ผู้จัดการรายวัน-บริษัทประกันเมินทำประกันภัยน้ำท่วมโกดังเก็บข้าวรัฐบาล อ้างอยู่พื้นที่เสี่ยง บอร์ดอคส.เตรียมหารือด่วน เสนอ “ไชยา”ยืมมือคลังเจรจาบริษัทประกันช่วย
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้บริษัทประกันภัยในประเทศ และในต่างประเทศ ปฏิเสธทำประกันภัยน้ำท่วมโกดัง และคลังสินค้าที่รับฝากเก็บข้าวของรัฐจากโครงการรับจำนำ ทั้งสต๊อกเก่า 2.1 ล้านตันข้าวสาร และสต๊อกใหม่จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ที่สั่งสีแปรสภาพและส่งมอบเข้าโกดังแล้วประมาณ 1 ล้านตันข้าวสาร โดยอ้างว่า ไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยน้ำท่วม และพื้นที่ประสบภัยขยายเพิ่มขึ้นทุกปี ที่สำคัญโกดัง และคลังฝากเก็บข้าวของรัฐส่วนใหญ่จะอยู่ในที่ราบลุ่มภาคกลาง ซึ่งเสี่ยงต่อน้ำท่วมอย่างมาก โดยบริษัทประกันภัยขอรับประกันภัยอัคคีภัยอย่างเดียว แต่รัฐบาลต้องรับความเสี่ยงร่วมด้วย 10% หากเกิดความเสียหายขึ้น
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือเป็นปีที่ 2 ที่บริษัทประกันภัยปฏิเสธการรับประกันภัยจากน้ำท่วม เพราะเกรงว่า หากรับทำประกันภัยไปแล้ว บริษัทจะขาดทุน อย่างไรก็ตาม องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งเป็นผู้เช่าโกดัง และคลังสินค้า ได้แก้ปัญหาด้วยการพยายามหาโกดัง และคลังสินค้าในที่ดอนที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่ติดปัญหาที่จำนวนโกดังไม่เพียงพอที่จะฝากเก็บข้าวรัฐ โดยเฉพาะในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2551/52 ที่รัฐกำหนดเป้าหมายรับจำนำที่ 8 ล้านตันข้าวเปลือก แต่คาดจะมีข้าวเข้าโครงการสูงถึง 10-12 ล้านตัน เพราะรัฐกำหนดราคารับจำนำสูงถึงตันละ 14,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดถึงตันละ 1,500-2,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ นายถิระชัย วุฒิธรรม ประธานคณะกรรมการอคส. (บอร์ด) คนใหม่ จะประชุมบอร์ดอคส.ครั้งแรก คาดจะพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอให้นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เจรจากับกระทรวงคลังให้ประสานบริษัทประกันภัยพิจารณารับประกันภัยบางส่วนด้วย
ที่ผ่านมา โกดัง และคลังสินค้าฝากเก็บข้าวรัฐมักไม่ถูกน้ำท่วม เพราะอคส. และเจ้าของโกดังได้ร่วมกันป้องกันภัยน้ำท่วมเป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องการให้เกิดความเสียกับข้าวรัฐ แต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้บริษัทประกันภัยในประเทศ และในต่างประเทศ ปฏิเสธทำประกันภัยน้ำท่วมโกดัง และคลังสินค้าที่รับฝากเก็บข้าวของรัฐจากโครงการรับจำนำ ทั้งสต๊อกเก่า 2.1 ล้านตันข้าวสาร และสต๊อกใหม่จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ที่สั่งสีแปรสภาพและส่งมอบเข้าโกดังแล้วประมาณ 1 ล้านตันข้าวสาร โดยอ้างว่า ไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยน้ำท่วม และพื้นที่ประสบภัยขยายเพิ่มขึ้นทุกปี ที่สำคัญโกดัง และคลังฝากเก็บข้าวของรัฐส่วนใหญ่จะอยู่ในที่ราบลุ่มภาคกลาง ซึ่งเสี่ยงต่อน้ำท่วมอย่างมาก โดยบริษัทประกันภัยขอรับประกันภัยอัคคีภัยอย่างเดียว แต่รัฐบาลต้องรับความเสี่ยงร่วมด้วย 10% หากเกิดความเสียหายขึ้น
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือเป็นปีที่ 2 ที่บริษัทประกันภัยปฏิเสธการรับประกันภัยจากน้ำท่วม เพราะเกรงว่า หากรับทำประกันภัยไปแล้ว บริษัทจะขาดทุน อย่างไรก็ตาม องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งเป็นผู้เช่าโกดัง และคลังสินค้า ได้แก้ปัญหาด้วยการพยายามหาโกดัง และคลังสินค้าในที่ดอนที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่ติดปัญหาที่จำนวนโกดังไม่เพียงพอที่จะฝากเก็บข้าวรัฐ โดยเฉพาะในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2551/52 ที่รัฐกำหนดเป้าหมายรับจำนำที่ 8 ล้านตันข้าวเปลือก แต่คาดจะมีข้าวเข้าโครงการสูงถึง 10-12 ล้านตัน เพราะรัฐกำหนดราคารับจำนำสูงถึงตันละ 14,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดถึงตันละ 1,500-2,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ นายถิระชัย วุฒิธรรม ประธานคณะกรรมการอคส. (บอร์ด) คนใหม่ จะประชุมบอร์ดอคส.ครั้งแรก คาดจะพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอให้นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เจรจากับกระทรวงคลังให้ประสานบริษัทประกันภัยพิจารณารับประกันภัยบางส่วนด้วย
ที่ผ่านมา โกดัง และคลังสินค้าฝากเก็บข้าวรัฐมักไม่ถูกน้ำท่วม เพราะอคส. และเจ้าของโกดังได้ร่วมกันป้องกันภัยน้ำท่วมเป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องการให้เกิดความเสียกับข้าวรัฐ แต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ประสบภัยน้ำท่วม