เดลิเมล์ - ผลศึกษาพบผู้หญิงตื่นตระหนกกับฝันร้ายมากกว่าผู้ชาย ซ้ำในฝันยังเต็มไปด้วยเหตุการณ์ตึงเครียด และทำให้จำขึ้นใจได้มากกว่าเมื่อลืมตาตื่น
นักจิตวิทยากล่าวว่า อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในตัวผู้หญิง ซึ่งสืบเนื่องจากรอบเดือน เป็นสาเหตุที่ทำให้ความฝันแจ่มชัดและรบกวนจิตใจและอารมณ์ได้มากกว่า
การค้นพบนี้มาจากการศึกษาอาสาสมัคร 170 คนของมหาวิทยาลัยเวสต์ ออฟ อิงแลนด์
“เราพบว่าผู้หญิงฝันร้ายบ่อยกว่าผู้ชาย” ดร.เจนนี ปาร์กเกอร์ ผู้ทำการวิจัยบอก
เมื่อถูกขอให้บันทึกความฝันล่าสุดที่เกิดขึ้น นักศึกษาชาย 19% บอกว่าฝันร้าย เทียบกับ 30% ในกลุ่มนักศึกษาหญิง
ผลศึกษาที่มีกำหนดตีพิมพ์ในวารสารฉบับหนึ่งยังพบว่า ความฝันของผู้หญิงสร้างปฏิกิริยาทางอารมณ์ได้มากกว่า
ดร.ปาร์กเกอร์เชื่อว่า ฝันร้ายกระตุ้นให้สมอง ‘จดจำ’เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดและรบกวนจิตใจ
“หนึ่งในสิ่งที่คนเราทำคือ นำความฝันเหล่านี้เข้าสู่หมวดหมู่ของฝันร้าย ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายประเภท แต่ผู้หญิงเคยฝันร้ายมากกว่าผู้ชาย”
ดร.ปาร์กเกอร์จำแนกฝันร้ายไว้อย่างน้อย 3 ประเภท โดยทุกประเภทสามารถกระตุ้นให้สมองจดจำปฏิกิริยาต่อสถาการณ์ความเครียดหรือสถานการณ์อันตรายได้
ประเภทแรกคือการถูกตามล่า ประเภทต่อมาเกี่ยวข้องกับการสูญเสียพ่อแม่ ลูก หรือคนรัก สุดท้ายเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่พิลึกพิลั่น
การศึกษาในอดีตหลายชิ้นเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายกับความฝัน
ปกติแล้ว อุณหภูมิร่างกายของผู้หญิงจะสูงขึ้นหลังการตกไข่ หรือครึ่งทางของรอบเดือน และลดลงอีกครั้งหลังจากเริ่มต้นมีประจำเดือน
ดร.ปาร์กเกอร์เสริมว่า มีหลักฐานที่เชื่อมโยงความฝันกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกายในวงจรรอบเดือน
“ช่วงก่อนมีประจำเดือน ผู้หญิงมักฝันถึงเหตุการณ์ที่รุนแรง และมีแนวโน้มว่าจะจำฝันเหล่านั้นแม่นกว่าปกติ”
ผู้เชี่ยวชาญบางคนแย้งว่า ผู้หญิงอาจไม่ได้ฝันร้ายบ่อยกว่า แต่สาเหตุอาจมาจากการที่ผู้หญิงจำได้และนำความฝันนั้นมาเล่าสู่มากกว่าผู้ชาย
ดร.คริส ไอดิโคว์สกี ผู้อำนวยการเอดินเบิร์ก สลีป เซนเตอร์ มองว่ามีความแตกต่างอย่างมากในเรื่องความฝันของผู้หญิงและผู้ชาย
“ผู้หญิงจำความฝันได้มากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ผู้หญิงมักพูดถึงชีวิตในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าผู้ชาย จึงมีความสามารถในการจดจำได้มากกว่า”
ทั้งนี้ ความฝันเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการนอนปกติและเกิดขึ้นทุกคืน แม้หลายคนยืนยันว่าไม่ได้ฝันก็ตาม และเรามักจำฝันร้ายได้มากที่สุดหากตื่นขึ้นมากลางคัน
