“พาณิชย์”สุดฟลุ๊ก น้ำมันพืชขอเบรกตัวเองไม่ปรับขึ้นราคา เหตุกลัวส่วนแบ่งตลาดหดหาย หลังช่องว่างราคาน้ำมันพืช น้ำมันถั่วเหลืองห่างกันถึง 10 บาท
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดได้แจ้งว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองตามที่ได้แจ้งขอกับกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่จำหน่ายในตลาดปรับลดลงมา ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำมันปาล์มห่างกันมากขึ้น จึงเกรงว่าผู้บริโภคจะหันไปบริโภคน้ำมันปาล์มทดแทนน้ำมันถั่วเหลือง
“ผู้ประกอบน้ำมันถั่วเหลืองขอถอนตัวที่จะปรับขึ้นราคาไว้ก่อน เพราะเกรงจะกระทบกับยอดขาย และยิ่งขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลง ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จะหันไปบริโภคน้ำมันปาล์มทดแทน”
นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ นายกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า ผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองจะชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้าในขณะนี้ เนื่องจากภาวะการแข่งขันในตลาดน้ำมันพืชไม่เอื้ออำนวยให้ปรับราคา จากแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนจะชะลอการปรับขึ้นราคาไปถึงเมื่อไร ต้องขอดูทิศทางราคาน้ำมันปาล์มและภาวะตลาดก่อน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด ตามมติของคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำน้ำมันพืชที่อนุมัติให้ปรับขึ้นขวดละ 4.50 บาท หรือจาก 49.50 บาท เป็น 54 บาทนั้น เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มในตลาดห่างกันถึงขวดละ 10 บาท โดยราคาน้ำมันปาล์มในท้องตลาดขณะนี้จำหน่ายอยู่ที่ขวดละ 39-40 บาทเท่านั้น ขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองจำหน่ายขวดละ 49.50 บาท เนื่องจากผลปาล์มดิบราคาตกต่ำตามภาวะตลาดโลก ทำให้ขณะนี้ยอดขายน้ำมันปาล์มปรับเพิ่มขึ้น 7-10% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่แบ่งมาจากตลาดน้ำมันถั่วเหลือง
“ตอนนี้คนบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองลดลง และหันไปบริโภคน้ำมันปาล์มแทน เห็นได้จากยอดขายน้ำมันปาล์มที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับขึ้นราคาอาจไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม” แหล่งข่าวกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (18 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยจะมีการหารือสถานการณ์ราคาข้าวโพดตกต่ำ เนื่องจากแนวโน้มราคาตลาดโลกลดลง โดยขณะนี้ราคาข้าวโพดในประเทศได้ปรับลดลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 7.85 บาท จากเดือนก.ค.ที่ราคาข้าวโพดกิโลกรัมละ 9.85 บาท เฉลี่ยแล้วตกเดือนละบาท เบื้องต้นอาจมีการกำหนดมาตรการแทรงแซงราคาข้าวโพด นอกจากนี้ จะหารือสถานการณ์กระเทียมไทยที่ยังถูกกระเทียมจีนตีตลาดอยู่ โดยจะหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดได้แจ้งว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองตามที่ได้แจ้งขอกับกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่จำหน่ายในตลาดปรับลดลงมา ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำมันปาล์มห่างกันมากขึ้น จึงเกรงว่าผู้บริโภคจะหันไปบริโภคน้ำมันปาล์มทดแทนน้ำมันถั่วเหลือง
“ผู้ประกอบน้ำมันถั่วเหลืองขอถอนตัวที่จะปรับขึ้นราคาไว้ก่อน เพราะเกรงจะกระทบกับยอดขาย และยิ่งขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลง ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จะหันไปบริโภคน้ำมันปาล์มทดแทน”
นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ นายกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า ผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองจะชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้าในขณะนี้ เนื่องจากภาวะการแข่งขันในตลาดน้ำมันพืชไม่เอื้ออำนวยให้ปรับราคา จากแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนจะชะลอการปรับขึ้นราคาไปถึงเมื่อไร ต้องขอดูทิศทางราคาน้ำมันปาล์มและภาวะตลาดก่อน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด ตามมติของคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำน้ำมันพืชที่อนุมัติให้ปรับขึ้นขวดละ 4.50 บาท หรือจาก 49.50 บาท เป็น 54 บาทนั้น เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มในตลาดห่างกันถึงขวดละ 10 บาท โดยราคาน้ำมันปาล์มในท้องตลาดขณะนี้จำหน่ายอยู่ที่ขวดละ 39-40 บาทเท่านั้น ขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองจำหน่ายขวดละ 49.50 บาท เนื่องจากผลปาล์มดิบราคาตกต่ำตามภาวะตลาดโลก ทำให้ขณะนี้ยอดขายน้ำมันปาล์มปรับเพิ่มขึ้น 7-10% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่แบ่งมาจากตลาดน้ำมันถั่วเหลือง
“ตอนนี้คนบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองลดลง และหันไปบริโภคน้ำมันปาล์มแทน เห็นได้จากยอดขายน้ำมันปาล์มที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับขึ้นราคาอาจไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม” แหล่งข่าวกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (18 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยจะมีการหารือสถานการณ์ราคาข้าวโพดตกต่ำ เนื่องจากแนวโน้มราคาตลาดโลกลดลง โดยขณะนี้ราคาข้าวโพดในประเทศได้ปรับลดลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 7.85 บาท จากเดือนก.ค.ที่ราคาข้าวโพดกิโลกรัมละ 9.85 บาท เฉลี่ยแล้วตกเดือนละบาท เบื้องต้นอาจมีการกำหนดมาตรการแทรงแซงราคาข้าวโพด นอกจากนี้ จะหารือสถานการณ์กระเทียมไทยที่ยังถูกกระเทียมจีนตีตลาดอยู่ โดยจะหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
