาณาจักร การสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ดูแลภาคใต้ และการแก้ไขพื้นฐานความมั่นคงที่สุดคือความมั่นคง โดยต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการทำงานด้วย
เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาภาคใต้นั้นจะมีแนวทางใด หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายนั้นจะดำเนินการไม่ได้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถูกต้อง หากตนต้องได้รับมอบหมายงาน ก็จะประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แล้วจะแจกแจงรายละเอียดให้ทราบ
เมื่อถามว่า แสดงว่ามองเห็นลู่ทางที่จะทำงานนี้สำเร็จ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถูกต้อง อาจจะเป็นหนทางหนึ่งในหลายๆ หนทางโดยต้องช่วยกัน แต่อย่าไปต่อว่าหนทางที่บางฝ่ายนำบางกลุ่มออกมาพูด หรือการไปขอให้อินโดนีเซียมาช่วย ก็อย่าไปต่อว่ากัน ตนเข้าใจว่าผู้ที่รักบ้านเมืองก็พยายามกันทุกคน ฉะนั้นจะใช้หนทางใดก็ตาม ก็ต้องเสริมและช่วยกันเพื่อไปสู่จุดหมาย ตนเชื่อมั่นว่าหากทำตามแนวทางนี้ปัญหาจะจบ
จากนั้นเวลา10.30 น. นายสมชาย ออกจากห้องพักรับรองของสถานี NBT พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาบันทึกเทป เนื่องจากวันนี้เป็นวันของทางศาสนาอิสลาม ในวัน อีดิลฟิฏรี เพราะที่ผ่านมาเป็นเดือนแห่งการถือศีล หรือเดือนรอมดอนในศาสนาของพี่น้องมุสลิม ตนจึงมากล่าวแสดงความยินดี ส่งความปรารถนาดี
นายสมชายยังได้กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้ให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สรุปเรื่อง ดูยุทธศาตร์ดำเนินการ จากนั้นจะเชิญประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เมื่อถามว่าจะลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเอง หรือให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ นายสมชาย กล่าวว่า ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทีมงานมีรองนายกฯ ตำรวจ และมีผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง ศอ.บต. และข้าราชการก็รับผิดชอบอย่างเต็มที่ สังเกตุว่าความเข้าใจของพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัด และประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจดีขึ้น และบางส่วนในพื้นที่มีความสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะเน้นนโยบายที่ พล.อ.ขวัญชาติ กล้าหาญ จะเป็นตัวแทนเจรจากับผู้ก่อความไม่สงบที่ประเทศอินโอนีเซียหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่าได้สอบถามไปยังพล.อ.ขวัญชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนไม่ได้เข้ามาดูแลรับผิดชอบ ได้รับทราบว่า เป็นเรื่องของการพบปะผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเป็นการหาข้อมูล ไม่ได้ไปเป็นเรื่องเจรจากับฝ่ายไหน เพราะเรื่อง 3 จังหวัดชายเดนภาคใต้เป็นเรื่องภายในประเทศ ฉะนั้นเราต้องมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมืองของเรา หากมีวิธีการดำเนินการอย่างไร ก็ต้องไปหาข้อมูล ซึ่งจากการชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ไม่ใช่การเจรจาระหว่างรัฐต่อรัฐ เป็นเรื่องที่ว่ากิจกรรมนี้ เหตุการณ์ใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทย ต้องมีหน้าที่ดูแล เป็นการหาข้อมูล ป้องกัน ปราบปรามเหตุร้ายในบ้านเรา หากมีข้อมูลก็ต้องดู เพื่อนำไปปรับใช้ต่อไป คงไม่ใช่เรื่องการเจรจา
เมื่อถามว่า เท่าที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตนฟังวันละ 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่เท่าที่เห็น ก็ดีขึ้น เหตุการณ์ก็มีอยู้บ้าง แต่ระยะหลังที่เกิดขึ้นได้รับทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่สามารถรู้ต้นสายปลายเหตุ และจับกุมคนร้ายได้บ่อยขึ้น ตนยังไม่มีการสั่งการอะไร เพียงแต่เฝ้าดูแลสถานการณ์ดูแลการทำงานเจ้าหน้าที่ หลังจากการแถลงนโยบายจะไปดูแลเรื่องยุทธศาสตร์ การดำเนินการต่อไป เพราะช่วงนี้จะพูดเรื่องนโยบาย หรือการปฏิบัติตามนโยบายยังทำไม่ได้
เมื่อถามว่านายกฯมีแนวคิดในการลงพื้นที่ หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า มีแนวคิดๆ ต้องดูสถานการณ์ และความเหมาะสม แต่คงไม่ช้าเกินไป ช้าเกินไปก็เหมือนไม่ได้ไปดู
ด้านพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ว่า ไม่มีปัญหาใดๆ ถึงเวลาแล้วจะบอกให้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่มีแนวทาง 3-4 อย่าง ที่จะไปทำเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย แต่ต้องเริ่มที่การได้รับมอบหมายจากนายกฯว่าจะดูแลกระทรวงใดบ้าง แต่เท่าที่ทราบ ตนจะได้ดูแลความมั่นคง และความสงบในราชอาณาจักร การสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ดูแลภาคใต้ และการแก้ไขพื้นฐานความมั่นคงที่สุดคือความมั่นคง โดยต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการทำงานด้วย
เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาภาคใต้นั้นจะมีแนวทางใด หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายนั้นจะดำเนินการไม่ได้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถูกต้อง หากตนต้องได้รับมอบหมายงาน ก็จะประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แล้วจะแจกแจงรายละเอียดให้ทราบ
เมื่อถามว่า แสดงว่ามองเห็นลู่ทางที่จะทำงานนี้สำเร็จ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถูกต้อง อาจจะเป็นหนทางหนึ่งในหลายๆ หนทางโดยต้องช่วยกัน แต่อย่าไปต่อว่าหนทางที่บางฝ่ายนำบางกลุ่มออกมาพูด หรือการไปขอให้อินโดนีเซียมาช่วย ก็อย่าไปต่อว่ากัน ตนเข้าใจว่าผู้ที่รักบ้านเมืองก็พยายามกันทุกคน ฉะนั้นจะใช้หนทางใดก็ตาม ก็ต้องเสริมและช่วยกันเพื่อไปสู่จุดหมาย ตนเชื่อมั่นว่าหากทำตามแนวทางนี้ปัญหาจะจบ