xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยควรอ่าน ถ้าไม่อยากให้ลูกหลานบ้านเมืองฉิบหาย (3)

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

{{-ทักษิณเป็นคนเก่งและดี จริงหรือ?

คุณเชื่อเช่นนั้นไม่ผิด เพราะทุกคนมีสิทธิจะเชื่อ ศรัทธา หลงใหลได้ปลื้ม ...แต่อย่าลืม “ข้อเท็จจริง”

ทุกวันนี้มีหลักฐานมากมายที่แสดงถึงการทำผิดของทักษิณ-พจมาน ชินวัตรและเครือข่ายจำนวนมาก (ทุกโครงการล้วนแต่ทุจริตทั้งนั้น ..เรียกว่าทุจริตเชิงนโยบาย..รายละเอียดเยอะมาก จึงละเว้นไว้ในฐานที่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจ ลองหาอ่านในเน็ตดูนะครับ มีเยอะมาก) เมื่อคนของตนได้เป็นรัฐบาล ทักษิณจึงกลับมาเพื่อหวังสู้คดี โดยมีความพยายามจะติดสินบนศาล แต่เมื่อไม่สำเร็จ จนทีมทนายต้องติดคุก และเห็นว่าจวนตัว จึงหนีคดี (มาตรฐานแบบเดียวกับกำนันเป๊าะ/วัฒนา)

แล้วจึงพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของศาล ด้วยวิธีการต่างๆ นานา ต้องยอมรับว่าทักษิณมีเพื่อนอภิมหาเศรษฐีนักธุรกิจจำนวนมาก และมีอำนาจเงินทุนจำนวนมหาศาลจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการฟอกเงินระหว่างกันในหมู่นักธุรกิจกลุ่มนี้ (อย่างการซื้อและขายแมนซิตี้) เงินทุนมหาศาลนั้น สามารถจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ดังๆ บริษัทสร้างภาพลักษณ์ดังๆ หรือแม้แต่สื่อต่างประเทศยักษ์ใหญ่ เพื่อทำให้ทักษิณดูดี โดนรังแกน่าสงสาร และทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทย ประเทศไทย และเงินทุนส่วนหนึ่งก็ถูกใช้ในการดำเนินงานพรรคพลังประชาชนและนายกฯ หุ่นเชิด (สมัคร และ.... และ.....) และเผื่อแผ่ถึงพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคด้วย ขุมกำลัง นปก./นปช. วิทยุชุมชนเครือข่ายทักษิณ เว็บฮิตๆ บางแห่ง เว็บล้มสถาบันทั้งหลาย นักวิชาการบางกลุ่ม นักศึกษาบางกลุ่ม ข้าราชการบางกลุ่ม นักการเมืองท้องถิ่นบางกลุ่ม รากหญ้าบางกลุ่ม

การใช้เงินซื้อเสียงเพื่อให้พวกตนเป็นรัฐบาลครองอำนาจเบ็ดเสร็จต่อเนื่องยาวนาน รัฐบาลสามารถทำอะไรก็ได้ไม่ต้องฟังเสียงประชาชน เพราะสามารถได้ชัยชนะทุกครั้งที่เลือกตั้งจากการระดมซื้อเสียง กลายเป็นเผด็จการในแบบธนาธิปไตย (ศัพท์ผมเอง) ไป และเงินไม่เท่าไหร่ก็สามารถซื้อประเทศไทยได้ แต่ประเทศไทยไม่ได้มีไว้ขาย Thailand is not for sale.

ทางเดียวที่จะต่อกรอำนาจของทักษิณได้ คือ ต้องปกป้องอย่าให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอย่าให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้อง (ดังจะเห็นได้ว่ารัฐบาลหุ่นเชิดมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ หรือแม้แต่การนิรโทษกรรม) และเมื่อคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุด ก็อาจทำให้หลายคนที่ดวงใจไม่มืดบอด เข้าใจและรู้ความจริงสามารถเห็นธาตุแท้ของคนที่ว่า “รวยแล้วไม่โกง” ได้ และต้องดำเนินคดีคนในระบอบทักษิณที่มีความผิดแล้วหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงเพื่อให้ระบอบทักษิณหมดสิ้นไปจากประเทศไทย }}-

จบข้อความอีกตอนหนึ่งของคุณ “พันธมิตรคนหนึ่ง”

ท่านผู้อ่านที่เคารพ บทความชุดนี้ได้เสนอมาถึงตอนที่ 3 แล้ว ในตอนที่ 1 ผมได้เรียนท่านผู้อ่านว่า ผมจะเข้าไปอ่านความคิดเห็นหรือปฏิกิริยาของท่านผู้อ่าน เพื่อจะจับมาเป็นประเด็นคุยกันต่อ ว่าเรื่องการอ่านหรือไม่อ่านหนังสือนี้ มันมีผลดีหรือผลเสียหายถึงลูกหลานบ้านเมืองอย่างไร หรือว่าการอ่านผิดอ่านถูก อ่านแล้วมิเกิดความคิดที่ถูกต้อง ซ้ำเกิดมิจฉาทิฐิเสียอีก จะเกิดผลเสียต่อลูกหลานบ้านเมืองอย่างไร โดยผมจะอาศัยข้อเขียนและเรื่องของทักษิณของคุณ “พันธมิตรคนหนึ่ง” เป็นตัวอย่าง

