xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองใหม่ธรรมนำหน้ารื้อเวทีมัฆวานฯรับงานพระราชพิธีพระพี่นาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - "สนธิ" ย้ำการเมืองใหม่คือการใช้ธรรมนำหน้า ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ เตือนประเทศชาติไปไม่รอดถ้ายังย่ำอยู่ในระบบการเมืองเก่าที่เปรียบเหมือนมะเร็งร้ายที่กำลังเกาะกินบ้านเมืองจนแทบไม่มีอะไรเหลือ พันธมิตรฯเตรียมรื้อเวทีมัฆวานฯ 14-19 พ.ย. เพื่องานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพพระพี่นางฯ ย้ำการเมืองใหม่เลือกตั้ง 2 ทาง สกัดนายทุนครอบงำสภา ระบุ ส.ส.เขตต้องมีคุณธรรมมากกว่าคนธรรมดา สามารถถอดถอนได้ พร้อมคุยกับทุกคนที่มีอำนาจตัดสินใจเพื่อยุติชุมนุม ด้าน อภิสิทธิ์ แนะตัวแทนสาขาอาชีพตามการเมืองใหม่ควรอยู่กับวุฒิสภา ประธานชมรมส.ส.ร. 50 ชี้การเมืองใหม่เป็นได้ต้องแก้ในมาตราที่เกี่ยวกับ ส.ส. และ ส.ว.

วานนี้(22 ก.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวถึงการรักษาสุขภาพโดยเปรียบเทียบกับการเมืองเก่าและการเมืองใหม่ ว่า ทุกอย่างมันสอดคล้องและเกี่ยวข้องกัน
          นายสนธิ กล่าวถึงการดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยเป็นไข้หวัด ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ด้วยวิธีการธรรมชาติบำบัดเป็นหลัก โดยไม่ต้องพึ่งยา อย่างเช่น พาราเซตตามอล ซึ่งเป็นวิธีเคมีบำบัดและเมื่อกินยาประเภทนี้เข้าไปมากๆก็จะทำให้ร่างกายดื้อยา ดังนั้นสำหรับตัวเองใช้วิธีรักษาที่ต้นเหตุ คือการดูแลรักษาสุขภาพโดยใช้ธรรมชาติบำบัด ย้อนกลับไปสู่ธรรมชาติ เช่นไม่ดื่มน้ำเย็น ดื่มแต่น้ำอุ่นให้มากหรือถ้าหาไม่ได้ก็ให้ดื่มน้ำที่ไม่แช่เย็น ขณะเดียวกันก็ใช้สมุนไพรฟ้าทลายโจรในการฆ่าเชื้อแก้อาการเจ็บคอ เป็นต้น
นายสนธิได้เปรียบเทียบโยงมาถึงการเมืองใหม่ที่เอาธรรมนำหน้า เอาธรรมชาตินำหน้า ขณะที่การเมืองเก่าเปรียบเหมือนมะเร็ง มีแต่ความโกรธ ความโลภ ขณะที่การเมืองใหม่ก็คือความพอเพียง นั่นคือกินอย่างพอเพียง อยู่อย่างพอเพียงและใช้อย่างพอเพียง ใช้วิตอย่างสมดุล และทุกอย่างที่ทำต้องสมเหตุสมผล
"เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่หมายความว่าให้เลิกใช้รถยนต์ หรือเลิกความทันสมัย แต่ให้เลือกใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น เหมือนการเมืองใหม่ก็ต้องใช้จ่ายอย่างจำเป็นเท่านั้น บนพื้นฐานของความพอเพียง" นายสนธิ กล่าวเปรียบเทียบ
นายสนธิ กล่าวยกตัวอย่างการเมืองเก่าที่ตรงกันข้าม เช่นการจะสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ขณะที่รัฐสภาเก่ายังสามารถใช้ได้อีกเป็นร้อยปี หรือยกเลิกโครงการใหญ่ที่ไม่จำเป็น ซึ่งถึงเวลาแล้วที่ต้องทบทวนการใช้จ่าย เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เคยพูดเรื่องพลังงานแม้ว่าเราจะมีพลังงานมาก แต่เราต้องประหยัด การส่งไปขายต่างประเทศเพื่อนำเงินเข้ามา แต่ขณะเดียวกันเราต้องรักษาเอาไว้ให้ลูกหลานในอนาคต
นายสนธิ ยังได้กล่าวถึงแนวทางในการผสมผสานระหว่างแนวความคิดด้านตะวันตกกับตะวันออกให้ได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตามย้ำว่าประเทศไทยจะอยู่รอดไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียงและใช้การเมืองใหม่มาประยุกต์ใช้
