รวบพี่เขยน้องเมียและหลานร่วมกันลักทรัพย์บ้านอดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคไทยรักไทย และนายตำรวจนักสร้างจตุคามชื่อดัง ได้ทรัพย์สินหลายรายการแต่ไปไม่รอด เพื่อนบ้านจำหน้าได้ขับรถตามไปติดๆ ตำรวจตามไปรวบตัวได้คาบ้านพัก เจ้าตัวอ้างจะนำเงินไปรักษาตัวที่เพิ่งถูกรถชนมาเมื่อไม่นาน
วันนี้ (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ต.ธรากร เลิศพรเจริญ สว.สส.สน.โชคชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายวินัย หรือนัย เชื้อชุ่ม อายุ 35 ปี 2.นายชุมแพ หรือหอย ญาณโกมุต อายุ 22 ปี และ 3.ด.ช.แหลม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พร้อมของกลาง พระพุทธรูปทองเหลืองปางนาคปรก หน้าตัก 8 นิ้ว สูง 32 นิ้ว พระเครื่อง จำนวน 7 องค์ และโทรทัศน์ติดรถยนต์ 1 เครื่อง โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ บ้านเลขที่ 35/34 ชุมชนสุขทรัพย์ ถ.สุคนธสวสดิ์ แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
พ.ต.ต.ธรากร กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 07.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.โชคชัย ว่ามีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 162 หมู่บ้านอมรพันธ์ 9 หมู่ 11 แขวงและเขตลาดพร้าว จึงนำกำลังเจ้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของ พล.ต.ท.สรรเพชร ธรรมาธิกุล อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคไทยรักไทย และนักสร้างจตุคามชื่อดัง โดยคนร้ายอาศัยจังหวะที่ไม่มีคนอยู่บ้านปีนรั้วเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้นำของที่ขโมยมาใส่รถซาเล้งแล้วขับหลบหนีไป
พ.ต.ต.ธรากร กล่าวต่อว่า โชคดีที่มีเพื่อบ้านของผู้เสียหายเห็นเหตุการณ์จึงขับรถตามคนร้ายไปจนถึงบริเวณซอยเสือใหญ่อุทิศ และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธินให้ช่วยสกัดจับคนร้าย แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้ทิ้งรถซาเล้งไว้แล้วหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสืบหาเบาะแสของคนร้าย โดยประสานขอข้อมูลไปยังสน.พหลโยธิน จนทราบว่านายชุมแพกับพวกเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ จึงตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักพร้อมของกลาง
จากการสอบสวนนายชุมแพ ให้การรับสารภาพว่าตนไม่ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของใคร เพียงแค่ผ่านเห็นว่ามีเหล็กที่พอจะขโมยไปขายได้จึงปีนรั้วเข้าไป แต่ก็เข้าไปภายในบ้านไปขโมยเอาพระมาด้วย โดยมี ด.ช.แหลม คอยรับของใส่รถซาเล้งอยู่ด้านนอก ซึ่งนายวินัยพี่เขยตนไม่ได้มาด้วยแต่หลังเกิดเหตุตนได้หนีตำรวจไปหลบอยู่ที่บ้าน โดยเอาของที่ขโมยมาให้พี่เขยดู แต่ยังไม่ทันได้เอาของไปขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมตัวเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ทำให้มาขโมยของก็เพราะต้องการนำเงินไปรักษาตัวโดยการผ่าตัดหน้าท้องเนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ตนประสบอุบัติเหตุถูกรถชน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานโดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร และตรวจสอบประวัติว่าเคยก่อคดีในท้องที่ใดบ้างก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
