“พิภพ” ลั่น เตรียมฟ้องม็อบถ่อยอุดรฯ ฐาน “ฆ่า” และ “พยายามฆ่า” พันธมิตรฯ พร้อมเอาผิดกราวรูด ผู้ว่าฯ ผู้การจังหวัด ผบ.ตร.ยันนายกฯ-มท.1 ยันกัดไม่ปล่อยแน่ เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ จวก 3 รมต.หวยบนดินยังปฏิบัติหน้าที่ถือว่าขัดขวางกระบวนการยุติธรรม แนะ ขรก.ใต้บังคับบัญชาทำอารยะขัดขืน เรียก “3 หนาหน้าหวย” พร้อมย้ำต้านการแก้ไข รธน.ที่ทำลายหลักกฎหมาย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันที่ 29 ก.ค.เมื่อเวลา 20.55 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาพูดสาระสำคัญหลายเรื่องว่า เหตุการณ์บ้านเมืองในตอนนี้เป็นอย่างไร และต้องใช้กลยุทธ์อะไรในการต่อสู้เพื่อนำความชอบธรรมคืนมา อย่างกรณีที่จังหวัดอุดรฯ ที่สภาพเหตุการณ์คล้ายๆ กับที่มหาสารคาม และคล้ายๆ เหตุการณ์เมื่อ 6 ตุลาในอดีต ขนาดคนล้มไปแล้วยังจะตามไปเหยียบซ้ำอีก ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่มีการตายเกิดขึ้น แต่ลักษณะของการกระทำนั้นคล้ายๆ กัน คือรุมเข้าไปทุบตีประชาชน และตำรวจยังคงเฉยเมยเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลา
“เพราะฉะนั้นก็มีการโยงกันไปว่านี่เป็นเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้สึกใดๆ เลยที่จะออกมาขอโทษ สำหรับเฉลิมไม่ต้องเป็นห่วง เราดูวิดีโอคลิปเราก็รู้แล้วว่าซ่าไปหมดเลย ไม่ได้สำนึกอะไรเลย คนแบบนี้จะต้องไม่ให้เกิดทางการเมืองอีก ไม่ว่าจะอยู่พรรคใด สมัครในนามปาร์ตี้ลิสต์หรือ ส.ส.อะไร ให้ไปทำมาหากินเป็นอันธพาลทางการเมืองไป ถ้าอยากเป็นอันธพาล”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่จังหวัดอุดรธานีนั้นเราจะไม่ลืมเมื่อตำรวจพยายามช่วยคนที่พยายามฆ่าโดยตั้งข้อหาเบามาก เราจะไปฟ้องศาลเองเพื่อตั้งข้อหาฆ่า และพยายามฆ่า แล้วจะฟ้องที่กรุงเทพฯ เพราะหลักฐานชัดเจนมาก ตำรวจบอกว่ากำลังรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ภาพในวิดีโอชัดเจนมากว่าแต่ละคนหน้าตาเป็นอย่างไร ถึงไม่รู้จักชื่อก็ประกาศจับได้ทันที
“ทำไมผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ไม่รู้จักชื่อ ใช้ภาพสเกตช์ยังประกาศจับได้เลย นี่เห็นชัดๆ ว่าพยายามฆ่า ทุบลงไป กระทืบ เอาไม้ฟาด แสดงว่าตำรวจเป็นใจแน่นอน ใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นเราจะฟ้องตำรวจด้วย ฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ฟ้องผู้กำกับการจังหวัดด้วย ฟ้องผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย ฟ้องนายกรัฐมนตรีด้วย ฟ้องเฉลิมด้วย ใช่หรือเปล่าครับ
“เรากัดไม่ปล่อยแน่ เราจะใช้วิธีการทางกฎหมายทำไปตามขั้นตอน เพราะว่าถ้าเราไม่ใช้วิธีการทางกฎหมาย ระบบนิติรัฐจะไม่เกิด”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า 3 รัฐมนตรีที่ไม่ยอมออกหลังจากศาลฎีการับฟ้องคดีหวยบนดิน ถ้าเป็นที่สหรัฐอเมริกา ทั้ง 3 จะถือว่าขัดขวางกระบวนการยุติธรรม เพราะรัฐธรรมนูญมีอยู่แล้วว่าถ้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลงมติ และกฎของ ป.ป.ช.ก็มีอยู่แล้วว่า จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกาโทษหนักมาก ระดับประธานาธิบดีก็โดนมาแล้ว กรณีขัดขวางกระบวนการยุติธรรม เราอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
แล้วคณะรัฐมนตรี ก็ไม่มีส่วนสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมยังตะแบง ไม่อยากจะทำให้เป็นระบบนิติรัฐ วันนี้รัฐมนตรีไม่จำเป็นจะต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลพิจารณาหรอก เพราะเพียงแค่นี้อ่านรัฐธรรมนูญก็รู้ เพราะฉะนั้นต้องแสดงสปิริตว่าตัวเองจะไม่ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่ถูกต้อง ตัวเองก็จะกลับมาอย่างมีสง่าราศี แต่นี่แสดงว่านักการเมืองบ้านเราไม่สนใจในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ขัดขวางทุกอย่างแม้คดีจะมาถึงตัว และความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอย่างหนึ่ง