***แจงการเมืองใหม่เลือกตั้ง2ทาง
ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (22 ก.ย.) พล.ต. จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต. จำลอง กล่าวว่าพันธมิตรฯได้เตรียม เปิดถนนราชดำเนิน และรื้อเวทีปราศรัยบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ รวมทั้งนำรถยนต์ออกจากพื้นที่ทั้งหมด ในช่วงวันที่14 -19 พ.ย. นี้ เพื่องานพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นไปโดยสมพระเกียรติ โดยจะใช้รถเคลื่อนที่แปลงเป็นเวทีปราศรัยแทน
สำหรับประเด็นการเมืองใหม่นั้น พล.ต. จำลอง ได้กล่าวถึงผลการเสวนาเรื่องการเมืองใหม่เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่า จากแนวคิดให้ ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง 100% โดยมาจาก 2 ทาง คือ 1. มาจากการเลือกตั้งจากเขตพื้นที่ และ2. มาจากกลุ่มอาชีพสาขาต่างๆ ทุกภาคส่วน ตามสัดส่วนประชากร เพื่อสกัดไม่ให้กลุ่มคนที่มีเงินมากๆ หรือนายทุนที่รวมตัวกันแล้วเข้ามาครอบงำระบบสภา ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ เมื่อทำผิดกฎหมายอะไรก็จะทำได้ง่าย โดยที่บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ขณะนี้กลุ่มอาชีพต่างๆ ที่มีมากมาย แต่ไม่สามารถเข้ามาเป็น ส.ส.ได้ ก็ต้องไปสวามิภักดิ์ให้กับนายทุนที่สนับสนุนพรรคการเมือง
ดังนั้นเพื่อป้องกันการควบคุมการบริหารนิติบัญญัติ และบริหาร จึงมีแนวคิดดังกล่าวออกมา แม้จะเหมือนการเมืองเก่า แต่การปกครองการเมืองใหม่ จะต้องปกครองประเทศแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พร้อมทั้งเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ซึ่งต่างจากการเมืองเก่าที่ทำได้เพียงชื่อว่าประชาธิปไตย แต่การปฏิบัติไม่มีเลย
พล.ต. จำลอง กล่าวว่า ระหว่างเสวนานายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตฯ สอบถามในวงเสวนาว่า เพราะเหตุใดคนที่มาเป็นรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ถึงไม่ได้ผล หลายคนในวงเสวนาจึงเสนอแนวคิดไปว่า คนที่จะลงสมัครส.ส. ในทุกเขต ทุกพื้นที่ ต้องมีคุณธรรมมากกว่าคนธรรมดา ส.ส.ก็จะต้องลงสัตยาบันว่า ประชาชนสามารถตรวจสอบ และถอดถอนเขาได้โดยศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเมืองใหม่ที่เสนอมีความแตกต่างจากการสรรหาอย่างไร พล.ต. จำลอง กล่าวว่า กลุ่มสาขาอาชีพ ที่เสนอเข้ามาต้องมีการเลือกตั้งทั้งหมด 100% ซึ่งคนที่เป็นกลุ่มอาชีพให้เขาเลือกกันเอง เช่นกลุ่มแรงงาน ชาวนา เขาเองมีบัญชีรายชื่อ เพียงแต่ต้องตกลงกันก่อนว่าจะเสนอใคร แล้วก็ให้ประชาชนทั้งประเทศมาเลือกอีกครั้งหนึ่ง โดยไม่ใช้วิธีการสรรหา อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงตุ๊กตา ที่พันธมิตรฯเสนอมา แต่รายละเอียดทั้งหมดต้องรอ ท่านผู้รู้ ออกมาช่วยกันคิด ช่วยกันหาทางออก
ยกตัวอย่าง คนที่มี 2 ฐานะ เช่นผมที่เป็นทั้ง ข้าราชการ และทหาร ก็ต้องจัดกลุ่ม ไม่ว่าประจำการ หรือเกษียณไปแล้ว ว่าจะลงสมัครในอาชีพใด เพื่อไม่ให้เอาเปรียบคนอื่น
ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า คนที่เป็นอาชีพอะไร ก็ไปลงอาชีพนั้น หากเป็น สื่อมวลชน ก็ไปสมัครในอาชีพสื่อ แล้วเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือก พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า คนที่เสนอมา พันธมิตรฯเลือกได้ 2 อย่างคือ เขตพื้นที่ก็ได้ กลุ่มอาชีพก็ได้ แต่นี่เป็นเพียงตุ๊กตาที่เสนอมาเท่านั้น สุดท้ายต้องช่วยกันคิด พิจารณาอย่างผู้รู้
