ในจำนวน 3 นายกรัฐมนตรี คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช (อดีตนายกรัฐมนตรี) และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เป็นนายสมัคร สุนทรเวช คนที่เคยประกาศอย่างหนักหนาว่า ถ้าหากเขามิใช่คนดี ก็ไม่มีวันเดินทางมาถึงจุดนี้ (ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) ที่ถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา
ไม่รอลงอาญาทั้งที่นายสมัคร สุนทรเวช อ้างต่อศาลว่าเคยทำคุณงามความดีเอาไว้มาก ได้เครื่องราชฯ ก็ระดับเกือบสูงสุด เพราะศาลเห็นว่า ไม่ได้มีสำนึกผิด ไม่กลับเนื้อกลับตัว
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นายสมัคร สุนทรเวช ต้องตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีที่เขาไปจัดรายการโทรทัศน์ ชิมไปบ่นไป โดยอ้างว่า เมื่อเขามาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาจัดรายการโทรทัศน์ดังกล่าวไม่ได้รับค่าตอบแทน
แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เชื่อ
เขามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งด้วยมติของพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถึงวันโหวตลงคะแนนให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง องค์ประชุมกลับไม่ครบ
ตอนนี้นายสมัคร สุนทรเวช ต้องตระหนักแล้วละว่า เขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ใกล้คุกที่สุด รอการยื่นฎีกา รอการพิจารณาของศาลฎีกา
นายกรัฐมนตรีที่มีอนาคตว่าจะต้องติดคุกอีกคน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะนี้มีหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว 5 ฉบับ มีคดีที่พิจารณาแล้วเสร็จ 1 คดี และที่กำลังพิจารณาอยู่อีกหลายคดี
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอาจจะหลุดทุกคดี หรืออาจจะติดคุกทุกคดี หรือมีคดีใดคดีหนึ่งที่เขาไม่รอด ซึ่งในความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงจะเห็นแล้วละว่า รอดลำบาก จึงต้องหอบหิ้วภริยาคือ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และลูกๆ ทั้ง 3 ไปอยู่อังกฤษ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวยังอยู่เป็นอิสระที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่การพลัดที่อยู่ที่กินไปอย่างนั้นก็เหมือนติดคุกโลก ติดคุกสังคม
เขาประกาศว่า คดีของเขาเป็นคดีการเมือง ต้องแก้ไขด้วยการเมือง
คำว่าแก้ไขด้วยการเมืองก็คือ การออกกฎหมายให้เขาพ้นผิด ไม่เอาโทษเขาและภริยา และอาจจะรวมไปถึงลูกๆ ด้วย
รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลหุ่นของเขาพยายามที่จะช่วยแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะมีประชาชนออกมาคัดค้าน ไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแข็งขัน เอาจริงเอาจัง
เมื่อเห็นว่า นายสมัคร สุนทรเวช รับใช้ไม่ได้อย่างเต็มที่ ก็เปลี่ยนมาเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของเขาแทน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีผู้เป็นน้องเขย ซึ่งได้ฉายาว่า นายกฯ แฟมิลี่ จะช่วยได้หรือ เพราะมาถึงวันนี้ ลำพังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เองก็แทบจะเอาตัวให้รอดลำบาก
ต้องไม่ลืมว่า เขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดดังกล่าวมีเขารวมอยู่ด้วย ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าทำผิดมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ
ถ้าหากอนุกรรมการของ ป.ป.ช.ที่พิจารณาเรื่องนี้ไม่พิจารณาด้วยความสุขุมคัมภีรภาพจนเกินเหตุ ป่านนี้ก็รู้เรื่องกันไปแล้ว
ยังมีกรณีที่ผู้คนเขาลืมกันไปแล้ว แต่มานึกขึ้นได้ตอนที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก้าวจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช นั่นก็คือ ภริยาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คือ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เคยวิ่งเต้นช่วยเหลือพี่ชาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นจากกรณีซุกหุ้น โดยไปเจรจากับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งให้ช่วย ตกปากรับคำจะให้ลูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านนั้นเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ กระทรวงการต่างประเทศ หรือถ้าหากอยากจะเล่นการเมืองก็จะให้อยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ระดับต้นๆ