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เมื่อครั้งที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษาว่าให้พันธมิตรฯ รื้อเวทีที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ถึงเราไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องปฏิบัติตาม แม้ว่าเราจะมีคนเป็นแสนจะดื้อดึงก็ได้ แต่เราก็ต้องเคารพกฎหมายเพื่อให้เป็นตัวอย่าง แต่ 3 รัฐมนตรีชุดนี้ไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่เราสั่งสอนเลย แสดงว่าพรรคนี้สืบทอดการไม่ยอมรับกฎหมายมาจากพรรคไทยรักไทย
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ถ้าหากศาลได้พิจารณาคดีต่างๆที่มีความผิดแล้ว สามาถนำนายกฯติดคุกได้ การเมืองจะพลิกโฉมทันที ซึ่งพวกนี้พวกเราทุกคนต่างรู้กันดีว่าทุจริตคอร์รัปชันกันมาหลายยุคสมัยแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ มีรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์เอาเข้าคุกได้ 1 คน สมัยนายชวนได้ 1 คน หากเราทำให้เกิดขึ้นจริงได้ที่รัฐบาลชุดนี้ เมื่อมีรัฐบาลชุดต่อไปนักการเมืองจะกลัวกาติดคุก และไม่กล้าคอร์รัปชัน
นายพิภพ กล่าวต่อว่า วันนี้นอกจากการชุมนุมกดดัน แล้วให้เวลากับตุลาการแล้ว จะต้องพยายามรักษารัฐธรรมนูญไม่ให้ถูกแก้ไขได้ การที่มีคนออกมากล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกแทรกแซง ตนขอบอกเลยว่ามันไม่จริง ถ้าหากจะบอกเช่นนั้น รัฐธรรมนูญน่าจะถูกฉีกมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณแล้ว เนื่องจากไม่เคารพกฎหมายในบางข้อและมีความพยายามที่จะเปลี่ยนข้อกฎหมายเหล่านั้น และการที่ทหารทำรัฐประหารแล้วร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่นั้น ก็เพื่อที่จะแก้ไขสิ่งที่เป็นช่องโหว่และเปลี่ยนจากที่โดนฉีกก่อนหน้านี้ให้กลับมาเป็นดังเดิม ซึ่งตนขอบอกก่อนว่าไม่ได้เข้าข้างทหารแต่อย่างใด
ส่วนเรื่อง 3 รัฐมนตรีนั้นมีคนถามกันมากมายว่าจะทำอย่างไรดี อย่างแรกสำหรับพวกเราคือให้เรียกพวกนี้ว่า 3 หนาหน้าหวย ต่อไปคือให้ข้าราชการทั้งหลายที่ทำงานอยู่กับทั้ง 3 พยายามขัดขืนแบบที่พวกเราเคยประกาศใช้อารยะขัดขืน คือไม่ต้องทำตามเมื่อได้รับคำสั่ง เท่านั้นยังไม่พอต้องไม่พูดด้วย และถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกิจการใดๆ ก็ตาม ให้แสดงการขัดขืนไปเลย ว่าเราไม่อยากให้คนที่มีความผิดทำงานต่อไป
นายพิภพ กล่าวต่อว่า พวกเราต้องหยุดยั้งความเหนื่อย ด้วยความยุติธรรม และขอให้ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีของนายสมัคร ซึ่งช่องทางกฎหมายมีอยู่หลายช่องทาง ที่จะนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ วันนี้พวกเราต้องเล่นกันด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องการชุมนุมนั้นเป็นพลังที่คอยช่วยเสริม ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มีความหมายมาก เราต้องรักษากันเอาไว้ให้ได้โดยใช้ทั้งกฎหมายและการชุมนุม โดยไม่ขอเวลามากมายเอาให้เด็ดขาดภายในสิ้นเดือนสิงหานี้ไปเลย
นายพิภพ กล่าวในตอนท้ายว่า ให้ระวังลัทธิใหม่ที่ชื่อ ลัทธิทักษิโณมิกส์ หรือ ลัทธิทักษิณนิยม อย่าให้เข้ามาครอบครองบ้านเมืองนี้ได้ ส่วนพฤติกรรมการแอบอ้างเผด็จการนั้น เราต้องใช้กำลังอย่างสันติเข้าขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ นี่คือปมเงื่อนสำคัญ