ส่วนการเลือกตัวแทนมาจากกลุ่มอาชีพ จะคล้ายกับการสรรหา ส.ว. หรือไม่ พล.ต. จำลอง กล่าวว่า ไม่เหมือนกัน นั่นเป็นคณะกรรมการสรรหา กำหนดเพียงไม่กี่คน ไม่ใช่ตัวแทนประชาชนแท้จริง มันจึงต่างกัน
ด้านนายพิภพ กล่าวว่า ที่ประชุมมีการเสนอแนวคิดการเมืองใหม่ที่มีการเลือกตั้ง 100% ์ไม่ใช่ 50:50 อย่างที่สื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับนำเสนอ และสังคมทุกส่วนจะต้องช่วยกันคิดปรับปรุง พันธมิตรฯเพียงแต่เสนอแนวคิด
***พันธมิตรฯจัดเสวนาอีกรอบ27ก.ย.
นายสมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 27 ก.ย. นี้ เวลา 14 .00 น. ทางพันธมิตรฯจะจัดให้มีการเสวนา โดยเชิญ ผู้รู้ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และนักวิชาการ ประมาณ 40-50 คน โดยมีเป้าหมาย เพื่อต้องการให้สภา เต็มไปด้วยกลุ่มคนหลายสาชาอาชีพ เนื่องจากในปัจจุบันมีแต่กลุ่มนายทุน อันธพาล ท้องถิ่น เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีออกแบบให้สภา มีหลายสาขาอาชีพ เข้ามามีส่วนกำหนด มีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างแท้จริง และสามารถปรับเปลี่ยนได้
พล.ต. จำลอง กล่าวอีกว่า ขั้นสุดท้าย ต้องถามกลุ่มคนอาชีพต่างๆ ว่า ที่เข้ามาเป็น ส.ส. แล้วจะมีแบ่งแยกกลุ่มอาชีพกันอย่างไร แม้กลุ่มอาชีพจะมากมาย แต่ต้องมีวิธีการแบ่งกลุ่มอาชีพ ได้อย่างชัดเจน แม้อาจจะเป็นเรื่องยุ่งยาก มากกว่าการเลือกตั้งปกติ แต่ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว พันธมิตรฯจะต้องมุ่งการเมืองไปสู่การเมืองใหม่
***เปิดทางทุกคนเจรจา
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เสนอตัวเป็นคนกลางเข้ามาเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯว่า จะเป็นใครเข้ามา เจรจากับพันธมิตรฯ ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ขอให้เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ซึ่งการเจรจาจะเข้ามาพูดคุยกับเราหรือจะนัดเราออกไปคุยนอกทำเนียบก็ได้ แต่ขณะนี้คิดว่าคงไม่สะดวกที่จะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เพราะอาจถูกตำรวจจับ ทั้งนี้ การเจรจาจะพูดคุยทางโทศัพท์ก็สามารถทำได้และจะสะดวกกว่า
ส่วนการเจรจาคาดว่า พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ส.ส.ประชาธิปัตย์ จะเข้ามาร่วมเป็นคนกลางในการเจรจานั้น พล.ต.จำลอง ย้ำว่า เรายืนยันว่าเป็นใครก็ได้ ไม่มีปัญหา สำหรับความคืบหน้าในการเจรจากับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี นั้นยังไม่มีอะไรคืบหน้า รวมทั้งยังไม่มีการติดต่อมาเพิ่มเติมนอกจากนายสมชาย
ขณะที่นายพิภพ กล่าวถึงโฉมหน้า “ครม.สมชาย 1” ว่า เรายังไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ ขอรอความชัดเจนในการแต่ตั้ง ครม.ก่อน เพราะในขณะนี้ไม่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