เรื่องของทักษิณนี้เป็นตัวอย่างอันใหญ่ยิ่ง ไม่มีบุคคลใดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังปี 2475 ที่จะทำให้คนไทยแตกออกเป็น 2 เสี่ยงได้อย่างทักษิณ กล่าวอย่างสุดๆ คนไทยฝ่ายหนึ่งบูชาทักษิณยิ่งกว่าเทพยเทวดาหรือเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ถึงขนาดยอมตายที่จะปกป้องทักษิณ ในขณะที่คนไทยอีกฝ่ายหนึ่งเห็นทักษิณเป็นนรกจกเปรตผีห่าซาตาน ถึงขนาดยอมตายที่จะกำจัดทักษิณ

เรื่องที่คนไทยอ่านหนังสือน้อยเฉลี่ยแล้วแค่ปีละ 8 บรรทัดนั้น ถ้าจริงเพียงหนึ่งในร้อยก็แย่อยู่แล้ว คนไทยทั้งนั้นก็ต้องเหมาเอาได้ว่าเป็นคนที่ขาดข้อมูลข่าวสาร ขาดความรู้พื้นฐานที่จะคิดว่าอะไรผิดอะไรถูก ยิ่งเป็นเรื่องไกลตัว เช่น เรื่องการปกครองบ้านเมือง และเรื่องทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง

ส่วนคนที่อ่านหรือฟังอยู่บ้างนั้น ก็ยังขึ้นกับว่า อ่านหรือฟังอะไร เป็นเรื่องที่มีข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องพอเพียงหรือไม่ หรือเป็นความเท็จเอียงกระเท่เร่ หวังจะครอบงำความคิดหรือล้างสมองกันเลยทีเดียว หรือไม่ก็ตั้งใจเขียนด้วยความเคารพผู้อ่านหวังจะให้เกิดความรู้ และความคิดตามมาอันจะทำให้เกิดความเข้าใจอันดีหรือความสามารถที่จะตัดสินผิดถูกในเรื่องที่เกี่ยวกับส่วนรวม เป็นเรื่องการเมือง เช่น เรื่องที่ยกเอาทักษิณเป็นกรณีตัวอย่างนี้ เป็นต้น

ด้วยความจริงใจและถ่อมตัวเป็นอย่างยิ่ง ผมต้องขออภัยท่านผู้อ่านว่า สิ่งที่ผมได้พบจากปฏิกิริยาของท่านผู้อ่านก็ดี ได้สอบถามจากการที่ผมไปพูดที่เวทีพันธมิตรฯ ก็ดี หรือจากวงเสวนาเรื่องการเมืองใหม่ที่แกนนำจัดขึ้น 2 ครั้งก็ดี ผมอดมิได้ที่จะรู้สึกหนาวๆ เพราะผมพบว่า (1) ความคิดของชนชั้นกลางในเมืองที่มีประสบการณ์หรือการศึกษาระดับสูงทั้งในและต่างประเทศ ไม่ต่างกับ ความคิดของผู้ที่เป็นชาวชนบทด้อยการศึกษาและฐานะกี่มากน้อย (2) พวกเราส่วนใหญ่พกเอาความคิดและความเชื่อในเรื่องต่างๆ ติดตัวมาล่วงหน้าอยู่แล้ว บางทีก็มีข้อมูลและความรู้สำเร็จรูปติดมาอย่างเรียบร้อย การได้อ่าน เห็น หรือฟังข้อมูลใหม่ อาจจะไม่ช่วยหรือมีความหมายอะไรในทางความคิดและตัดสินใจนัก เพราะเคยเชื่อหรือคิดอะไรก็เชื่อหรือคิดอยู่อย่างนั้น (3) ตรรกะหรือวิธีคิดของพวกเราส่วนใหญ่เสมือนหนึ่งเราไม่รู้จัก ไม่สนใจ และไม่นำกาลามสูตรหรือหลักอิทัปปจจยตาในศาสนาพุทธมาใช้ให้เป็นประโยชน์เลย

ผมขออภัยท่านผู้อ่านที่มิใช่พุทธ ผมเชื่อว่าทุกศาสนามีคำสอนที่ดีเรื่องนี้ไม่ยิ่งหย่อนกัน ผมขออนุญาตอธิบายหลักอิทัปปจจยตาอย่างสั้นๆ ว่าธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นมีขึ้นเพราะได้อาศัยกันกับธรรมหรือเหตุปัจจัยต่างๆ มิได้เกิดขึ้นแต่โดดๆ โดยหรือในตัวของมันเอง หากมีความเชื่อมโยงกับเหตุปัจจัยอื่นๆ จึงเกิดขึ้นได้