นักจิตวิทยากล่าวว่า อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในตัวผู้หญิง ซึ่งสืบเนื่องจากรอบเดือน เป็นสาเหตุที่ทำให้ความฝันแจ่มชัดและรบกวนจิตใจและอารมณ์ได้มากกว่า
การค้นพบนี้มาจากการศึกษาอาสาสมัคร 170 คนของมหาวิทยาลัยเวสต์ ออฟ อิงแลนด์
“เราพบว่าผู้หญิงฝันร้ายบ่อยกว่าผู้ชาย” ดร.เจนนี ปาร์กเกอร์ ผู้ทำการวิจัยบอก
เมื่อถูกขอให้บันทึกความฝันล่าสุดที่เกิดขึ้น นักศึกษาชาย 19% บอกว่าฝันร้าย เทียบกับ 30% ในกลุ่มนักศึกษาหญิง
ผลศึกษาที่มีกำหนดตีพิมพ์ในวารสารฉบับหนึ่งยังพบว่า ความฝันของผู้หญิงสร้างปฏิกิริยาทางอารมณ์ได้มากกว่า
ดร.ปาร์กเกอร์เชื่อว่า ฝันร้ายกระตุ้นให้สมอง ‘จดจำ’เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดและรบกวนจิตใจ
“หนึ่งในสิ่งที่คนเราทำคือ นำความฝันเหล่านี้เข้าสู่หมวดหมู่ของฝันร้าย ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายประเภท แต่ผู้หญิงเคยฝันร้ายมากกว่าผู้ชาย”
ดร.ปาร์กเกอร์จำแนกฝันร้ายไว้อย่างน้อย 3 ประเภท โดยทุกประเภทสามารถกระตุ้นให้สมองจดจำปฏิกิริยาต่อสถาการณ์ความเครียดหรือสถานการณ์อันตรายได้
ประเภทแรกคือการถูกตามล่า ประเภทต่อมาเกี่ยวข้องกับการสูญเสียพ่อแม่ ลูก หรือคนรัก สุดท้ายเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่พิลึกพิลั่น
การศึกษาในอดีตหลายชิ้นเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายกับความฝัน
ปกติแล้ว อุณหภูมิร่างกายของผู้หญิงจะสูงขึ้นหลังการตกไข่ หรือครึ่งทางของรอบเดือน และลดลงอีกครั้งหลังจากเริ่มต้นมีประจำเดือน
ดร.ปาร์กเกอร์เสริมว่า มีหลักฐานที่เชื่อมโยงความฝันกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกายในวงจรรอบเดือน
“ช่วงก่อนมีประจำเดือน ผู้หญิงมักฝันถึงเหตุการณ์ที่รุนแรง และมีแนวโน้มว่าจะจำฝันเหล่านั้นแม่นกว่าปกติ”
ผู้เชี่ยวชาญบางคนแย้งว่า ผู้หญิงอาจไม่ได้ฝันร้ายบ่อยกว่า แต่สาเหตุอาจมาจากการที่ผู้หญิงจำได้และนำความฝันนั้นมาเล่าสู่มากกว่าผู้ชาย
ดร.คริส ไอดิโคว์สกี ผู้อำนวยการเอดินเบิร์ก สลีป เซนเตอร์ มองว่ามีความแตกต่างอย่างมากในเรื่องความฝันของผู้หญิงและผู้ชาย
“ผู้หญิงจำความฝันได้มากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ผู้หญิงมักพูดถึงชีวิตในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าผู้ชาย จึงมีความสามารถในการจดจำได้มากกว่า”
ทั้งนี้ ความฝันเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการนอนปกติและเกิดขึ้นทุกคืน แม้หลายคนยืนยันว่าไม่ได้ฝันก็ตาม และเรามักจำฝันร้ายได้มากที่สุดหากตื่นขึ้นมากลางคัน