ปัญหาก็คือ เวลานั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รู้เห็นเป็นใจกับภริยาหรือไม่
ถ้าหากรู้เห็นเป็นใจ ก็เป็นเรื่องคุก เรื่องตะรางอีก
ในบรรดานายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่มีมาแล้ว 26 คน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นคนเดียวที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชนิดที่ขาดความสง่า โอ่อ่า ผ่าเผย ที่สุด เริ่มตั้งแต่ถูกมองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีครอบครัวที่จะต้องทำตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้แต่การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีซึ่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปากแข็งบอกว่า เขาคนเดียวเท่านั้นที่พิจารณา แต่เมื่อประกาศรายชื่อออกมาก็เป็นที่รู้กันว่า คุณหญิง คุณนาย และลูกกระเป๋งคนไหนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้วิ่งเต้นจัดการ
และท้ายที่สุดคนอนุมัติคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง
ในสายตาของผู้คนทั้งหลายทั้งปวง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีจึงถูกดูแคลน
เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านนครศรีธรรมราช เพื่อให้ญาติพี่น้องครูบาอาจารย์ที่เคยสอนชื่นชมในบุญบารมีที่ก้าวมาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเป็นคหบดี ผู้มั่งคั่ง ครูที่เคยสอนก็อดที่จะแนะไม่ได้ว่า ขอให้เป็นตัวของตัวเอง อย่าได้เกรงอกเกรงใจเมียเสียจนเกินเหตุ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแฟมิลี่ประกาศว่า จะอยู่ในตำแหน่ง 3 ปีกว่า ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช ที่เคยประกาศจะอยู่ครบเทอม 4 ปี แต่เอาเข้าจริงก็อยู่ได้เพียง 6-7 เดือนเท่านั้นเอง
เพียงไม่กี่สัปดาห์ไปเยี่ยมบ้านเกิดก็มีขบวนประชาชนไปด่า ไปหาเสียงช่วยลูกพรรคที่สยามพารากอนก็มีเสียงตะโกนไล่ ไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันที่เขาเรียนจบมาก็โดนศิษย์เก่าด้วยกันโห่
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีจะทนไปได้สักกี่มื้อกี่ยาม
ความเป็นตุลาการเก่ารู้สึกอย่างไรที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่ว่า ภริยาของเขาคือ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ร่ำรวยผิดปกติ ลูกๆ ร่ำรวยผิดปกติ
ยังไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีคนไหนเจอวิบากกรรมเช่นนี้เลย
ไม่รอลงอาญาทั้งที่นายสมัคร สุนทรเวช อ้างต่อศาลว่าเคยทำคุณงามความดีเอาไว้มาก ได้เครื่องราชฯ ก็ระดับเกือบสูงสุด เพราะศาลเห็นว่า ไม่ได้มีสำนึกผิด ไม่กลับเนื้อกลับตัว
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นายสมัคร สุนทรเวช ต้องตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีที่เขาไปจัดรายการโทรทัศน์ ชิมไปบ่นไป โดยอ้างว่า เมื่อเขามาเป็นนายกรัฐมนตรี เขาจัดรายการโทรทัศน์ดังกล่าวไม่ได้รับค่าตอบแทน
แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เชื่อ
เขามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งด้วยมติของพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถึงวันโหวตลงคะแนนให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง องค์ประชุมกลับไม่ครบ
ตอนนี้นายสมัคร สุนทรเวช ต้องตระหนักแล้วละว่า เขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่ใกล้คุกที่สุด รอการยื่นฎีกา รอการพิจารณาของศาลฎีกา
นายกรัฐมนตรีที่มีอนาคตว่าจะต้องติดคุกอีกคน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะนี้มีหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว 5 ฉบับ มีคดีที่พิจารณาแล้วเสร็จ 1 คดี และที่กำลังพิจารณาอยู่อีกหลายคดี
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอาจจะหลุดทุกคดี หรืออาจจะติดคุกทุกคดี หรือมีคดีใดคดีหนึ่งที่เขาไม่รอด ซึ่งในความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงจะเห็นแล้วละว่า รอดลำบาก จึงต้องหอบหิ้วภริยาคือ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และลูกๆ ทั้ง 3 ไปอยู่อังกฤษ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวยังอยู่เป็นอิสระที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่การพลัดที่อยู่ที่กินไปอย่างนั้นก็เหมือนติดคุกโลก ติดคุกสังคม
เขาประกาศว่า คดีของเขาเป็นคดีการเมือง ต้องแก้ไขด้วยการเมือง
