วานนี้ (29 ก.ย.) นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า สภาพัฒน์ ได้นำร่างที่แต่ละกระทรวงขอแก้ไขตรวจสอบนำมารายงานต่อที่ประชุมอีกครั้ง โดยที่ประชุมกระทรวงต่างๆ ที่ได้เสนอไปมีทั้งในส่วนที่เห็นด้วย และขอแก้ไขเพิ่มเติม
สำหรับนโยบายเร่งด่วน 15 ข้อ เพิ่มเป็น 16 ข้อ โดยเพิ่มแผนแม่บทเกี่ยวกับวิกฤตการณ์อาหารโลก วิกฤตน้ำมัน และโลกร้อน ส่วนเรื่องที่กระทรวงเสนอแก้ไข เช่น กระทรวงทรัพยากรฯ เสนอให้มีการจัดสรรทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ สร้างเสริมบุคคลากรทรัพยากรน้ำที่มีคุณภาพ โดยให้คุณกับบุคคลที่รักษาทรัพยากรน้ำ และให้โทษต่อผู้ที่ทำลาย
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้เพิ่มนโยบายด้านกีฬาผู้พิการให้มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมนักกีฬาทั่วไป กระทรวงยุติธรรม เสนอให้มีสำนักงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อดูแลส่วนภูมิภาค เพื่อกำกับ เรือนจำ กรมควบคุมประพฤติ กรมบังคับคดี และสถานพินิจในแต่ละจังหวัด ให้ขึ้นตรงต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัด กระทรวงเกษตร เสนอให้ปรับโครงสร้างการเกษตรฯ เน้นด้านพลังงานทดแทน และสร้างความเข้มแข็งให้กับทั้งระบบการเกษตร
สำนักกพ. และกพร. เสนอให้บูรณาการส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งหมดคณะกรรมการได้เห็นชอบ นอกจากนี้รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้เสนอกฎหมายตามนโยบาย ซึ่งตนได้เสนอไปว่า เมื่อดูนโยบายแล้วหากมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ควรระบุลงไปด้วยและเสนอไป คือ กฎหมายกองทุนสงเคราะห์การเกษตร กฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน กฎหมายความปลอดภัย และอาชีวอนามัยในการทำงาน กฎหมายการบริหารกระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน กฎหมายการแก้ไขปัญหายาเสพติด และกฎหมายรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้เห็นชอบแล้ว
นอกจากนั้นยังมีกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลจะต้องทำให้ครบ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ ที่มีความกังวลว่าพ.ร.บ.ดังกล่าวอาจขัดรธน. ก็ได้เร่งรัดให้เสนอเข้ามาใหม่โดยเร็ว และได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง สำนักกฤษฎีกา และตน เข้าไปดูแล เพื่อระบุในการแถลงนโยบายด้วย โดยนโยบายมีความยาวประมาณ 30 กว่าหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการบรรจุเรื่องแก้ไขรธน.ด้วยหรือไม่ นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้พูด
ส่วนการแถลงนโยบายเบื้องต้น ยังเป็นวันที่ 8-9 ต.ค. แต่หากไม่พอ ก็อาจขอเขยายเวลาเพิ่มอีก 1 วัน จากการที่แถลงนโยบายคราวที่แล้วใช้เวลาเพียง 2 วันนั้นไม่พอ เพราะเมื่อพิจารณาเวลาจะเห็นว่า ส.ว. ก็ใช้เวลาอภิปรายกว่า 8 ชั่วโมง ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 ชั่วโมง พรรคฝ่ายค้าน 10 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้ประสานกับสภาฯ เบื้องต้นทางสภา อยากให้มีการเลื่อนการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่วันที่ 6-8 ต.ค.ก็เป็นได้ แต่ว่ายังไม่ใช่ข้อสรุป
เมื่อถามว่า กรณีที่ส.ว.ได้ไปยื่นตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีต่อกกต. นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ตรวจสอบได้ แต่ดูข้อหาและรายละเอียดคร่าวๆแล้ว ไม่เห็นว่าจะเข้าข่าย เชื่อว่านายกฯได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วนแล้ว
ถามว่าได้ให้คำแนะนำอะไรต่อนายกฯหรือไม่ นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า หากท่านถามก็จะให้คำแนะนำ แต่เชื่อว่าท่านเข้าใจดีอยู่แล้ว ซึ่งการยื่นตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ไม่ถือเป็นอุปสรรคในการทำงาน
นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า ในการประชุมครม.วันนี้ จะมีการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะได้ดูด้านกฎหมายเป็นหลัก เพราะถูกเชิญให้มาดูเรื่องนี้ และมีความเป็นได้ที่ นายสุพล ฟองงาม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาจได้ดูเรื่องสื่อ แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่ารัฐมนตรีอาจได้ดูงานทั้ง 2 ส่วน เพราะส่วนราชการของสำนักนายกฯ มีประมาณ 11-12 หน่วยงาน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ จากพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการปรับเปลี่ยนร่างนโยบายบางส่วน แต่ในภาพรวมก็ไม่ต่างจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช โดยนโยบายที่มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม จะเน้นไปในเรื่องของการศึกษา คือ จะเน้นด้านประวัติศาสตร์ และให้นักเรียนได้เรียน 2-3 ภาษา ขณะที่ด้านท่องเที่ยว ก็จะเข้าไปเพิ่มที่ศักยภาพที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนโยบายด้านการสร้างความปรองดอง ก็ยังมีจุดยืนที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคญอยู่ คือจะเป็นนโยบายเร่งด่วนภายใน 1 ปี สรุปคือนโยบายมีการเพิ่มนโยบายจาก 15 ด้าน เป็น 16 ด้าน ขณะที่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มีการพูดถึง
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง จากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า เรื่องที่เราต้องเน้นคือ เรื่องของความปรองดองสมานฉันท์ อย่างไรก็ตามประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ คงจะมีการหารือในที่ประชุม ครม.วันนี้ ว่าจะบรรจุลงในคำแถลงนโยบายหรือไม่
นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ทางสภาแจ้งมาว่า ต้องการจะให้มีการแถลงนโยบายในวันที่ 6 - 7 ต.ค. แต่ทางรัฐบาลอาจจะมีการแถลงในวันที่ 7- 8 ต.ค.นี้ เนื่องจากวันที่ 7 ต.ค.เป็นวันประชุม ครม.
**"ณัฐวุฒิ"นั่งโฆษกรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครม.วันนี้ นายกรัฐมนตรี จะเสนอรายชื่อ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ เสนอรายชื่อทีมโฆษกรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นโฆษกฯ แทน พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ พร้อมกับแต่งตั้ง น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ , น.ส. ณ หทัย ทิวไผ่งาม และน.ส.วิรินทิรา นาทองบ่อจรัส เป็นทีมรองโฆษกรัฐบาล
สำหรับสาเหตุที่นายกฯปรับ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ ออกจากโฆษกรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิเชียรโชติ เล่นบทปกป้อง แก้ข้อกล่าวหาให้กับนายกฯ และรัฐบาลน้อยเกินไป แต่อย่างไรก็ตามนายกฯจะยังคงให้ไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งอื่นแทน
สำหรับนโยบายเร่งด่วน 15 ข้อ เพิ่มเป็น 16 ข้อ โดยเพิ่มแผนแม่บทเกี่ยวกับวิกฤตการณ์อาหารโลก วิกฤตน้ำมัน และโลกร้อน ส่วนเรื่องที่กระทรวงเสนอแก้ไข เช่น กระทรวงทรัพยากรฯ เสนอให้มีการจัดสรรทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ สร้างเสริมบุคคลากรทรัพยากรน้ำที่มีคุณภาพ โดยให้คุณกับบุคคลที่รักษาทรัพยากรน้ำ และให้โทษต่อผู้ที่ทำลาย
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้เพิ่มนโยบายด้านกีฬาผู้พิการให้มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมนักกีฬาทั่วไป กระทรวงยุติธรรม เสนอให้มีสำนักงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อดูแลส่วนภูมิภาค เพื่อกำกับ เรือนจำ กรมควบคุมประพฤติ กรมบังคับคดี และสถานพินิจในแต่ละจังหวัด ให้ขึ้นตรงต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัด กระทรวงเกษตร เสนอให้ปรับโครงสร้างการเกษตรฯ เน้นด้านพลังงานทดแทน และสร้างความเข้มแข็งให้กับทั้งระบบการเกษตร
สำนักกพ. และกพร. เสนอให้บูรณาการส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งหมดคณะกรรมการได้เห็นชอบ นอกจากนี้รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้เสนอกฎหมายตามนโยบาย ซึ่งตนได้เสนอไปว่า เมื่อดูนโยบายแล้วหากมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ควรระบุลงไปด้วยและเสนอไป คือ กฎหมายกองทุนสงเคราะห์การเกษตร กฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน กฎหมายความปลอดภัย และอาชีวอนามัยในการทำงาน กฎหมายการบริหารกระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน กฎหมายการแก้ไขปัญหายาเสพติด และกฎหมายรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้เห็นชอบแล้ว
นอกจากนั้นยังมีกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลจะต้องทำให้ครบ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ ที่มีความกังวลว่าพ.ร.บ.ดังกล่าวอาจขัดรธน. ก็ได้เร่งรัดให้เสนอเข้ามาใหม่โดยเร็ว และได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง สำนักกฤษฎีกา และตน เข้าไปดูแล เพื่อระบุในการแถลงนโยบายด้วย โดยนโยบายมีความยาวประมาณ 30 กว่าหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการบรรจุเรื่องแก้ไขรธน.ด้วยหรือไม่ นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้พูด
