ผู้จัดการรายวัน-สนข.เล็งใช้รถไฟฟ้าขนาดเบาก่อสร้างสายสีเหลืองและสายสีชมพู หวังลดต้นทุนก่อสร้าง ด้าน “สันติ”ย้ำหากเป็นรมว.คมนาคมอีกครั้งจะเร่งก่อสร้างรถไฟฟ้าทันที
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สนข. ได้ศึกษารายละเอียด แผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งให้นำระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (Monorail) มาใช้ ซึ่งพบว่าจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างลงได้สูงถึง 50% และเบื้องต้นสามารถปรับมาใช้รถไฟฟ้าขนาดเบาได้ 2 เส้นทาง ซึ่งสนข. จะทำการปรับแผน แผนการก่อสร้าง และการออกแบบรายละเอียดเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ในเดือนก.พ.2552
ทั้งนี้ 2 โครงการที่สามารถปรับแบบมาเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบาได้ คือ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) โดยช่วงที่เหมาะสมที่จะเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา คือ ช่วง 4 แยกรัชดาลาดพร้าว-หัวหมาก โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งไปบนถนนลาดพร้าว ระยะทางประมาณ 12 กม. สามารถไปเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่สถานีหัวหมาก 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-หลักสี่-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ ) ซึ่งจะตัดช่วงมาก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา จากถนนติวานนท์-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ- และบางซื่อ ซึ่งจะมาบรรจบกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีเขียวได้ด้วย ระยะทางประมาณ 10 กม.
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หากได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรมว.คมนาคมเช่นเดิม จะเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ส่วนปัญหาที่ติดขัดก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของกฎระเบียบและขั้นตอนการดำเนินงาน จะมีการแก้ไขและเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้าแต่ละสายให้เสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีเขียว สีน้ำเงิน และสายสีแดง
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สนข. ได้ศึกษารายละเอียด แผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งให้นำระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (Monorail) มาใช้ ซึ่งพบว่าจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างลงได้สูงถึง 50% และเบื้องต้นสามารถปรับมาใช้รถไฟฟ้าขนาดเบาได้ 2 เส้นทาง ซึ่งสนข. จะทำการปรับแผน แผนการก่อสร้าง และการออกแบบรายละเอียดเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ในเดือนก.พ.2552
ทั้งนี้ 2 โครงการที่สามารถปรับแบบมาเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบาได้ คือ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) โดยช่วงที่เหมาะสมที่จะเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา คือ ช่วง 4 แยกรัชดาลาดพร้าว-หัวหมาก โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งไปบนถนนลาดพร้าว ระยะทางประมาณ 12 กม. สามารถไปเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่สถานีหัวหมาก 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-หลักสี่-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ ) ซึ่งจะตัดช่วงมาก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา จากถนนติวานนท์-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ- และบางซื่อ ซึ่งจะมาบรรจบกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีเขียวได้ด้วย ระยะทางประมาณ 10 กม.
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หากได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรมว.คมนาคมเช่นเดิม จะเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ส่วนปัญหาที่ติดขัดก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของกฎระเบียบและขั้นตอนการดำเนินงาน จะมีการแก้ไขและเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้าแต่ละสายให้เสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีเขียว สีน้ำเงิน และสายสีแดง
