ทอท.ยอมรับปัญหารถเข็นกระเป๋าขาดแคลนจริงทั้งชำรุดและถูกขโมย เหลือใช้งานประมาณ 4,000 –5,000 คันจากทั้งหมด 9,034 คัน จี้ TAGS แก้ไขปัญหาในฐานะผู้รับจ้างจัดหาและบริหารจัดการ พร้อมเพิ่มเจ้าหน้าที่หมุนเวียนรถในชั่วโมงที่ผู้โดยสารคับคั่ง ด้านผู้บริหารTAGS เลี่ยงตอบ อ้างไม่สะดวก
นายฉัตร หาญพัฒนนันท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายบำรุงรักษาและสารสนเทศ) รักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึง กรณีที่มีข่าวว่า รถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน เนื่องจากประสบปัญหารถเข็นชำรุดและส่วนหนึ่งถูกขโมยนั้น จากรายงานล่าสุดพบว่าจำนวนรถเข็นกระเป๋าที่ให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คงเหลือใช้งานประมาณ 4,000 – 5,000 คัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหารถเข็นกระเป๋ามีน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของผู้โดยสาร ซึ่งปัญหาดังกล่าวทอท.ได้มีการเร่งรัดให้ บริษัท ไทย แอร์พอร์ต กราวด์ เซอรวิส จำกัด หรือ TAGS ผู้รับดำเนินการให้บริการรถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ กรณีที่รถเข็นกระเป๋าชำรุดและต้องส่งซ่อมนั้น ได้กำชับให้บริษัท TAGS ต้องดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง และหากกรณีรถเข็นกระเป๋าสูญหายนั้น ทาง TAGS จะต้องจัดหารถเข็นกระเป๋ามาให้บริการได้ครบตามจำนวนที่สัญญากำหนด และภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่นกัน หาก TAGS ไม่สามารถดำเนินการจัดหาได้ TAGS จะต้องเสียค่าปรับ เป็นเงิน 2,000 บาทต่อคันต่อวัน
นายฉัตรยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการปรับเงินบริษัท TAGS ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามทราบมาว่า ขณะนี้ TAGS อยู่ในระหว่างการเร่งจัดหารถเข็นกระเป๋ามาทดแทนให้อยู่ และในเบื้องต้น TAGS ได้จัดให้มีพนักงานเพิ่มเติมเพื่อคอยจัดเก็บและดูแลการให้บริการรถเข็นกระเป๋าให้มีจำนวนที่พอเพียงต่อการใช้งานในชั่วโมงเร่งด่วนไปพลางก่อน
สำหรับกรณีที่มีปัญหาการขโมยรถเข็นกระเป๋านั้นนายฉัตรกล่าวว่า ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการติดตามคนร้าย อาทิ การใช้ภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐานจับผิดคนร้าย การให้ความช่วยเหลือตำรวจในการจับกุม เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาทราบมาว่า ทางตำรวจได้มีการจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 รายและอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ ทอท. ได้มีการว่าจ้าง บริษัท ไทย แอร์พอร์ต กราวด์ เซอรวิส จำกัด หรือ TAGS (แท็กส์) เป็นผู้ดำเนินการให้บริการรถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นผู้ดำเนินการ เป็นระยะเวลา 7 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.2549 – 28 ก.ย.2556 ในวงเงินว่าจ้างทั้งสิ้น 532,860,600 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
ตามสัญญาทางบริษัท TAGS จะต้องจัดหาและบริหารจัดการรถเข็นกระเป๋าขนาดต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ในการให้บริการด้วย โดยจำนวนรถเข็นกระเป๋าที่จะต้องมีให้บริการตามสัญญาจะมีจำนวนทั้งสิ้น 9,034 คัน แบ่งเป็นรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง จำนวน 7,000 คัน รถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน และรถเข็นกระเป๋าขนาดใหญ่ จำนวน 34 คัน และในการดำเนินงานนั้น ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ควบคุม กำกับดูแลและตรวจเช็คจำนวนของรถเข็นกระเป๋าว่า มีจำนวนที่ครบถ้วนตามที่สัญญากำหนดหรือไม่ โดยจะมีการสรุปรายงานเป็นประจำทุกสิ้นเดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อผู้บริหารของบริษัท TAGS แล้วแต่ได้รับการปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และข้อมูล โดยอ้างว่าไม่สะดวกและเรื่องนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบดูแลอยู่
สุวรรณภูมิซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี
น.ท.ประทีป วิจิตรโท รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ) ทอท.เปิดเผยว่า ในนี้ (24 ก.ย.) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะจัดให้มีการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน ประจำปี 2551 หรือ SEMEX 08 ระหว่างเวลา 08.30 – 12.00 น. บริเวณลานจอดอากาศยาน ด้านหน้าศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยจำลองสถานการณ์กรณีการปล้นยึดอากาศยานขณะปฏิบัติการบิน และขอนำลงจอดฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการฝึกซ้อม เต็มรูปแบบ(Full Scale Emergency Exercise) ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่ กำหนดให้ดำเนินการ อย่างน้อย 1 ครั้ง ทุก 2 ปี สลับกับการฝึกซ้อมบางส่วน (Partial Emergency Exercise) อย่างน้อยปีละครั้ง
สำหรับการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉิน จะช่วยให้หน่วยงานทั้งภายใน ทอท. และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องตามแผน ได้เรียนรู้ขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง สามารถควบคุมสั่งการ ประสานงานร่วมกัน ในการรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัย ทสภ. ให้ได้มาตรฐานตามที่ ICAO กำหนด สำหรับการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินในครั้งนี้ ทสภ. ได้รับการสนับสนุนอากาศยาน นักบินและลูกเรือจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ในการเข้าร่วมฝึกซ้อมทางการแพทย์จากศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลบางบ่อและโรงพยาบาลสมุทรปราการ และมีหน่วยงานที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกซ้อม อาทิ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค จังหวัดสมุทรปราการกรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพอากาศ กรมการขนส่งทางอากาศ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองบัญชาการยุทธการทางอากาศ สถานีตำรวจภูธรราชาเทวะ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (AOC) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนผู้ประกอบการและสายการบินต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงาน ณ ทสภ.
นายฉัตร หาญพัฒนนันท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายบำรุงรักษาและสารสนเทศ) รักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึง กรณีที่มีข่าวว่า รถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน เนื่องจากประสบปัญหารถเข็นชำรุดและส่วนหนึ่งถูกขโมยนั้น จากรายงานล่าสุดพบว่าจำนวนรถเข็นกระเป๋าที่ให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คงเหลือใช้งานประมาณ 4,000 – 5,000 คัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหารถเข็นกระเป๋ามีน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของผู้โดยสาร ซึ่งปัญหาดังกล่าวทอท.ได้มีการเร่งรัดให้ บริษัท ไทย แอร์พอร์ต กราวด์ เซอรวิส จำกัด หรือ TAGS ผู้รับดำเนินการให้บริการรถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ กรณีที่รถเข็นกระเป๋าชำรุดและต้องส่งซ่อมนั้น ได้กำชับให้บริษัท TAGS ต้องดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง และหากกรณีรถเข็นกระเป๋าสูญหายนั้น ทาง TAGS จะต้องจัดหารถเข็นกระเป๋ามาให้บริการได้ครบตามจำนวนที่สัญญากำหนด และภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่นกัน หาก TAGS ไม่สามารถดำเนินการจัดหาได้ TAGS จะต้องเสียค่าปรับ เป็นเงิน 2,000 บาทต่อคันต่อวัน
นายฉัตรยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการปรับเงินบริษัท TAGS ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามทราบมาว่า ขณะนี้ TAGS อยู่ในระหว่างการเร่งจัดหารถเข็นกระเป๋ามาทดแทนให้อยู่ และในเบื้องต้น TAGS ได้จัดให้มีพนักงานเพิ่มเติมเพื่อคอยจัดเก็บและดูแลการให้บริการรถเข็นกระเป๋าให้มีจำนวนที่พอเพียงต่อการใช้งานในชั่วโมงเร่งด่วนไปพลางก่อน