ส่วนการแถลงนโยบายเบื้องต้น ยังเป็นวันที่ 8-9 ต.ค. แต่หากไม่พอ ก็อาจขอเขยายเวลาเพิ่มอีก 1 วัน จากการที่แถลงนโยบายคราวที่แล้วใช้เวลาเพียง 2 วันนั้นไม่พอ เพราะเมื่อพิจารณาเวลาจะเห็นว่า ส.ว. ก็ใช้เวลาอภิปรายกว่า 8 ชั่วโมง ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 ชั่วโมง พรรคฝ่ายค้าน 10 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้ประสานกับสภาฯ เบื้องต้นทางสภา อยากให้มีการเลื่อนการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่วันที่ 6-8 ต.ค.ก็เป็นได้ แต่ว่ายังไม่ใช่ข้อสรุป
เมื่อถามว่า กรณีที่ส.ว.ได้ไปยื่นตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีต่อกกต. นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ตรวจสอบได้ แต่ดูข้อหาและรายละเอียดคร่าวๆแล้ว ไม่เห็นว่าจะเข้าข่าย เชื่อว่านายกฯได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วนแล้ว
ถามว่าได้ให้คำแนะนำอะไรต่อนายกฯหรือไม่ นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า หากท่านถามก็จะให้คำแนะนำ แต่เชื่อว่าท่านเข้าใจดีอยู่แล้ว ซึ่งการยื่นตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ไม่ถือเป็นอุปสรรคในการทำงาน
นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า ในการประชุมครม.วันนี้ จะมีการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะได้ดูด้านกฎหมายเป็นหลัก เพราะถูกเชิญให้มาดูเรื่องนี้ และมีความเป็นได้ที่ นายสุพล ฟองงาม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาจได้ดูเรื่องสื่อ แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่ารัฐมนตรีอาจได้ดูงานทั้ง 2 ส่วน เพราะส่วนราชการของสำนักนายกฯ มีประมาณ 11-12 หน่วยงาน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ จากพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการปรับเปลี่ยนร่างนโยบายบางส่วน แต่ในภาพรวมก็ไม่ต่างจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช โดยนโยบายที่มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม จะเน้นไปในเรื่องของการศึกษา คือ จะเน้นด้านประวัติศาสตร์ และให้นักเรียนได้เรียน 2-3 ภาษา ขณะที่ด้านท่องเที่ยว ก็จะเข้าไปเพิ่มที่ศักยภาพที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนนโยบายด้านการสร้างความปรองดอง ก็ยังมีจุดยืนที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคญอยู่ คือจะเป็นนโยบายเร่งด่วนภายใน 1 ปี สรุปคือนโยบายมีการเพิ่มนโยบายจาก 15 ด้าน เป็น 16 ด้าน ขณะที่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มีการพูดถึง
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง จากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า เรื่องที่เราต้องเน้นคือ เรื่องของความปรองดองสมานฉันท์ อย่างไรก็ตามประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ คงจะมีการหารือในที่ประชุม ครม.วันนี้ ว่าจะบรรจุลงในคำแถลงนโยบายหรือไม่
นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ทางสภาแจ้งมาว่า ต้องการจะให้มีการแถลงนโยบายในวันที่ 6 - 7 ต.ค. แต่ทางรัฐบาลอาจจะมีการแถลงในวันที่ 7- 8 ต.ค.นี้ เนื่องจากวันที่ 7 ต.ค.เป็นวันประชุม ครม.
**"ณัฐวุฒิ"นั่งโฆษกรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครม.วันนี้ นายกรัฐมนตรี จะเสนอรายชื่อ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ เสนอรายชื่อทีมโฆษกรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นโฆษกฯ แทน พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ พร้อมกับแต่งตั้ง น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ , น.ส. ณ หทัย ทิวไผ่งาม และน.ส.วิรินทิรา นาทองบ่อจรัส เป็นทีมรองโฆษกรัฐบาล
สำหรับสาเหตุที่นายกฯปรับ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ ออกจากโฆษกรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิเชียรโชติ เล่นบทปกป้อง แก้ข้อกล่าวหาให้กับนายกฯ และรัฐบาลน้อยเกินไป แต่อย่างไรก็ตามนายกฯจะยังคงให้ไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งอื่นแทน