คำว่าแก้ไขด้วยการเมืองก็คือ การออกกฎหมายให้เขาพ้นผิด ไม่เอาโทษเขาและภริยา และอาจจะรวมไปถึงลูกๆ ด้วย
รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลหุ่นของเขาพยายามที่จะช่วยแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะมีประชาชนออกมาคัดค้าน ไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแข็งขัน เอาจริงเอาจัง
เมื่อเห็นว่า นายสมัคร สุนทรเวช รับใช้ไม่ได้อย่างเต็มที่ ก็เปลี่ยนมาเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของเขาแทน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีผู้เป็นน้องเขย ซึ่งได้ฉายาว่า นายกฯ แฟมิลี่ จะช่วยได้หรือ เพราะมาถึงวันนี้ ลำพังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เองก็แทบจะเอาตัวให้รอดลำบาก
ต้องไม่ลืมว่า เขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดดังกล่าวมีเขารวมอยู่ด้วย ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าทำผิดมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ
ถ้าหากอนุกรรมการของ ป.ป.ช.ที่พิจารณาเรื่องนี้ไม่พิจารณาด้วยความสุขุมคัมภีรภาพจนเกินเหตุ ป่านนี้ก็รู้เรื่องกันไปแล้ว
ยังมีกรณีที่ผู้คนเขาลืมกันไปแล้ว แต่มานึกขึ้นได้ตอนที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก้าวจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช นั่นก็คือ ภริยาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คือ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เคยวิ่งเต้นช่วยเหลือพี่ชาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นจากกรณีซุกหุ้น โดยไปเจรจากับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งให้ช่วย ตกปากรับคำจะให้ลูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านนั้นเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ กระทรวงการต่างประเทศ หรือถ้าหากอยากจะเล่นการเมืองก็จะให้อยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ระดับต้นๆ
ปัญหาก็คือ เวลานั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รู้เห็นเป็นใจกับภริยาหรือไม่
ถ้าหากรู้เห็นเป็นใจ ก็เป็นเรื่องคุก เรื่องตะรางอีก
ในบรรดานายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่มีมาแล้ว 26 คน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นคนเดียวที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชนิดที่ขาดความสง่า โอ่อ่า ผ่าเผย ที่สุด เริ่มตั้งแต่ถูกมองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีครอบครัวที่จะต้องทำตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้แต่การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีซึ่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปากแข็งบอกว่า เขาคนเดียวเท่านั้นที่พิจารณา แต่เมื่อประกาศรายชื่อออกมาก็เป็นที่รู้กันว่า คุณหญิง คุณนาย และลูกกระเป๋งคนไหนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้วิ่งเต้นจัดการ
และท้ายที่สุดคนอนุมัติคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง
ในสายตาของผู้คนทั้งหลายทั้งปวง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีจึงถูกดูแคลน
เมื่อกลับไปเยี่ยมบ้านนครศรีธรรมราช เพื่อให้ญาติพี่น้องครูบาอาจารย์ที่เคยสอนชื่นชมในบุญบารมีที่ก้าวมาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเป็นคหบดี ผู้มั่งคั่ง ครูที่เคยสอนก็อดที่จะแนะไม่ได้ว่า ขอให้เป็นตัวของตัวเอง อย่าได้เกรงอกเกรงใจเมียเสียจนเกินเหตุ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแฟมิลี่ประกาศว่า จะอยู่ในตำแหน่ง 3 ปีกว่า ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช ที่เคยประกาศจะอยู่ครบเทอม 4 ปี แต่เอาเข้าจริงก็อยู่ได้เพียง 6-7 เดือนเท่านั้นเอง
เพียงไม่กี่สัปดาห์ไปเยี่ยมบ้านเกิดก็มีขบวนประชาชนไปด่า ไปหาเสียงช่วยลูกพรรคที่สยามพารากอนก็มีเสียงตะโกนไล่ ไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันที่เขาเรียนจบมาก็โดนศิษย์เก่าด้วยกันโห่
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีจะทนไปได้สักกี่มื้อกี่ยาม
ความเป็นตุลาการเก่ารู้สึกอย่างไรที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่ว่า ภริยาของเขาคือ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ร่ำรวยผิดปกติ ลูกๆ ร่ำรวยผิดปกติ
ยังไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีคนไหนเจอวิบากกรรมเช่นนี้เลย