สำหรับกรณีที่มีปัญหาการขโมยรถเข็นกระเป๋านั้นนายฉัตรกล่าวว่า ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการติดตามคนร้าย อาทิ การใช้ภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐานจับผิดคนร้าย การให้ความช่วยเหลือตำรวจในการจับกุม เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาทราบมาว่า ทางตำรวจได้มีการจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 รายและอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ ทอท. ได้มีการว่าจ้าง บริษัท ไทย แอร์พอร์ต กราวด์ เซอรวิส จำกัด หรือ TAGS (แท็กส์) เป็นผู้ดำเนินการให้บริการรถเข็นกระเป๋าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นผู้ดำเนินการ เป็นระยะเวลา 7 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.2549 – 28 ก.ย.2556 ในวงเงินว่าจ้างทั้งสิ้น 532,860,600 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
ตามสัญญาทางบริษัท TAGS จะต้องจัดหาและบริหารจัดการรถเข็นกระเป๋าขนาดต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ในการให้บริการด้วย โดยจำนวนรถเข็นกระเป๋าที่จะต้องมีให้บริการตามสัญญาจะมีจำนวนทั้งสิ้น 9,034 คัน แบ่งเป็นรถเข็นกระเป๋าขนาดกลาง จำนวน 7,000 คัน รถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน และรถเข็นกระเป๋าขนาดใหญ่ จำนวน 34 คัน และในการดำเนินงานนั้น ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ควบคุม กำกับดูแลและตรวจเช็คจำนวนของรถเข็นกระเป๋าว่า มีจำนวนที่ครบถ้วนตามที่สัญญากำหนดหรือไม่ โดยจะมีการสรุปรายงานเป็นประจำทุกสิ้นเดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อผู้บริหารของบริษัท TAGS แล้วแต่ได้รับการปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และข้อมูล โดยอ้างว่าไม่สะดวกและเรื่องนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบดูแลอยู่
สุวรรณภูมิซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี
น.ท.ประทีป วิจิตรโท รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ) ทอท.เปิดเผยว่า ในนี้ (24 ก.ย.) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะจัดให้มีการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน ประจำปี 2551 หรือ SEMEX 08 ระหว่างเวลา 08.30 – 12.00 น. บริเวณลานจอดอากาศยาน ด้านหน้าศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยจำลองสถานการณ์กรณีการปล้นยึดอากาศยานขณะปฏิบัติการบิน และขอนำลงจอดฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการฝึกซ้อม เต็มรูปแบบ(Full Scale Emergency Exercise) ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่ กำหนดให้ดำเนินการ อย่างน้อย 1 ครั้ง ทุก 2 ปี สลับกับการฝึกซ้อมบางส่วน (Partial Emergency Exercise) อย่างน้อยปีละครั้ง
สำหรับการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉิน จะช่วยให้หน่วยงานทั้งภายใน ทอท. และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องตามแผน ได้เรียนรู้ขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง สามารถควบคุมสั่งการ ประสานงานร่วมกัน ในการรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัย ทสภ. ให้ได้มาตรฐานตามที่ ICAO กำหนด สำหรับการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินในครั้งนี้ ทสภ. ได้รับการสนับสนุนอากาศยาน นักบินและลูกเรือจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ในการเข้าร่วมฝึกซ้อมทางการแพทย์จากศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลบางบ่อและโรงพยาบาลสมุทรปราการ และมีหน่วยงานที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกซ้อม อาทิ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค จังหวัดสมุทรปราการกรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพอากาศ กรมการขนส่งทางอากาศ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองบัญชาการยุทธการทางอากาศ สถานีตำรวจภูธรราชาเทวะ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (AOC) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนผู้ประกอบการและสายการบินต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงาน ณ ทสภ.