***ปชป.แนะผู้แทนอาชีพควรอยู่ในวุฒิสภา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเมืองใหม่ซึ่ง กลุ่มพันธมิตรฯเสนอว่ามาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแต่จะแบ่งเป็นตัวแทนประชาชนโดยตรงกับตัวแทนสาขาอาชีพต่าง ๆ ว่า อย่างน้อยเรื่องที่ยอมรับกระบวนการของการเลือกตั้งน่าจะเป็นแนวคิดที่ดี แต่ส่วนตัวคิดว่าอาจจะใช้สูตรของ การมีผู้แทนอาชีพในวุฒิสภา และอาจจะมาพิจารณาดูว่าอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาควรจะมีเพิ่มเติมอย่างไร แต่หากปะปนกันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า การบริหารงานต่าง ๆ จะสะดวกหรือเป็นไปได้แค่ไหน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ควรจะมีการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น และไม่ควรจำกัดเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเดิมตนได้หวังว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญจะเป็นเวทีที่ระดมความเห็นตรงนี้ แต่เท่าที่ดูรู้สึกว่ายังเงียบอยู่
****แนะสมชายเบรกพปช.แก้รธน.
ส่วนกรณีที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนยังเดินหน้าจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปที่นายกรัฐมนตรีที่จะต้องแสดงให้เห็นว่า มีความเปลี่ยนแปลง และต้องกล้าที่จะบอกว่าเรื่องแบบนี้เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง และต้องพักเอาไว้ก่อน
สำหรับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุว่า คดีความที่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าปัญหาของพ.ต.ท.ทักษิณต้องแก้ด้วยกระบวนการยุติธรรม และนายสมชายในฐานะนายกรัฐมนตรีและเคยอยู่กระบวนการยุติธรรมมาควรจะต้องยืนยันเช่นนั้น หากยิ่งปล่อยให้ผ่านไปก็จะเป็นปัญหากับตัวเอง
****การเมืองใหม่เป็นจริงต้องแก้รธน.
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานชมรมส.ส.ร. 50 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พันธมิตรฯเสนอการเมืองใหม่ ว่า เป็นแนวคิดที่จะทำให้มีการเมืองรูปแบบใหม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ โดยให้มีที่มาจากการเลือกตั้ง และสาขาอาชีพอย่างละครึ่ง ทั้งนี้ในสาขาอาชีพจะต้องไม่สังกัดพรรค และหากจะทำให้จริงจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน โดยแก้ในมาตราที่เกี่ยวกับ ส.ส. และ ส.ว. แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องรอดูต่อไป ที่กำหนดให้มีการเมืองใหม่ เพราะเราต้องการให้การเมืองโปร่งใส แต่ตนยังคิดว่าจะทำให้เป็นการเมืองใหม่ได้จริงหรือไม่ อยู่ที่ตัวนักการเมือง ที่จะต้องไม่มีพฤติกรรมโกงการเลือกตั้ง หรือทุจริตคอรัปชั่น แนวคิดการเมืองใหม่ ก็เหมือนกับการปฏิรูปการเมือง เพียงแต่เรียกชื่อเสียใหม่ ที่ผ่านมาการเมืองไทยต้องการให้เกิดการปฏิรูปการเมือง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
นายเสรี กล่าวอีกว่า รูปแบบการเมืองใหม่ในขณะนี้ยังไม่ตกผลึกเป็นเพียงแค่แนวคิดยังต้องดีเบตกันอีกเพื่อให้เกิดรูปแบบที่แท้จริง แต่ถือเป็นเรื่องดีและเมื่อตกผลึกแล้วก็จะทำให้การเมืองดีขึ้น การเมืองบ้านเราต้องมีการลองผิดลองถูก อาจจะดีขึ้นหรือไม่ก็เป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง อย่างไรก็ตามตนมองว่าเป็นแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่ว่าจะตกลงกันอย่างไร แต่ที่สำคัญหากจะมีรูปแบบการเมืองใหม่จะต้องแก้รัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น