ส่วนกาลามสูตรนั้นมีประโยชน์ที่จะนำมาเป็นหลักคิดและตัดสินใจ มีอยู่ว่าอย่าปลงใจเชื่อเรื่องต่างๆ เพราะเพียงแต่ฟังกันมา เพราะเป็นการถือสืบๆ กันมา เพราะเป็นการเล่าลือ เพราะเพียงแต่มีในตำรา เพราะเพียงแต่ดูตรรกะ เพระเพียงแต่ผู้พูดเป็นครู ฯลฯ หากควรรู้ด้วยพิสูจน์และรู้เข้าใจด้วยตนเอง

ขณะที่เขียนนี้ ผมกลับไปอ่านบทความตอนที่ 1 กับตอนที่ 2 ตอนที่ 1 มีผู้อ่าน 7, 700 กว่าราย มีผู้แสดงความคิดเห็น 43 ราย ตอนที่ 2 มีผู้อ่าน 6,400 กว่าราย มีผู้แสดงความคิดเห็น 38 ราย ความเห็นส่วนใหญ่เป็นความเห็นที่คล้อยตามผมหรือคุณ “พันธมิตรคนหนึ่ง” และการยกตัวอย่างตามประสบการณ์ของแต่ละคน ในเรื่องความบกพร่องหรือชั่วร้ายของการเมือง (เก่า) ของระบอบทักษิณ และความบกพร่องของกลไกรัฐบาลและราชการ

ผมขอขอบคุณท่านที่เขียนมา ทำให้ผมได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ผมอยากรู้จริงๆ ก็คือความคิดเห็นหรือข้อมูลที่มีในแต่ละเรื่องหรือคำถามของคุณ “พันธมิตรคนหนึ่ง” ซึ่งจะนำเราไปสู่ความเข้าใจและข้อสรุปว่า ถ้าพวกเราคนไทยทั่วไป มิใช่จำเพาะแต่ผู้อ่านบทความของผม รู้จักอ่านและรู้จักคิด จนเห็นอันตรายของระบอบทักษิณ พวกเราจะได้มีส่วนร่วมกันในการแก้ปัญหา ไม่ทอดทิ้งไว้ให้เป็นภาระแก่ลูกหลานและบ้านเมืองของเรา ความคิดเห็นที่ว่านี้ผมรู้สึกว่ายังน้อยไป แสดงว่าผมยังด้อยความสามารถในการสื่อความหมายกับท่านผู้อ่านอยู่มาก

ความสามารถอ่านให้ออกนี้สำคัญมาก สำคัญกว่าการอ่านออกธรรมดาๆ คือสักแต่อ่านออกตามตัวหนังสือ และความสามารถอ่านให้ออกไม่จำกัดอยู่ที่ตัวหนังสือที่อ่าน แต่อยู่ที่การถาม ฟัง คิด ค้น ต่อตามหลักอิทัปปจจยตาและกาลามสูตร หรือหลักวิชาหรือศาสนาอื่นๆ ที่เทียบเคียงกัน

หัวข้อบทความนี้ คนไทยควรอ่าน ถ้าไม่อยากให้ลูกหลานบ้านเมืองฉิบหาย ครึ่งแรกเป็นของคุณ “พันธมิตรคนหนึ่ง” ครึ่งหลังเป็นของผม ซึ่งนำมาขยายความ ทั้งโดยทั่วไป และโดยเฉพาะ

โดยทั่วไปก็คือถ้าชาติไทยเป็นชาติที่ไม่รู้จักอ่าน ก็ย่อมยากที่จะเป็นชาติที่จะรู้จักคิดหรือมีความรู้ ยากที่จะสร้างหรือรักษาความเจริญให้ลูกหลานและบ้านเมืองได้

โดยเฉพาะก็คือพวกเราขนาดนี้อ่านออกหรือยังว่า ระบอบทักษิณเป็นอย่างไร และระบอบทักษิณจะทำให้ลูกหลานบ้านเมืองฉิบหายอย่างไร การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า บ้านเมืองกำลังจะล่มจม เพราะใช้เงินไม่ระวัง เป็นเพราะใช้เงินตามระบอบทักษิณใช่หรือไม่

ผมเห็นใจท่านผู้อ่านและพี่น้องประชาชนมาก เพราะผมรู้สึกว่า สื่อ นักวิชาการ ตำรวจ ทหาร และระบบราชการไทยยังอ่านไม่ออกเลยว่าระบอบทักษิณเป็นอันตรายต่อลูกหลานบ้านเมืองและสถาบันกษัตริย์ ต่างก็ก้มหน้าก้มตารับใช้รัฐบาลเถื่อนที่ปล้นอำนาจอธิปไตยของปวงชนมาปกครองบ้านเมืองโดยผิดกฎหมาย และคำพิพากษาของศาลมาแต่ต้น เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นับว่าการศึกษาของชนชั้นปกครองไทยต่ำจริงๆ น่าจะเอาปริญญาบัตรสูงๆ ไปเผาทิ้งเสียให้หมด
กำลังโหลดความคิดเห็น